[NEW] เอกสารประกอบการสอน การประมาณและวิเคราะห์ราคางานก่อสร้าง-Flip eBook Pages 101 – 150 | ทาคางิ – Australia.xemloibaihat

3-15
ตวั อยำ่ งที่ 3.4 จงหำปริมำณวสั ดุคำนคอดิน โดยใหแ้ ยกเปน็ งำน โดยไม่เผอ่ื ปริมำณวสั ดใุ ดๆ

คอนกรีตผสมเสร็จ . ค่ำวัสดุ 1,500 บำท/ลบ.ม ค่ำแรง 400 บำท/ลบ.ม
แบบหลอ่ คอนกรีตเหล็ก(เช่ำ) คำ่ วสั ดุ 150 บำท/ตร.ม. (รวมคำ่ ติดต้ังแลว้ )

รูปท่ี 3.5 ภำพลกั ษณะแปลนพนื้ ประกอบตัวอยำ่ ง 3.4

3-16

รปู ที่ 3.6 ภำพลักษณะพ้ืนคอนกรตี ประกอบตัวอยำ่ ง 3.4
วิธกี ำรประมำณกำรงำนพืน้ คอนกรีต

1. ประมำณกำรงำนพืน้ คอนกรตี S ขนำด 1.00 x 3.60 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ช่วง
ขนำด 2.00 x 2.20 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ชว่ ง
ขนำด 2.00 x 1.40 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ชว่ ง
ขนำด 3.00 x 4.00 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ชว่ ง
ขนำด 3.00 x 1.00 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ชว่ ง
ขนำด 3.50 x 4.00 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 2 ช่วง
ขนำด 1.00 x 4.00 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ช่วง
ขนำด 1.00 x 3.00 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 2 ชว่ ง
ขนำด 2.00 x 1.00 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ช่วง

= ((1.00×3.60)+(2.00×2.20)+(2.00×1.40)+(3.00×4.00)+(3.00×1.00)+(3.50×4.00×2)
+(1.00×4.00)+(1.00×3.00)+(2.00×1.00))x0.08 = 5.024 ลบ.ม.
2. ประมำณกำรงำนพื้นคอนกรีต S0 ขนำด 3.00 x 5.00 ม. หนำ 0.08 ม. จำนวน 1 ชว่ ง
= 3.00 x 5.00 x 0.08 = 1.20 ลบ.ม.
3. ประมำณกำรพ้ืนคอนกรีต รำยกำรที่ (1) ถงึ รำยกำรที่ (2)

= 5.024 + 1.20 = 6.224 ลบ.ม.
4. ประมำณกำรงำนไม้แบบหลอ่ พนื้ S ขนำด 1.00 x 3.60 ม. จำนวน 1 ชว่ ง

ขนำด 2.00 x 2.20 ม. จำนวน 1 ชว่ ง
ขนำด 2.00 x 1.40 ม. จำนวน 1 ช่วง
ขนำด 3.00 x 4.00 ม. จำนวน 1 ช่วง
ขนำด 3.00 x 1.00 ม. จำนวน 1 ช่วง
ขนำด 3.50 x 4.00 ม. จำนวน 2 ช่วง
ขนำด 1.00 x 4.00 ม. จำนวน 1 ชว่ ง

3-17

ขนำด 1.00 x 3.00 ม. จำนวน 2 ชว่ ง

ขนำด 2.00 x 1.00 ม. จำนวน 1 ช่วง

= (1.00×3.60)+(2.00×2.20)+(2.00×1.40)+(3.00×4.00)+(3.00×1.00)+(3.50×4.00×2)

+(1.00×4.00)+(1.00×3.00)+(2.00×1.00) = 62.80 ตร.ม.

5. ประมำณกำรงำนไมแ้ บบหล่อพนื้ S0 ขนำด 3.00 x 5.00 ม. จำนวน 1 ชว่ ง

= 3.00 x 5.00 x = 15.00 ตร.ม.

6. ประมำณกำรไมแ้ บบหล่อพน้ื รำยกำรที่ (4) ถึง รำยกำรที่ (5)

= 62.80 + 15.00 = 77.80 ตร.ม.

วิธีกำรประมำณกำรคำ่ วัสดงุ ำนพ้ืนคอนกรตี

7. คอนกรตี ผสมเสรจ็ = 6.224 (ลบ.ม) x 1,500 (บำท) = 9,336 บำท

8. แบบหลอ่ คอนกรตี เหลก็ = 77.80 (ตร.ม.) x 150 (บำท) = 11,670 บำท

9. รวมคำ่ วสั ดุ รำยกำร (7) ถึง (8)

= 9,336+11,670 = 21,006 บำท

วิธกี ำรประมำณกำรคำ่ แรงงำนพน้ื คอนกรตี

10. คอนกรตี ผสมเสร็จ = 6.224 (ลบ.ม) x 400 (บำท) = 2,490 บำท

11. แบบหลอ่ คอนกรีตเหล็ก(รวมในค่ำวัสดุแลว้ )

12. รวมคำ่ วสั ดุ รำยกำร (10) ถงึ (11)

= 2,490 + 0 = 2,490 บำท

รวมค่ำวัสดแุ ละคำ่ แรงในกำรทำโครงสรำ้ งพนื้ คอนกรตี รำยกำร (9)+(12)

= 21,006+ 2,490 = 23,496 บำท

3.4.4 กำรวเิ ครำะหป์ รมิ ำณงำนเสำคอนกรตี

– คอนกรีตโครงสรำ้ งเสำคอนกรีต

ปริมำณคอนกรีตโครงสรำ้ งเสำคอนกรีต = พ้ืนท่ีหนำ้ ตัดของเสำ x ควำมสูงของเสำ

– แบบหล่อคอนกรตี หรอื ไม้แบบเสำสีเ่ หลย่ี ม

ปริมำณไมแ้ บบเสำ=เส้นรอบรปู ของเสำ x ควำมสงู ของเสำ

ตวั อยำ่ งที่ 3.5 จงหำปรมิ ำณวัสดุเสำคอนกรตี โดยให้แยกเปน็ งำน โดยไมเ่ ผ่อื ปริมำณวสั ดุใดๆ

กำหนดให้ เสำ C1 = 0.20 x 0.20 ม. สงู 3.00 ม.

เสำ C2 = 0.20 x 0.20 ม. สงู 3.00 ม.

เสำ C3 = 0.10 x 0.10 ม. สูง 3.00 ม.

คอนกรีตผสมเสรจ็ . ค่ำวสั ดุ 1,500 บำท/ลบ.ม ค่ำแรง 400 บำท/ลบ.ม

แบบหลอ่ คอนกรตี เหลก็ (เช่ำ) คำ่ วัสดุ 150 บำท/ตร.ม. (รวมคำ่ ตดิ ต้ังแล้ว)

3-18
รปู ที่ 3.7 ภำพลกั ษณะแปลนเสำคอนกรตี ประกอบตวั อย่ำง 3.5

3-19

วิธกี ำรประมำณกำรงำนเสำคอนกรีต

1. ประมำณกำรงำนคอนกรีตเสำ C1 = 0.20 x 0.20 ม. สูง 3.00 ม. จำนวน 9 ตน้

C2 = 0.20 x 0.20 ม. สูง 3.00 ม. จำนวน 4 ตน้

C3 = 0.10 x 0.10 ม. สูง 3.00 ม. จำนวน 12 ตน้

= (0.20×0.20×3.00×9)+(0.20×0.20×3.00×4)+(0.10×0.10×3.00×12)

= 1.92 ลบ.ม

2. ประมำณกำรงำนไมแ้ บบเสำ C1 = เสน้ รอบรปู เสำ 0.20 x 0.20 ม. สูง 3.00 ม.

จำนวน 9 ตน้

C2 = เสน้ รอบรูปเสำ 0.20 x 0.20 ม. สงู 3.00 ม.

จำนวน 4 ต้น

C3 = เสน้ รอบรปู เสำ 0.10 x 0.10 ม. สงู 3.00 ม.

จำนวน 12 ต้น

= (0.20x4x3.00×9)+(0.20x4x3.00×4)+(0.10x4x3.00×12)

= 45.60 ตร.ม

วิธกี ำรประมำณกำรคำ่ วัสดุงำนพ้นื คอนกรตี

3. คอนกรตี ผสมเสรจ็ = 1.92 (ลบ.ม) x 1,500 (บำท) = 2,880 บำท

4. แบบหลอ่ คอนกรีตเหล็ก = 45.60 (ตร.ม.) x 150 (บำท) = 6,840 บำท

5. รวมค่ำวัสดุ รำยกำร (3) ถงึ (4)

= 2,880+6,840 = 9,720 บำท

วธิ ีกำรประมำณกำรค่ำแรงงำนพ้ืนคอนกรีต

6. คอนกรตี ผสมเสร็จ = 1.92 (ลบ.ม) x 400 (บำท) = 768 บำท

7. แบบหลอ่ คอนกรีตเหล็ก(รวมในคำ่ วสั ดแุ ล้ว)

8. รวมค่ำวสั ดุ รำยกำร (6) ถึง (7)

= 768 + 0 = 768 บำท

รวมค่ำวัสดุและค่ำแรงในกำรทำโครงสรำ้ งพนื้ คอนกรตี รำยกำร (5)+(8)

= 9,720+ 768 = 10,488 บำท

3-20

จำกตัวอย่ำงกำรประมำณกำรต้ังแต่ตัวอย่ำงที่ 3.3 ถึงตัวอย่ำงที่ 3.5 น้ัน จะพบว่ำเป็นแบบอำคำร

เดียวกนั ดงั นั้นรำคำสำมำรถสรุปประมำณค่ำวัสดแุ ละค่ำแรงได้ทัง้ หมด

ตวั อย่ำงท่ี 3.3 รวมคำ่ วัสดแุ ละค่ำแรงเป็นจำนวนเงิน = 19,710 บำท

ตวั อยำ่ งที่ 3.4 รวมค่ำวสั ดุและค่ำแรงเปน็ จำนวนเงิน = 23,496 บำท

ตวั อยำ่ งท่ี 3.5 รวมค่ำวสั ดแุ ละค่ำแรงเป็นจำนวนเงิน = 10,488 บำท

รวมค่ำวัสดแุ ละคำ่ แรงทง้ั โครงกำรเป็นจำนวนเงนิ

= 19,710 + 23,496 + 10,488 = 53,694 บำท

โดยกำรประมำณกำรจำกตวั อย่ำงน้นั ยงั ไม่ได้พจิ ำรณำของกำรเผื่อวัสดุใดๆ ในกำรประมำณกำรเพ่ือ

นำเสนอรำคำนน้ั จะต้องประกอบไปดว้ ยกำรเผือ่ วัสดุและค่ำแรงตำมที่อธิบำยไว้ในหน่วยท่ี 1 ทั้งกำรเผ่ือวัสดุ

และค่ำแรงนั้นต้องเป็นไปตำมสภำพกำรทำงำนในบริเวณท่ีก่อสร้ำงจริง ดังนั้นกำรประมำณรำคำต้องใช้ผู้มี

ประสอบกำรณ์ในกำรทำงำนในกำรนำเสนอรำคำ เพือ่ ลดควำมเสยี่ งในกำรประมำณรำคำผิดพลำด

3-21

ใบงานวิชา การประมาณและวิเคราะหร์ าคางานกอ่ สรา้ ง รหสั วชิ า 503-37-02 แผน่ ที่
หนว่ ยท่ี 3 การประมาณราคางานคอนกรีตและไม้แบบ วันท่ี

จงประมำณกำรคำ่ วัสดุคอนกรีตโครงสรำ้ งอำคำรและไม้แบบ ควำมสูงเสำ 3.50 ม. จำกระดับ +0.00 ม.

กำหนดใหใ้ ชก้ ำลงั คอนกรตี กำลังอดั ประลยั 240 กก.ซม. ด้วยวธิ ีกำรคอนกรตี ผสมกบั ท่ี (Mix in place

concrete) วเิ ครำะหก์ ำรวัสดุผสม โดยกำหนดค่ำวสั ดดุ ังต่อไปนี้

ปนู ซเี มนต์ รำคำ 2.50 บำท/กก.

หินเบอร์ 2 รำคำ 735 บำท/ลบ.ม.

ทรำบหยำบ รำคำ 450 บำท/ลบ.ม.

นำ้ สะอำด รำคำ 25 บำท/ลบ.ม.

ไมแ้ บบ รำคำ 50 บำท/ตร.ม.

ภำพขยำยฐำนรำก F1

ภำพแปลนพ้นื ช้นั ลำ่ ง 3-22
ภำพขยำยพ้นื GS ภำพขยำยพ้นื S1

ภำพขยำยรำยละเอียดคำนชน้ั 1

3-23

ใบงานวิชา การประมาณและวเิ คราะห์ราคางานกอ่ สรา้ ง รหสั วิชา 503-37-02 แผน่ ที่
หนว่ ยที่ 3 การประมาณราคางานคอนกรีตและไม้แบบ วันที่

3-24

วธิ ีสอน 1. บรรยำยในสว่ นทีเ่ ป็นควำมร้พู ้ืนฐำนหลกั กำรและทฤษฎี
และกิจกรรม 2. แสดงโจทยต์ วั อย่ำงกำรคำนวณจำกแหลง่ อ่ืนๆ
3. ใหน้ กั ศึกษำได้มสี ่วนร่วมในกำรอภิปรำยและแสดงควำมคิดเหน็
ส่ือการสอน 4. สอบถำมควำมเข้ำใจและสรปุ บทเรยี น
5. มอบหมำยงำนให้นักศกึ ษำค้นควำ้ นอกเวลำเรยี น

กวี หวังนเิ วศน์กุล. (2552). กำรประมำณรำคำงำนวิศวกรรม
หนังสอื อา้ งองิ ก่อสร้ำง

กรณุ ำพร รตั นภผู ำ. (2561). ประมำณรำคำงำนโครงสร้ำง
วสิ ูตร จิระดำเกงิ . (2546). กำรประมำณรำคำกอ่ สรำ้ ง
พภิ พ สนุ ทรสมัย (2556). กำรประมำณรำคำก่อสร้ำง

เอกสารประกอบ

วสั ดุโสตทัศน์ เอกสำร Power Point

งานท่มี อบหมาย 1. ให้กำรบ้ำนท้ำยหนว่ ยเรียน
การวดั ผล ใช้หลักกำรประเมนิ ผลแบบอิงเกณฑว์ ตั ถปุ ระสงค์ โดยนำข้อมลู จำก

หมายเหตุ 1. สังเกตพฤตกิ รรมกำรร่วมกจิ กรรมในกำรเรยี นกำรสอน
2. ซกั ถำมควำมเข้ำใจ
3. กำรมอบหมำยงำนคน้ คว้ำ
4. ผลงำนจำกกำรบ้ำนท่ีได้รบั มอบหมำย

4-1

สปั ดาหท์ ่ี 4-6 ใบเตรียมการสอน รหสั วิชา 503-37-02

เวลา 15 คาบ หนว่ ยท่ี 4 การประมาณราคางานเหลก็ เสริมคอนกรีต

ชอ่ื บทเรยี น
4.1 ชนดิ และมาตรฐานเหลก็ เสรมิ คอนกรีต
4.2 การวเิ คราะหป์ ริมาณงานเหลก็ เสริมคอนกรตี
จุดประสงค์การสอน

4.1.1 มีความรแู้ ละความเขา้ ใจความหมายและวัตถปุ ระสงค์ของการประมาณราคางานเหลก็ เสรมิ
คอนกรีต

4.1.2 มีความรแู้ ละความเข้าใจหลกั การการประมาณราคางานเหล็กเสรมิ คอนกรีต
4.1.3 มคี วามร้แู ละความเขา้ ใจประเภทและวัสดุของงานเหลก็ เสรมิ ทใ่ี ช้ในการถอดแบบ
4.1.4 มคี วามรู้และความเขา้ ใจการอ่านแบบและเข้าใจแบบก่อสร้างในงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต
4.1.5 สามารถคานวณหาปริมาณและประมาณราคางานเหลก็ เสรมิ คอนกรีต

4-2

การประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีต
แนะนาบทเรียน

การประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตหรือทั่วไปจะเรียกว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ใน
หน่วยท่ีแล้วได้กล่าวไปถึงของการประมาณการคอนกรีตและไม้แบบไปแล้วน้ัน การประมาณราคางาน
คอนกรีตที่สมบูรณ์นัน้ ส่ิงทีข่ าดไม่ไดเ้ ลยคือ การประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีต การใช้คอนกรีตเสริม
เหล็กในปัจจุบัน ถือว่าเป็นวัสดุโครงสร้างอันดับแรกท่ีวิศวกรเลือกใช้เป็นอันดับต้น ในการออกแบบดังนั้น
การประมาณราคาวสั ดุ คอนกรตี เสริมเหล็กจงึ เป็นพนื้ ฐานในการประมาณราคา โดยท่กี ารประมาณราคาของ
วัสดุเหลก็ เสรมิ คอนกรีตนั้น ไม่ใช้เพียงการประมาณราคาตามจานวนเหล็กเสริมและความยาวเท่านั้น แต่ยัง
ต้องคาถึงถึงมาตรฐานการการทางานของเหล็กเสริม ประเภทของเหล็กเสริมด้วย เนื่องจากการการทางาน
ของเหล็กเสริมในคอนกรีตเสริมเหล็กน้ันมีมาตรฐาน การทางานที่จะต้องสอดคล้องกับมาตรฐานการ
ออกแบบด้วย เช่น มาตรฐาน วิศวกรรมสถาน (วสท.) ที่จะครอบคลุมไปถึงหลังการและข้อกาหนดของ
ผู้ออกแบบ เช่นระยะทาบเหล็ก ระยะ งอขอเองเหล็กเสริมในแต่ละประเภทและขนาดต่างๆ โดยทั้งหมดท่ี
กล่าวมานน้ั นั้นจะอธบิ ายตอ่ ไปในหัวขอ้ ตา่ งๆ
4.1 ชนดิ ของเหล็กเสรมิ คอนกรีต

การประมาณการเหล็กเสริมคอนกรีตน้ันจะต้องเป็นไปตามที่ผู้ท่ีออกแบบกาหนดตามมาตรฐานการ
ออกแบบ โดยทว่ั ไปนนั้ จะมีเหล็กเสรมิ อย่ดู ว้ ยกนั ใน 2 ชนิดดว้ ยกนั

1.) เหลก็ เสน้ กลม (Round Bar, RB) มีลักษณะเป็นเสน้ ตรงท่มี ผี ิวของเส้นเหล็กเรียบ
2.) เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar, DB) มลี ักษณะเป็นเหลก็ เสน้ เหลก็ มบี ้ังหรอื ครบี นูน
3.) เหลก็ ตะแกรงสาเรจ็ รูป (Wire Mesh) มีลักษณะเป็นตะแกรงเหล็กท่ีนาเหล็กเส้นมาเชื่อมติดกัน
ใหเ้ ปน็ เน้ือเดยี วกนั โดยท่ชี ่วยให้ลดระยะเวลาการทางานของการผูกเหลก็ ตะแกรงได้ มีขนาด 2 – 9 มม. มัก
ใช้ในงานพื้น งานถนนเป็นต้น โดยที่จะขนส่งมาเป็นม้วนเหล็กหรือมาเป็นแผ่นตามขนาดท่ีสั่ง เพื่อลด
ระยะเวลาการทางาน
ทั่วไปนั้นความยาวของเหล็กเสริมคอนกรีตนั้นจะมีวามยาวมาตรฐานที่ความยาว 10 เมตรและ 12
เมตรต่อเส้น แตใ่ นการประมาณงานเหลก็ เสรมิ คอนกรตี น้ันเราจะประมาณการเป็นหน่วย กิโลกรัม แทนเพื่อ
ลดความผิดพลาด และเข้าในในการสงั่ วสั ดหุ รอื สื่อสารระหวา่ งผูท้ างานรว่ มกัน
4.1.1 มาตรฐานเหลก็ เสรมิ คอนกรตี จะถูกกาหนดไปดว้ ยปจั จัยหลายๆ อยา่ งประกอบไปดว้ ย

1.) คุณภาพเหล็ก หรือความสามารถในการรบั แรงดึง โดยทว่ั ไปนัน้ จะมดี ้วยกัน
เช่น SR 24 (Standard Round Bar) สามารถในการรับแรงดึง 2,400 กก./ตร.ซม. ส่วนใหญ่จะพบในงาน
เหลก็ เสน้ กลมหรือเหลก็ ตะแกรงสาเร็จรูป สว่ นเหล็กขอ้ ออ้ ยนนั้ จะใช้ตัวย่อ SD (Standard Deformed Bar)
โดยท่ีจะมีช้ันคุณภาพ 30 ,40 และ 50 สามารถในการรับแรงดึง 3,000 กก./ตร.ซม. , 4,000 กก./ตร.ซม.
และ5,000 กก./ตร.ซม. โดยที่คุณภาพเหล็กนั้นจะต้องเป็นไปตามท่ีผู้ออกแบบกาหนดเพื่อให้โครงสร้างรับ
แรงได้ตามทอี่ อกแบบ

4-3

2.) น้าหนักเหล็ก/หน่วยการวัด ในการประมาณการเหล็กเสริมคอนกรีตน้ันจะถูกาหนดให้

ใช้หน่วยเป็น กิโลกรัมเสมอ ยกเว้นใช้กรณีสั่งวัสดุจะใช้หน่วยเป็นเส้น และขนาดของเหล็ก น้าหนักของ

เหลก็ ในแตล่ ะประเภทจะมีวา่ แตกต่างกนั โดยทัว่ ไปนั้นหน่วยน้าหนักเหล็กจะอยู่ที่ประมาณ 7,700 กก./ลบ.

ม. และสามารถหานา้ หนกั เหลก็ ได้ด้วยวิธีการน้ี

7,700 (กก./ลบ.ม.) x ขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางเหล็ก(ม.)2

4

หรอื ขนาดเส้นผา่ นศูนยก์ ลางเหลก็ (มม.)2

162

โดยที่น้าหนักที่ได้จะเป็นน้าหนัก กิโลกรัมต่อเมตร และนามาคูณกับความยาวของเหล็กเส้นที่

ตอ้ งการ

ตัวอยา่ งที่ 4.1 จงหาน้าหนักของเหล็กเสริมคอนกรีตขนาดเสน้ ผา่ นศูนย์กลาง9มม.ความยาวเหล็ก10 ม./เสน้

วิธีท่ี 1 7,700 x 0.0092 = 0.4898 ≈ 0.50 กก./ม.

4 = 0.50 กก./ม.
= 0.50 (กก./ม.) x 10 (ม./เส้น)
วธิ ที ่ี 2 92

162

นามาคณู กับความยาว

= 5 กก./ม.

ตารางท่ี 4.1 น้าหนักมาตรฐานของเหลก็ เสน้ กลม (กรุณาพร ,2561)

4-4

ตารางท่ี 4.2 น้าหนักมาตรฐานของเหล็กเสน้ ขอ้ อ้อย (กรุณาพร ,2561)

ในการคิดน้าหนักเหล็กน้ันจะสอดคล้องกลับการเลือกความยาวของเหล็กเส้นท่ีใช้ ว่าจะเป็นความ
ยาวขนาดใด เนื่องจากต้องพิจารณาถึงวิธีการทางานข้อกาหนดต่างๆ เช่น วิธีการต่อทาบ การต่อดาม การ
เชือ่ มตอ่ ข้อตอ่ เกลยี ว การงอเหล็ก

4-5
ตารางที่ 4.3 ความหนาหุม้ เหลก็ เสรมิ คอนกรตี ในงานแต่ละประเภท ตามมาตรฐานวิธหี น่วยแรงใชง้ าน

(กรณุ าพร ,2561)

4.1.2 มาตรฐานการทางานเหล็กเสรมิ คอนกรีต
1.) การต่อทาบเหล็กเสรมิ คอนกรตี
ระยะทาบเหล็กเส้นกลม
SR24 > 48 เทา่ ของ d หรอื > 60 ซม. (แรงดงึ )
SR24 < 60 เท่าของ d หรอื > 60 ซม. (แรงอดั )
หมายเหตุ : ระยะทางต้องไม่น้อยกว่า 60 ซม. ในทุกกรณี

รปู ที่ 4.1 ระยะทาบเหล็กเสริมเสน้ กลม (กวี ,2552)
ระยะทาบเหล็กเส้นข้ออ้อย (รบั แรงดึง)
SD 50 > 36 เทา่ ของ d หรือ > 30 ซม.
SD 40 > 30 เท่า ของ d หรอื > 30 ซม.
SD 30 > 24 เทา่ ของ d หรอื > 30 ซม.

4-6

ระยะทาบเหลก็ เสน้ ข้ออ้อย (รบั แรงอัด)
SD 50 > 30 เท่า ของ d หรือ > 30 ซม.
SD 40 > 24 เท่า ของ d หรอื > 30 ซม.
SD 30 > 20 เท่า ของ d หรือ > 30 ซม.
หมายเหตุ : ระยะทางตอ้ งไมน่ อ้ ยกว่า 30 ซม. ในทกุ กรณี

รปู ท่ี 4.2 ระยะทาบเหลก็ เสริมขอ้ อ้อย (กวี ,2552)
2.) การต่อดามเหล็กเสริมคอนกรีต มีด้วยกันใน 2 ลักษณะ ต่อทาบโดยใช้เหล็กดาม และ
ต่อทาบด้วยอุปกรณ์ข้อต่อเกลียว โดยท่ีการต่อทาบโดยใช้เหล็กด้ามต้องมีระยะไม่น้อยกว่า 80 เท่า
ของขนาดเหล็ก ในส่วนการต่อทาบด้วยอุปกรณ์ข้อต่อเกลียวน้ันต้องเป็นไปตามมาตรฐานของ
อปุ กรณ์ทใี่ ช้
หมายเหตุ : 1. การต่อทาบนัน้ จะไม่ต่อทาบในบริเวณที่รับแรงดงึ สูงสุด

2. การตอ่ ทาบดว้ ยเหล็กดามขนาดเหล็กตอ้ ไมเ่ กินเสน้ ผา่ นศูนย์กลาง 25 มม.
3. การต่อทาบเหล็กทมี่ ขี นาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางเกนิ กว่า 25 มม. ใช้วธิ ีเช่อื ม
3.) การงอปลาย การงอปลายเหล็กต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ที่ระยะการงอจะแตกต่างกัน
แล้วแต่รูปแบบการงอ โดยท่ีลักษณะการงอจะแบ่งเป็นองศาในการงอ คือ งอ 90˚ , 135˚ และ
180˚ ในทุกกรณีตอ้ งเปน็ การดดั เหลก็ ดว้ ยวธิ ีการดดั เยน็

4-7

รูปท่ี 4.3 มาตรฐานการงอปลายเหล็กเส้น (กวี ,2552)
3.) การงอคอม้า การงอคอม้านั้นจะพบในท้ังการเสริมเหล็กในพื้นและคาน มีหน้าท่ีรับแรง
เฉือนในโครงสร้าง ป้องกันการฉีกขาดของโครงสร้าง โดยลักษณะจะเป็นการใช้เหล็กเส้นเดียวจาก
เหล็กเสริมบนและดัดเหล็ก 45˚ ลงมาเป็นเหล็กเสริมล่าง ดังในภาพ 4.4 โดยในการทางานนั้นเรา
จะดัดเหล็กล่วงหนา้ และนาไปประกอบ ดงั นั้นจึงตอ้ งมีการคานวณหาระยะการงอ

รูปท่ี 4.4 มาตรฐานการงอคอมา้ (กวี ,2552)
4.) การงอเหล็กปลอก เหมือนการงอปลายเหล็ก แต่การงอเหล็กปลอกนั้นจะต้อมีการทา
ตามาตรฐานเช่นกัน ท่ีจะต้องมีความยาวเพ่ิมจากเส้นรอบรูปเสาตามาตรฐานการเสริมเหล็ก โดยท่ี
จะตอ้ งมีระยะ 6 เท่าของ เส้นผ่านศนู ยก์ ลางเหลก็ ปลอก และไมน่ ้อยกวา่ 6 ซม.

4-8

4.2 การวิเคราะห์ปริมาณงานเหล็กเสริมคอนกรีต

การวิเคราะห์และหาปริมาณงานเหลก็ เสรมิ คอนกรีตนน้ั จะมีวธิ กี ารทไี่ มแ่ ตกตา่ งจากวิธีการวิเคราะห์

การประมาณการงานคอนกรีตมากนัก แต่ท่ีแตกต่างอย่างมากเลยน้ันก็คือมาตรฐานความสามารถในรับแรง

และรายะละเอียดของการวิเคราะห์จะมีความซับซ้อนท่ีมากกว่า เนื่องจากในงานวิเคราะห์ปริมาณงานเหล็ก

เสริมคอนกรีตนัน้ จะมีองค์ประกอบต่างๆทีเ่ ยอะมากกว่ามาก เช่น ประเภทของเหล็กเสริม มาตรฐานคุณภาพ

วัสดุ มาตรฐานการเผื่อวัสดุต่างๆ มาตรฐานของงานในแต่ละประเภทนั้นล้วนแล้วจะส่งผลต่อการวิเคราะห์

ทง้ั ส้ิน ดังนน้ั จึงขอสรุปขั้นตอนการวเิ คราะห์ขนั้ ตอนเบื้องตน้ ออกเปน็ ดังต่อไปน้ี

1. มาตรฐานในการรับแรงของเหล็กเส้น เชน่ SR 24 SD 30 SD 40 เป็นตน้

2. ชนิดของเหลก็ เสริมทีใ่ ช้ เช่น เหลก็ เส้นกลม เหลก็ เสริมข้ออ้อย นา้ หนักของเหลก็ เสริม เปน็ ตน้

3. มาตรฐานระยะหุ้มเหล็กเสรมิ คอนกรตี ในงานแตล่ ะประเภท เช่น เสา คาน พื้น เป็นตน้

4. มาตรฐานการทางานเหลก็ เสรมิ คอนกรีต เช่น การตอ่ ทาบ การงอปลาย เป็นต้น

5. การสูญเสยี เหลก็ จากการตดั เหล็กไปใช้ เช่น เศษเหลก็ ไม่สามารถนาไปใช้ในบริเวณอน่ื ๆได้

6. วิธกี ารทางานยาก-งา่ ย เชน่ ตัด ดดั เหล็กดว้ ยมือ/เครอื่ ง การเครื่องยา้ ยวัสดุ เป็นต้น

7. ประเภทโครงสรา้ งทกี่ ่อสรา้ ง เช่น บ้าน โกดัง หรอื อาคารสูง เป็นตน้

8. การเผ่อื ปริมาณวัสดเุ หล็กเสรมิ ในแต่ละชนดิ

9. การวิเคราะหค์ า่ แรง และคา่ ดาเนนิ งาน

ท้ังนจ้ี ากขนั้ ตอนเบอ้ื งต้นนนั้ จะขออธิบายในรายละเอียดเพ่มิ เติมตอ่ ไป โดยทบี่ างหัวข้อน้ันได้อธิบาย

แล้วตง้ั แตห่ ัวขอ้ 4.1 ในเรอื่ ง มาตรฐานในการรับแรงของเหล็กเส้น ,ชนิดของเหล็กเสริม ,มาตรฐานระยะหุ้ม

เหล็กเสรมิ ,มาตรฐานการทางานเหลก็ เสริมคอนกรีต

4.2.1 การเผื่อปริมาณวัสดุเหล็กเสริมคอนกรีตตามมาตรฐาน “แนวทางการวัดปริมาณงาน

ก่อสร้างอาคาร” ของ วศิ วกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ (วสท.)

ตารางที่ 4.4 ประมาณการเผ่ือวสั ดเุ หล็กเสริมตามมาตรฐาน วสท. (กวี ,2552)

ขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางเหลก็ เสริม (มม.) ประมาณการเผื่อ (%)

65

9 และ10 7

12 9

15 และ16 11

19 และ20 13

≥ 25 15

ในการประมาณการเผ่ือวัสดุเหล็กเสริมน้ันจะทาการคานวณการเผ่ือเพียงครั้งเดียวเน่ืองจากการ

เผอ่ื หลายคร้งั น้นั จะทาใหเ้ กิดการประมาณการทีม่ ากเกนิ กว่าเป็นจรงิ เปน็ การเผ่อื แบบซา้ ซ้อน

4-9

ตวั อย่างท่ี 4.2 จงทาการประมาณการเผื่อวัสดุเหล็กเสริมเปรียบเทียบด้วยวธิ กี ารเผอ่ื วสั ดุแยกและเผ่ือวสั ดุ

รวมครง้ั เดยี ว โดยกาหนดให้

ปรมิ าณเหล็กเสรมิ โครงสร้างคานคอดนิ ใชเ้ หล็กเสริมขนาด

6 มม. จานวน 200 กโิ ลกรมั

12 มม. จานวน 764 กิโลกรัม

20 มม. จานวน 963 กโิ ลกรัม

ปรมิ าณเหล็กเสริมโครงสรา้ งพน้ื ชัน้ 1 ใชเ้ หล็กเสรมิ ขนาด

9 มม. จานวน 542 กโิ ลกรมั

12 มม. จานวน 134 กิโลกรมั

ปริมาณเหล็กเสรมิ โครงสร้างคานชน้ั 2 ใชเ้ หล็กเสรมิ ขนาด

6 มม. จานวน 184 กิโลกรมั

12 มม. จานวน 542 กโิ ลกรมั

20 มม. จานวน 1,438 กิโลกรัม

ปรมิ าณเหลก็ เสรมิ โครงสรา้ งพื้นช้ัน 2 ใชเ้ หลก็ เสรมิ ขนาด

9 มม. จานวน 542 กิโลกรมั

12 มม. จานวน 134 กโิ ลกรมั

วิธีการท่ี 1 วิธีการเผ่ือวสั ดแุ ยก ตามการประมาณเผอ่ื วสท.

ปรมิ าณเหล็กเสริมโครงสรา้ งคานคอดินใชเ้ หล็กเสริมขนาด

6 มม. จานวน 200 (กก.) x 1.05 = 210 กก.

12 มม. จานวน 764 (กก.) x 1.09 = 833 กก.

20 มม. จานวน 963 (กก.) x 1.13 = 1,089 กก.

ปรมิ าณเหล็กเสริมโครงสรา้ งพน้ื ชั้น 1 ใชเ้ หลก็ เสริมขนาด

9 มม. จานวน 542 (กก.) x 1.07 = 580 กก.

12 มม. จานวน 134 (กก.) x 1.09 = 147 กก.

ปริมาณเหล็กเสรมิ โครงสรา้ งคานช้ัน 2 ใช้เหล็กเสรมิ ขนาด

6 มม. จานวน 184 (กก.) x 1.05 = 194 กก.

12 มม. จานวน 542 (กก.) x 1.09 = 591 กก.

20 มม. จานวน 1,438 (กก.) x 1.13 = 1,625 กก.

ปรมิ าณเหล็กเสรมิ โครงสร้างพืน้ ชน้ั 2 ใช้เหล็กเสริมขนาด

9 มม. จานวน 542 (กก.) x 1.07 = 580 กก.

12 มม. จานวน 134 (กก.) x 1.09 = 147 กก.

4-10

รวมปรมิ าณเหล็กเสริมโครงสรา้ งทั้งหมด

6 มม. = 210 +194 = 404 กก.

9 มม. = 580 +580 = 1,160 กก.

12 มม. = 833 +147 + 597 + 147 = 1,724 กก.

20 มม. = 1,089 + 1,625 = 2,714 กก.

รวมปริมาณเหลก็ เสรมิ โครงสร้าง และประมาณเผื่อ วสท.

6 มม. = 404 (กก.) x 1.05 = 425 กก.

9 มม. = 1,160 (กก.) x 1.07 = 1,242 กก.

12 มม. = 1,724 (กก.) x 1.09 = 1,880 กก.

20 มม. = 2,714 (กก.) x 1.13 = 3,067 กก.

รวมปริมาณเหลก็ เสริมโครงสรา้ งทงั้ หมด

425 + 1,242 + 1,880 + 3,067 = 6,614 กก.

วิธกี ารที่ 2 เผ่ือวัสดุรวมครั้งเดียว

รวมปรมิ าณเหล็กเสริมโครงสร้างท้ังหมดท้ัง 2 ช้ัน

6 มม. = 200 +184 = 384 กก.

9 มม. = 542 +542 = 1,160 กก.

12 มม. = 764 +134 + 542 + 134 = 1,574 กก.

20 มม. = 963 + 1,438 = 2,401 กก.

รวมปริมาณเหลก็ เสรมิ โครงสรา้ ง และประมาณเผ่ือ วสท.

6 มม. = 384 (กก.) x 1.05 = 404 กก.

9 มม. = 1,160 (กก.) x 1.07 = 1,242 กก.

12 มม. = 1,574 (กก.) x 1.09 = 1,716 กก.

20 มม. = 2,401 (กก.) x 1.13 = 2,714 กก.

รวมปรมิ าณเหล็กเสริมโครงสร้างทั้งหมด

404 + 1,242 + 1,716 + 2,714 = 6,074 กก.

เมือ่ นาวธิ กี ารท่ี 1 มาเทียบกับวิธกี ารท่ี 2 แล้วนั้นจะพบวา่ วธิ ีการท่ี 1 จะมปี รมิ าณมากกวา่ ถงึ 538 กก.

จากตัวอย่างท่ี 4.2 น้ันจะพบว่าการประมาณการเผ่ือนั้นจะส่งผลเป็นอย่างมากในการประมาณการ

และยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนค่าแรงงานที่ใช้ และการวางแผนงานในการจัดการ

เคร่ืองจักรในการทางานด้วย ซงึ่ อาจจะทาให้การประมาณการน้นั เกิดความเสียหายยังรนุ แรงแก่โครงการ

4-11

4.2.2 ลกั ษณะการเสริมเหล็กในคอนกรีตในส่วนประกอบอาคารตา่ งๆ

(ก) ฐานรากแผ่ (ข) ฐานรากเด่ยี ว

รปู ท่ี 4.5 ลกั ษณะการเสริมเหลก็ ในคอนกรตี ในงานฐานราก (กรณุ าพร ,2561)

(ก) การเสรมิ เหล็กหลกั ในคาน

(ข) การเสริมเหลก็ หลกั และเหลก็ คอม้าในคาน
รูปท่ี 4.6 ลกั ษณะการเสริมเหลก็ ในคอนกรีตในงานคาน (กรุณาพร ,2561)

4-12

(ค) การเสริมเหล็กหลกั และเหล็กเสริมพเิ ศษในคาน
รูปท่ี 4.6 (ต่อ) ลักษณะการเสริมเหล็กในคอนกรีตในงานคาน (กรณุ าพร ,2561)

(ก) แบบขยายพ้ืนวางบนดนิ

(ข) การเสริมเหลก็ ในพืน้ วางบนดิน

(ค) แบบขยายพ้นื แบบทางเดียว (One way slab)
รูปท่ี 4.7 ลักษณะการเสริมเหล็กในคอนกรีตในงานพน้ื (กรุณาพร ,2561)

4-13

(ง) การเสริมเหล็กในพนื้ แบบทางเดยี ว (One way slab)

(จ) แบบขยายพนื้ แบบสองทาง (Two way slab)

(ฉ) การเสริมเหล็กในพนื้ แบบสองทาง (Two way slab)
รูปที่ 4.7 (ต่อ) ลักษณะการเสรมิ เหล็กในคอนกรตี ในงานพน้ื (กรณุ าพร ,2561)

4-14

(ช) แบบขยายพืน้ แบบพนื้ ย่นื

(ซ) การเสริมเหล็กในพนื้ แบบพื้นยืน่
รปู ท่ี 4.7 (ตอ่ ) ลักษณะการเสรมิ เหลก็ ในคอนกรตี ในงานพ้นื (กรณุ าพร ,2561)
4.2.3 รายการตัดเหลก็ เสริม (Bar-Cut List)
เป็นการวาแผนการตัดวัสดุเหล็กเสริมคอนกรีต โดยที่วิธีการการนี้เป็นการประมาณการแบบ
ละเอียดท่ีต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญแลมีความรอบคอบในการพิจารณา ปกตินั้นวิธีการนี้จะอยู่ในข้ันตอนการส่ง
ข้อมลู ให้ช่างเหล็กเป็นผดู้ าเนินการตัดเหลก็ ตามจานวนเพ่อื นามาประกอบโครงสร้าง ในการทาแผน Bar-Cut
List น้ัน เปน็ การวางแผนการใช้เศษวสั ดุจากการทางานให้เกิดการสูญเสียให้น้อยท่ีสุด โดยท่ีวิธีการน้ีจะเป็น
วิธีการที่สามารถลดตน้ ทุนใหก้ บั โครงการเปน็ อย่างมาก คาดการณ์การวัสดุได้ล่วงหน้า รู้มูลค่าเศษเหลือจาก
วสั ดทุ ใ่ี ช้ และสามารถนาเปน็ ข้อมลู มาตรฐานในการคิดปรมิ าณวัสดุกลางใหก้ ับผู้รบั เหมาช่วงต่อไปได้ เทคนิค
ในการวางแผน Bar-Cut List นั้นต้องกาหนดถึงความยาวเหล็กเส้นท่ีจะถูกนามาใช้ในโครงการ มาตรฐาน
การทางาน ข้อกาหนดตา่ งๆ ในการทางาน และต้องมีการทาความเข้าใจกับแบบก่อสร้างโดยละเอียดเพ่ือให้
ทราบจานวนและตาแหน่งทใี่ ช้

4-15
4.2.4 การสรุปขอ้ มลู การวเิ คราะห์การประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรตี
ในการวิเคราะห์ปริมาณของเหล็กเสริมน้ัน เราจะพิจารณาแยกเป็นๆส่วนของโครงสร้าง โดยที่เม่ือ
เราได้ทาการวเิ คราะห์ถึงข้อมูลทั้งหมดของโครงสร้างแล้วนั้นต้องทาการสรุปปริมาณที่จะใช้เพื่อให้เกิดความ
ง่ายในการสง่ ตอ่ ข้อมลู และการนาข้อมูลไปใช้ต่อในหน่วยงานอ่ืนๆ เช่น ฝ่ายจัดซ้ือวัสดุ ฝ่ายควบคุมปริมาณ
การใช้วัสดุ
ตารางท่ี 4.5 ตวั อย่างสรปุ จานวนเหล็กเสริมคอนกรตี (หนว่ ย : เส้น ;10 ม./เส้น) (พิภพ ,2556)

โดยท่ีจากตารางท่ี 4.5 นน้ั เราสามารถที่จะนาข้อมูลจากการวิเคราะห์ปริมาณคอนกรีตและไม้แบบ
ในบทที่แล้วนามาสรปุ ได้ดว้ ยเช่นกนั

4-16

ตารางที่ 4.6 ตัวอย่างสรุปจานวนวัสดทุ ีใ่ ชใ้ นงานโครงสร้างทั้งหมด (พิภพ ,2556)

ตัวอย่างที่ 4.3 ทารายการตัดเหล็กเสริม (Bar-Cut List) ฐานรากแผ่ ให้ใช้เหล็กเสริมความยาว 10 ม. โดย
กาหนดให้

รูปท่ี 4.8 ลกั ษณะการเสริมเหลก็ ในฐานราก ตวั อยา่ งที่ 4.3 (กรุณาพร ,2561)
1. มาตรฐานการทางาน ฐานราก ระยะหุ้มคอนกรีตที่อยู่กับดินตลอดเวลา อยู่ที่ 7.5 ซม. เลือกใช้
8.0 ซม.
2. ระยะงอปลาย 180˚ ท่ีปลายทง้ั สองด้านของเหล็ก

– สว่ นงอ = D/2 = (1.6)/2 ≈ 2.50 ซม.

4-17

– สว่ น 4d = 4 x 1.6 ≈ 6.50 ซม

รวมระยะงอท้งั หมด 2.5 + 6.5 = 9.00 ซม.

ดังนน้ั เหลก็ เสริมในฐานรากจะมคี วามยาวตอ่ เส้นท่ี

2.00 (ม.) – 0.08 (ม.) x 2 ดา้ น + 0.09 (ม.) x 2 ดา้ น = 2.02 ม./เส้น

ตารางที่ 4.7 ตวั อยา่ งการทารายการตัดเหลก็ เสริม (Bar-Cut List) ฐานรากแผ่

Bar Bar shape Dia. A B C ความยาว จานวน

No. (มม.) (ม.) (ม.) (ม.) (ม.) (ทอ่ น)

1B C 16 1.84 0.09 0.09 2.02 20

A

3.วางแผนการตดั เหลก็ เสรมิ กาหนดให้เหลก็ เสริมยาว 10 ม./เส้น

เหล็กยาว 2.02 ม.จานวน 4 เส้น เศษเหลอื 1.92 ม. จานวน 1 เส้น

เหล็กยาว 10 ม.
จากข้อมลู ข้อ (1) (2) (3) นั้นสามารถสรุปไดว้ ่า
เหล็กขนาด 16 มม. ยาว 10 ม./เสน้ สามารถ ตดั ได้ 4 ท่อน และมีเศษ 1.92 ม. 1 ทอ่ น
ดังนั้นฐานรากแผ่ฐานน้ีต้องใช้ เหล็กขนาด 16 มม. ยาว 10 ม. จานวน 5 เส้น และมีเศษ 1.92 ม.
จานวน 5 ท่อน
จากตัวอย่าง 4.3 น้ันจะพบว่า เป็นการวางแผนการตัดเหล็กเสริมคอนกรีต โดยเศษจากการตัดน้ัน
จะไม่สามารถนาไปใช้ในการสร้างฐานรากได้ เนอื่ งจากมีความยาวไม่เพียงพบ แต่เมื่อเราทาการวาง รายการ
ตัดเหล็กเสริม (Bar-Cut List) ทั้งโครงการแล้วน้ันจะพบว่าสามารถท่ีจะนาเศษจาการตัดเหล็กนี้น้ันไปใช้ใน
บริเวณอื่นได้ ไม่เกิดการสูญเสียอย่างไร้ประโยชน์ และจากตัวอย่างนี้น้ัน ถ้าปรับเปลี่ยนเหล็กให้ความยาว
มากข้ึนอาจจะสามารถลดเศษการตดั ของเหล็กลงได้ โดยการทารายการตัดเหล็กเสริม (Bar-Cut List) นั้นจะ
มจี ดุ ประสงคใ์ ห้เศษจากการตัดเหล็กมีจานวนน้อยท่ีสุดและให้มีความยาวมากที่สุดเพื่อที่จะสามารถนาไปใช้
ในบริเวณอ่ืนได้
ปัจจุบนั ได้มบี รษิ ทั ผลิตเหล็กขนาดใหญ่ได้มีบริการเหลก็ เส้นข้ึนรูปตัดและดัด ตามขนาดและจานวน
ที่โครงการกาหนด เรียกว่า “Cut and Bend”เช่น ในบริษัท TATA Steel เป็นต้น โดยที่มีจุดประสงค์ใน
การลดเศษจากการตัด ความรวดเร็วในการทางาน ควบคุมคุณภาพในการทางาน ลดต้นทุน ง่ายต่อการ
จัดการบริเวณพ้ืนที่ก่อวัสดุ โดยงบประมาณที่จะสูญเสียจากเศษการตัดน้ันจะได้ไม่เกิดข้ึน แต่ในวิธีดังกล่าว
นั้นจะต้องมีผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้านเข้ามาดูแลโดยตรง เน่ืองจากถ้ามีความผิดพลาดจะส่งผลต่อต้นทุนเป็น
อย่างมาก

4-18

4.2.4 แนวทางในการวิเคราะห์ค่าแรง

ในการประมาณการราคาน้ันจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก คือ 1.) การประมาณการค่าวัสดุท่ีใช้

2.) การประมาณการค่าแรงท่ีใช้ในการทางาน 3.) ค่าดาเนินการ/กาไร ในส่วนแนวทางการวิเคราะห์

ค่าแรงงานเหล็กเสริมคอนกรตี นั้นจะมแี นวทางดังต่อไปนี้

1. ความสามารถในการผลิตหรือความสามารถในการทางาน โดยท่ีข้ันตอนน้ีจะข้นอยู่กับลักษณะ

งานท่ีทา ความยาก-งา่ ยของงาน และเคร่ืองมอื /เคร่ืองจกั รทใ่ี ช้ทางาน

2. ต้นทุนค่าแรง และค่าเคร่ืองจักร จะประกอบไปด้วยอัตราค่าจ้างแรงงานท่ีให้แก่แรงงานก่ีบาท

รวมไปถึงตน้ ทนุ เครอ่ื งมือทใ่ี ชท้ างาน ถา้ เปน็ เคร่ืองมืออาจจะอยู่ในรูปของการเช่าเคร่ืองมือ หรืองบลงทุนซ้ือ

เครอ่ื งมือ

ตวั อยา่ งท่ี 4.4 จงวิเคราะห์ต้นทุนค่าแรงการทางานเหลก็ เสรมิ คอนกรตี โดยกาหนดให้ต่อไปนี้

– การทางานตัดเหล็ก 1 ชุด ประกอบไปดว้ ยแรงงาน 3 คน

– ค่าจา้ งแรงงานรายวนั 300 บาท/คน/วัน

– สถิติการทางานตัดเหลก็ ขนาดเล็ก (6 ถงึ 12 มม.) ทางานได้ 90 กก./คน

– สถิติการทางานตัดเหล็กขนาดใหญ่ (≥16 มม.) ทางานได้ 130 กก./คน

– คา่ ดาเนนิ การ/กาไร รวมไปถึงงบลงทุนเคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ทางาน 15%

แนวทางการวิเคราะหต์ ้นทนุ ในการตัดเหลก็ ขนาดเลก็

1. แรงงานทใ่ี ช้ทางาน จานวน 3 คน

2. ค่าจา้ งแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วนั

3. สถติ กิ ารทางานทางานได้ 80 กก./คน

4. คา่ แรงที่ใช้ 3 (คน) x 300 (บาท/วนั ) = 900 บาท/วัน

5. ตน้ ทุนค่าแรงท่ีใช้ในการดัดเหล็ก 900 (บาท) / [90 (กก./คน) x 3 (คน)] = 3.34 บาท/กก.

6. ค่าดาเนนิ การ/กาไร 15 % = 3.34 (บาท/กก.) x 1.15 = 3.84 บาท/กก.

แนวทางการวิเคราะห์ตน้ ทุนในการดดั เหลก็ ขนาดใหญ่

1. แรงงานทใ่ี ชท้ างาน จานวน 3 คน

2. คา่ จ้างแรงงานรายวนั 300 บาท/คน/วนั

3. สถิตกิ ารทางานทางานได้ 130 กก./คน

4. ค่าแรงทใี่ ช้ 3 (คน) x 300 (บาท/วัน) = 900 บาท/วนั

5. ต้นทุนค่าแรงทใี่ ช้ในการตัดเหล็ก 900 (บาท) / [130 (กก./คน) x 3 (คน)] = 2.31 บาท/กก.

6. ค่าดาเนินการ/กาไร 15 % = 2.31 (บาท/กก.) x 1.15 = 2.66 บาท/กก.

จากตัวอย่าง 4.4 น้ันจะพบว่า ต้นทุนการประมาณค่าแรงงานตัดเหล็กของเหล็กขนาดเล็กน้ันจะมี

ต้นทนุ ที่สูงกวา่ งานตัดเหล็กขนาดใหญ่ เนือ่ งจากสถิติการทางานท่ีเหล็กขนาดเล็กนั้นทางานได้น้อยกว่าเหล็ก

ขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าจะพิจาณาแล้วนั้นเหล็กขนาดเล็กมีน้าหนักต่อหน่วยที่น้อยกว่าเหล็กขนาดใหญ่เลยส่งผล

4-19

การวิเคราะห์ต้นทุนแรงงานแตกต่างกัน โดยท่ีต้นทุนการประมาณค่าแรงงานสามารถนาไปเป็นมาตรฐาน
ราคากลางเปรียบเทยี บเพ่อื รับงานได้ด้วย
ตัวอย่างที่ 4.5 จงหาวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตในฐานรากต่อไปน้ี ด้วยวิธีการเผ่ือวัสดุ

ตามมาตรฐาน วสท. โดยกาหนดให้
– คา่ วัสดุเหล็กเสริมคอนกรตี ราคากิโลกรัมละ 23 บาท
– ไม่ต้องพิจารณามาตรฐานการทางานเหล็กเสริมคอนกรีต เชน่ ระยะต่อทาบ การงอปลาย
เปน็ ตน้ แตใ่ ห้พิจารณาการเผือ่ ปริมาณวสั ดตุ ามมาตรฐานของ วสท. แนะนาแทน
– กาหนดความหนาห้มุ เหล็กเสริมคอนกรตี ตามมาตรฐานวิธหี นว่ ยแรงใช้งาน
– แรงงานทีใ่ ชท้ างาน จานวน 3 คน
– การทางานตัดเหล็ก 1 ชุด ประกอบไปด้วยแรงงาน 3 คน
– ค่าจ้างแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วนั
– สถิตกิ ารทางานตดั เหล็กขนาดเลก็ (6 ถงึ 12 มม.) ทางานได้ 80 กก./คน
– สถิติการทางานตดั เหล็กขนาดใหญ่ (≥16 มม.) ทางานได้ 130 กก./คน
– คา่ ดาเนนิ การ/กาไร รวมไปถงึ งบลงทุนเครื่องมอื ที่ใชท้ างาน 17%
– ไม่ตอ้ งพจิ ารณา ปริมาณเหลก็ เสรมิ ในเสาตอม่อ

4-20

แนวทางการวเิ คราะห์ประมาณวัสดุงานเหล็กเสรมิ คอนกรตี

1. มาตรฐานการรบั แรงดึงของเหล็กเสริม ไม่ไดก้ าหนด

2. ขนาดเหล็กเสรมิ ทใ่ี ช้ DB-12 มม.

3. จานวนเหลก็ เสริมท่ีใช้ 12 ท่อน/ฐาน

4. มาตรฐานความหนาหมุ้ เหล็กเสริมคอนกรีต 7.5 ซม. ≈ 8.0 ซม

5. การเผ่ือปรมิ าณวัสดุตามมาตรฐานของ วสท. ขนาดเหล็ก 12 มม. = 9 %

6. น้าหนักเหลก็ เสริมขนาด 12 มม. = 0.888 กก./ม.

7. หาความยาวเหลก็ เสรมิ ในฐานราก [ความกว้างฐาน – (ระยะหุ้มคอนกรีต x 2)]

2.00 – (0.08 x 2) = 1.84 ม./ทอ่ น

8. จานวนเหล็กเสรมิ ทต่ี ้องใช้ในฐานราก (ความยาว x จานวนเหลก็ เสรมิ )

1.84 x 12 = 22.08 ม./ฐาน

9. หาน้าหนักเหลก็ เสรมิ ทใี่ ช้ (ความยาวทั้งหมด x น้าหนักเหลก็ เสริมต่อเมตร)

22.08 x 0.888 = 19.61 กก./ฐาน

10. หาการเผอ่ื ปริมาณวสั ดุตาม วสท. (ปริมาณวัสดทุ ี่ใช้ x มาตรฐานการเผื่อ)

19.61 x 1.09 = 21.38 กก./ฐาน

แนวทางการวเิ คราะห์ประมาณค่าวสั ดุงานเหล็กเสริมคอนกรตี

11. ราคาคา่ วสั ดเุ หลก็ เสรมิ คอนกรีต 23 บาท/กก.

12. หาตน้ ทุนค่าวสั ดุงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต (ปรมิ าณวัสดุทีใ่ ช้ท่ีเผอื่ แลว้ x ค่าวสั ด)ุ

21.38 x 23 = 492 บาท/ฐาน

แนวทางการวิเคราะหป์ ระมาณคา่ แรงงานเหลก็ เสรมิ คอนกรีต

13. แรงงานท่ใี ชท้ างาน 1 ชดุ จานวน 3 คน

14. ค่าจา้ งแรงงานรายวนั 300 บาท/คน/วัน

15. สถิติการทางานตัดเหล็กขนาดเล็ก (6 ถึง 12 มม.) ทางาน 80 กก./คน/วัน

16. คา่ ดาเนินการ/กาไร รวมไปถงึ งบลงทนุ เครื่องมอื ท่ีใช้ทางาน 17%

17. คา่ จา้ งแรงทใ่ี ช้ (จานวนแรงงาน x คา่ จา้ งแรงงาน)

3 (คน) x 300 (บาท/วัน) = 900 บาท/วัน

18. ตน้ ทนุ คา่ แรงท่ใี ช้ในการตัดเหลก็ (ค่าจ้างแรงงาน / สถิตกิ ารทางานตอ่ คน)

900 (บาท) / [80 (กก./คน) x 3 (คน)] = 3.75 บาท/กก.

19. ต้นทนุ ค่าจ้างแรงงานพรอ้ ม คา่ ดาเนนิ การ/กาไร (ตน้ ทนุ คา่ แรง x คา่ ดาเนินการ/กาไร)

3.75 (บาท/กก.) x 1.17 = 4.39 บาท/กก.

20. หาตน้ ทุนค่าจา้ งแรงงานงานเหลก็ เสริมคอนกรตี

(ปรมิ าณวสั ดุทใ่ี ชท้ ่เี ผือ่ แล้ว x ค่าจา้ งแรงงาน) = 21.38 (กก./ฐาน) x 4.39 บาท/กก.

4-21

= 94 บาท/ฐาน

แนวทางวิเคราะห์ประมาณราคางานเหลก็ เสริมคอนกรีตในฐานรากทงั้ หมด

21. ตน้ ทนุ คา่ วสั ดุงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต +ต้นทุนคา่ จา้ งแรงงานงานเหลก็ เสรมิ คอนกรตี

492 (บาท) + 94 (บาท) = 586 บาท/ฐาน

ดังนัน้ การวเิ คราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสรมิ คอนกรีตในฐานราก จะมตี น้ ทุนอยทู่ ่ี 586 บาท

ตัวอย่าง 4.6 จงวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตในฐานราก ด้วยใช้วิธีการรายการตัดเหล็ก

เสรมิ (Bar-Cut List) จากตัวอย่างที่ 4.5 โดยกาหนดให้

– ความยาวเหล็กเสริมทีน่ าเขา้ มาใช้ยาว 12 เมตร/เสน้

– ค่าวสั ดุเหลก็ เสริมคอนกรตี ราคากิโลกรัมละ 23 บาท

– พิจารณามาตรฐานการทางานเหลก็ เสรมิ คอนกรีต

– กาหนดความหนาหมุ้ เหลก็ เสรมิ คอนกรีตตามมาตรฐานวธิ ีหน่วยแรงใชง้ าน

– แรงงานทใ่ี ช้ทางาน จานวน 3 คน

– การทางานตดั เหลก็ 1 ชุด ประกอบไปด้วยแรงงาน 3 คน

– คา่ จ้างแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วัน

– สถิติการทางานตดั เหลก็ ขนาดเลก็ (6 ถึง 12 มม.) ทางานได้ 80 กก./คน

– สถิตกิ ารทางานตัดเหลก็ ขนาดใหญ่ (≥16 มม.) ทางานได้ 130 กก./คน

– คา่ ดาเนินการ/กาไร รวมไปถึงงบลงทุนเครอื่ งมือท่ีใช้ทางาน 17%

– ไม่ตอ้ งพิจารณา ปริมาณเหลก็ เสริมในเสาตอมอ่

แนวทางการวิเคราะห์ประมาณวัสดุงานเหลก็ เสริมคอนกรีต

1. มาตรฐานการรบั แรงดึงของเหลก็ เสรมิ ไมไ่ ด้กาหนด

2. ขนาดเหลก็ เสริมท่ีใช้ DB-12 มม.

3. จานวนเหล็กเสรมิ ทใี่ ช้ 12 ท่อน/ฐาน

4. มาตรฐานความหนาห้มุ เหล็กเสรมิ คอนกรีต 7.5 ซม. ≈ 8.0 ซม

5. ความยาวเหล็กเสริมทน่ี าเข้ามาใชย้ าว 12 ม./เสน้

6. นา้ หนักเหลก็ เสรมิ ขนาด 12 มม. 0.888 กก./ม.

7. ลักษณะการงอปลายเลก็ เสริม 180˚

8. พิจารณาสว่ นงอปลาย = D/2 = (1.2)/2 ≈ 2.0 ซม.

สว่ น 4d = 4 x 1.2 ≈ 5.0 ซม

รวมระยะงอปลายทง้ั หมด 2.0 + 5.0 = 7.00 ซม.

9. หาความยาวเหล็กเสริมในฐานราก

ความกวา้ งฐาน – (ระยะห้มุ คอนกรตี x 2) + (ระยะงอปลายรวม x 2X

2.00 – (0.08 x2 ) +(0.07 x 2) = 1.98 ม./ทอ่ น

4-22

10. หารายการตดั เหลก็ เสรมิ (Bar-Cut List)

ตารางท่ี 4.8 การทารายการตดั เหล็กเสรมิ (Bar-Cut List) ตัวอยา่ งท่ี 4.8

Bar Bar shape Dia. A B C ความยาว จานวน
(ม.) (ทอ่ น)
No. (มม.) (ม.) (ม.) (ม.) 1.98 12

1B C 12 1..84 0.07 0.07

A

11.วางแผนการตดั เหล็กเสรมิ กาหนดให้เหลก็ เสริมยาว 12 ม./เสน้

เหลก็ ยาว 1.98 ม.จานวน 6 เส้น เศษเหลอื 0.12 ม. จานวน 1 เส้น

เหล็กยาว 12 ม.

ดังน้ัน ฐานราก 1 ฐาน จะใช้เหล็กเสริมขนาด 12 มม. จานวน 2 เส้น โดยมีเศษการตัด 0.12 ม

จานวน 2 ทอ่ น

12. หาน้าหนักเหลก็ เสรมิ ทีใ่ ช้ (จานวนเหล็กเสรมิ ทีใ่ ช้ x น้าหนกั เหลก็ เสรมิ ตอ่ เมตร)

2 (เส้น) x 12 (ม./เส้น) x 0.888 (กก./เมตร) = 21.32 กก./ฐาน

แนวทางการวิเคราะห์ประมาณค่าวสั ดุงานเหล็กเสริมคอนกรตี

13. ราคาคา่ วสั ดุเหลก็ เสริมคอนกรตี 23 บาท/กก.

14. หาต้นทุนค่าวสั ดุงานเหล็กเสริมคอนกรตี (ปริมาณวัสดุท่ีใช้ x ค่าวัสดุ)

21.32 x 23 = 491 บาท/ฐาน

แนวทางการวเิ คราะห์ประมาณค่าแรงงานเหล็กเสริมคอนกรตี

13. แรงงานทใ่ี ช้ทางาน 1 ชุด จานวน 3 คน

14. ค่าจา้ งแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วนั

15. สถิติการทางานตัดเหล็กขนาดเลก็ (6 ถึง 12 มม.) ทางาน 80 กก./คน/วนั

16. ค่าดาเนนิ การ/กาไร รวมไปถงึ งบลงทุนเคร่อื งมือทใ่ี ชท้ างาน 17%

17. ค่าจา้ งแรงที่ใช้ (จานวนแรงงาน x คา่ จ้างแรงงาน)

3 (คน) x 300 (บาท/วัน) = 900 บาท/วัน

18. ต้นทุนค่าแรงท่ใี ชใ้ นการตัดเหลก็ (ค่าจ้างแรงงาน / สถติ กิ ารทางานต่อคน)

900 (บาท) / [80 (กก./คน) x 3 (คน)] = 3.75 บาท/กก.

19. ต้นทนุ คา่ จ้างแรงงานพรอ้ ม ค่าดาเนนิ การ/กาไร (ตน้ ทุนค่าแรง x ค่าดาเนินการ/กาไร)

3.75 (บาท/กก.) x 1.17 = 4.39 บาท/กก.

20. หาตน้ ทนุ คา่ จา้ งแรงงานงานเหลก็ เสริมคอนกรีต

(ปริมาณวัสดุทใี่ ชท้ ี่เผือ่ แลว้ x ค่าจา้ งแรงงาน) = 21.32 (กก./ฐาน) x 4.39 บาท/กก.

4-23

= 94 บาท/ฐาน

แนวทางวเิ คราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสรมิ คอนกรีตในฐานรากทัง้ หมด

21. ต้นทนุ ค่าวัสดุงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต +ตน้ ทุนค่าจา้ งแรงงานงานเหล็กเสริมคอนกรีต

492 (บาท) + 94 (บาท) = 586 บาท/ฐาน

22. การลดต้นทุนโดยการนาเศษการตดั ไปขาดหลังจากไม่สามารถนาไปใชใ้ นบรเิ วณอนื่ ได้

0.12 (ม.) x 2 (ท่อน) x 0.888 (กก./ม.) x 23 (บ/ม.) ≈ 5.0 บาท/ฐาน

ดังน้นั เม่อื นามาพิจารณาถึงการวิเคราะหป์ ระมาณราคางานเหล็กเสรมิ คอนกรตี แท้จริง

ต้นทนุ การประมาณราคางานเหล็กเสรมิ – ต้นทุนจากการนาเศษการตัด

586 – 5.00 = 581 บาท/ฐาน

จากตัวอย่าง 4.5 และตัวอย่าง 4.6 น้ันจะพบว่า การวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริม

คอนกรีตด้วยวิธีการรายการตัดเหล็กเสริม (Bar-Cut List) นั้น จะมีต้นทุนท่ีน้อยกว่าวิธีการเผื่อปริมาณวัสดุ

เนอ่ื งจากสามารถคาดการณเ์ ศษการตัดวัสดุได้ล่วงหน้าและนามาขายหรือนากลับมาใช้ในบริเวณอ่ืน เพื่อลด

ตน้ ทนุ ได้อีก แม้ในตัวอยา่ งน้ีนนั้ จะเหน็ ความแตกต่างเพยี งเล็กนอ้ ย แตถ่ ้าพิจารณาในลักษณะโครงการใหญ่มี

จานวนฐานรากเป็นจานวนมาแล้วน้ันจะสามารถลดต้นทุนได้เป็นจานวนมาก และในด้านค่าแรงงานในการ

ตัดเหล็กน้ันสามารถลดลงได้อีกถ้ามีการบริหารจัดการวัสดุด้วยการสั่งวัสดุแบบ “Cut and Bend” จาก

โรงงานผลิต

ตัวอย่างท่ี 4.6 จงหาวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตในพ้ืน S ขนาด 4.00 x 5.00 เมตร

จานวน 1 ผนื ด้วยวิธกี ารเผือ่ วสั ดุตามมาตรฐาน วสท. โดยกาหนดให้

– คา่ วสั ดเุ หล็กเสริมคอนกรีตราคากิโลกรัมละ 23 บาท

– ไมต่ ้องพิจารณามาตรฐานการทางานเหลก็ เสรมิ คอนกรตี เช่น ระยะต่อทาบ การงอปลาย

เปน็ ต้น แตใ่ ห้พจิ ารณาการเผือ่ ปรมิ าณวัสดตุ ามมาตรฐานของ วสท. แนะนาแทน

– กาหนดความหนาห้มุ เหล็กเสรมิ คอนกรตี ตามมาตรฐานวิธีหน่วยแรงใชง้ าน

– แรงงานทใ่ี ช้ทางาน จานวน 3 คน

– การทางานตัดเหลก็ 1 ชดุ ประกอบไปดว้ ยแรงงาน 3 คน

– ค่าจ้างแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วนั

– สถติ กิ ารทางานตดั เหล็กขนาดเล็ก (6 ถึง 12 มม.) ทางานได้ 80 กก./คน

– ค่าดาเนินการ/กาไร รวมไปถงึ งบลงทนุ เครอ่ื งมอื ที่ใชท้ างาน 17%

4-24

ด้านยาว 5.00 ม.

ดา้ นส้ัน 4.00 ม.
แนวทางการวิเคราะห์ประมาณวสั ดุพื้นงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต

1. มาตรฐานการรับแรงดึงของเหล็กเสริม ไม่ได้กาหนด

2. ขนาดเหล็กเสริมทีใ่ ช้ RB-6 มม.

3. การเผอื่ ปรมิ าณวัสดตุ ามมาตรฐานของ วสท. ขนาดเหลก็ 6 มม. = 5 %

4. นา้ หนักเหล็กเสริมขนาด 6 มม. = 0.222 กก./ม.

5. หาความยาวเหล็กเสริมในพื้น โดยต้องพิจารณาคิดปริมาณเหล็กเสริมต่อตารางเมตร หรือท้ังผืน

ใหญไ่ ด้ โดยในตวั อย่างนีจ้ ะพิจารณาเป็น ตารางเมตรและนาไปคูณกับพน้ื ทีท่ ้ังหมดอีกครง้ั

ด้านยาวพนื้ (1 ม.) / ระยะห่างระว่างเหลก็ เสริม

1 ม. / 0.15 ม. = 6.67 ทอ่ น

ด้านส้ันพ้ืน (1 ม.) / ระยะห่างระว่างเหลก็ เสริม

1 ม. / 0.15 ม. = 6.67 ท่อน

รวมจานวนเหล็กเสริมในพน้ื ตอ่ ตารางเมตร = 6.67 +6.67 = 13.34 ท่อน/ตร.ม.

4-25

6. จานวนเหลก็ เสรมิ ทีต่ อ้ งใช้ในในพ้นื ตอ่ ตารางเมตร (ความยาว x จานวนเหล็กเสรมิ )

1 x 13.34 = 13.34 ม./ตร.ม.

7. หาน้าหนักเหลก็ เสริมทีใ่ ช้ (ความยาวท้ังหมด x นา้ หนักเหล็กเสรมิ ตอ่ เมตร)

13.34 x 0.222 = 2.97 กก./ตร.ม.

8. หาพน้ื ที่ของพน้ื ท่ใี ช้เหล็กเสรมิ (ความกว้างทงั้ หมด x ความยาวทัง้ หมด)

4.00 x 5.00 = 20 ตร.ม.

9. หาน้าหนักเหลก็ เสริมทีใ่ ชใ้ นพนื้ ทห่ี มด (พ้ืนทที่ ัง้ หมด x นา้ หนกั เหล็กเสริมตอ่ เมตร)

20.00 (ตร.ม.) x 2.97 (กก./ตร.ม.) = 59.4 กก.

10. หาการเผอื่ ปรมิ าณวสั ดตุ าม วสท. (ปรมิ าณวัสดุทใ่ี ช้ x มาตรฐานการเผ่อื )

59.4 x 1.05 = 62.37 กก.

แนวทางการวิเคราะห์ประมาณคา่ วสั ดุงานเหล็กเสรมิ คอนกรตี

11. ราคาค่าวัสดเุ หลก็ เสริมคอนกรตี 23 บาท/กก.

12. หาตน้ ทุนค่าวสั ดุงานเหลก็ เสริมคอนกรตี (ปริมาณวัสดทุ ีใ่ ชท้ ีเ่ ผือ่ แลว้ x ค่าวัสดุ)

62.37 x 23 = 1,435 บาท/ฐาน

แนวทางการวเิ คราะหป์ ระมาณคา่ แรงงานเหลก็ เสรมิ คอนกรตี

13. แรงงานทีใ่ ช้ทางาน 1 ชุด จานวน 3 คน

14. ค่าจา้ งแรงงานรายวนั 300 บาท/คน/วัน

15. สถติ ิการทางานตัดเหลก็ ขนาดเลก็ (6 ถงึ 12 มม.) ทางาน 80 กก./คน/วัน

16. ค่าดาเนินการ/กาไร รวมไปถึงงบลงทนุ เคร่ืองมอื ท่ีใช้ทางาน 17%

17. ค่าจ้างแรงท่ใี ช้ (จานวนแรงงาน x คา่ จ้างแรงงาน)

3 (คน) x 300 (บาท/วัน) = 900 บาท/วนั

18. ต้นทนุ ค่าแรงท่ีใช้ในการตดั เหลก็ (ค่าจ้างแรงงาน / สถิตกิ ารทางานต่อคน)

900 (บาท) / [80 (กก./คน) x 3 (คน)] = 3.75 บาท/กก.

19. ต้นทนุ คา่ จา้ งแรงงานพร้อม ค่าดาเนนิ การ/กาไร (ต้นทุนค่าแรง x คา่ ดาเนนิ การ/กาไร)

3.75 (บาท/กก.) x 1.17 = 4.39 บาท/กก.

20. หาต้นทนุ คา่ จา้ งแรงงานงานเหลก็ เสรมิ คอนกรตี

(ปรมิ าณวสั ดุที่ใชท้ เ่ี ผอื่ แล้ว x คา่ จ้างแรงงาน) = 62.37 (กก./ผืน) x 4.39 บาท/กก.

= 274 บาท/ผนื

แนวทางวเิ คราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรตี ในพน้ื ท้งั หมด

21. ต้นทนุ ค่าวสั ดุงานเหล็กเสริมคอนกรีต +ตน้ ทุนค่าจา้ งแรงงานงานเหลก็ เสริมคอนกรตี

1,435 (บาท) + 274 (บาท) = 1,709 บาท/ผนื

ดังน้นั การวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรตี ในพ้ืน จะมีต้นทุนอยูท่ ี่ 1,709 บาท

4-26

จากตัวอยา่ ง 4.6 นัน้ เปน็ การวเิ คราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตในพ้ืนแบบหยาบ โดย
ท่ีการวิเคราะห์แบบละเอียดนั้นจะพิจารณาแบบผืนเดียวขนาดใหญ่ แต่ในวิธีการดังกล่าวน้ันจะต้องทาการ
พิจารณาแบบวิธีการรายการตัดเหล็กเสริม (Bar-Cut List) ประกอบด้วย เนื่องจากในบางกรณีนั้นพ้ืนจะมี
ขนาดใหญ่เกินความยาวเหล็กที่นามาใช้ หรือในบางกรณีน้ันจะทาการส่ังวัสดุให้มีขนาดพอดีกับพื้นที่
เชน่ เดยี วกับการส่งั จากโรงงานผลติ ดว้ ยการสงั่ วสั ดุแบบ “Cut and Bend”
ตัวอย่าง 4.7 จงหาวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตในคาน GB ด้วยวิธีการเผ่ือวัสดุตาม
มาตรฐาน วสท. โดยกาหนดให้

– คา่ วสั ดเุ หล็กเสรมิ คอนกรีตราคากิโลกรมั ละ 23 บาท
– ไม่ตอ้ งพิจารณามาตรฐานการทางานเหลก็ เสริมคอนกรตี เช่น ระยะต่อทาบ การงอปลาย
เป็นต้น แต่ให้พิจารณาการเผอ่ื ปริมาณวสั ดตุ ามมาตรฐานของ วสท. แนะนาแทน
– กาหนดความหนาหมุ้ เหล็กเสริมคอนกรตี ตามมาตรฐานวธิ ีหนว่ ยแรงใช้งาน
– แรงงานทใ่ี ชท้ างาน จานวน 3 คน
– การทางานตัดเหล็ก 1 ชุด ประกอบไปดว้ ยแรงงาน 3 คน
– คา่ จา้ งแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วนั
– สถิติการทางานตดั เหลก็ ขนาดเลก็ (6 ถึง 12 มม.) ทางานได้ 80 กก./คน
– สถติ ิการทางานตัดเหล็กขนาดใหญ่ (≥16 มม.) ทางานได้ 130 กก./คน
– คา่ ดาเนนิ การ/กาไร รวมไปถึงงบลงทุนเครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ทางาน 17%
– คาน GB ยาว 4.00 ม. ช่วงเดยี ว

แนวทางการวิเคราะห์ประมาณวัสดุงานเหลก็ เสรมิ คอนกรีต RB 6 มม. ไมไ่ ดก้ าหนด
1. มาตรฐานการรับแรงดึงของเหลก็ เสรมิ DB 12 มม. RB-6 มม.
2. ขนาดเหล็กเสริมที่ใช้ DB-12 มม.
ขนาดเหล็กเสริมทใ่ี ช้ 6.67 ปลอก/ม.
3. จานวนเหล็กเสรมิ ท่ีใช้ 4 ท่อน
จานวนเหล็กเสริมท่ีใช้ 3.0 ซม
4. มาตรฐานความหนาหุ้มเหล็กเสริมคอนกรีต

4-27

5. การเผอื่ ปรมิ าณวสั ดตุ ามมาตรฐานของ วสท. ขนาดเหล็ก 6 มม. = 5 %

การเผ่อื ปริมาณวสั ดตุ ามมาตรฐานของ วสท. ขนาดเหล็ก 12 มม. = 9 %

6. นา้ หนักเหลก็ เสรมิ ขนาด 6 มม. = 0.222 กก./ม.

น้าหนกั เหลก็ เสริมขนาด 12 มม. = 0.888 กก./ม.

7. หาความยาวเหล็กเสรมิ ปลอกในคาน

[(ความกว้างคาน – ระยะหมุ้ คอนกรีต x 2)] x 2 + [(ความลกึ คาน – ระยะหมุ้ คอนกรีต x 2)] x 2

[(0.15 – 0.03 x 2)] x 2 + [(0.30 – 0.03 x 2)] x 2 = 0.66 ม./ปลอก

8. จานวนเหลก็ เสรมิ ปลอกทตี่ อ้ งใชใ้ นคาน (ความยาว x จานวนเหล็กปลอกท่ใี ช้)

0.66 (ม./ปลอก) x [6.67 (ปลอก/ม.) x 4 (ม.)] = 17.61 ม.

9. หานา้ หนักเหล็กปลอกท่ีใช้ (ความยาวทง้ั หมด x น้าหนักเหลก็ เสรมิ ตอ่ เมตร)

17.61 x 0.222 = 3.91 กก.

10. หาความยาวเหลก็ ยนื่ ในคาน

[(ความยาวคาน – ระยะหมุ้ คอนกรตี x 2)] x จานวนเหลก็ ยน่ื

[(4.00 – 0.03 x 2)] x 4 = 15.76 ม.

11. หานา้ หนกั เหล็กย่ืนที่ใช้ (ความยาวทง้ั หมด x นา้ หนกั เหลก็ เสรมิ ตอ่ เมตร)

15.76 x 0.888 = 14.00 กก.

12. หาการเผอ่ื ปริมาณวัสดุตาม วสท. (ปริมาณวสั ดทุ ่ใี ช้ x มาตรฐานการเผื่อ)

ขนาดเหล็ก 6 มม. 3.91 x 1.05 = 4.11 กก.

ขนาดเหล็ก 12 มม. 14.00 x 1.09 = 15.26 กก./ฐาน

แนวทางการวิเคราะห์ประมาณคา่ วัสดุงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต

13. ราคาคา่ วสั ดเุ หลก็ เสริมคอนกรีต 23 บาท/กก.

14. หาตน้ ทุนค่าวัสดุงานเหล็กเสริมคอนกรีต (ปริมาณวสั ดุทีใ่ ช้ทเี่ ผื่อแลว้ x คา่ วสั ด)ุ

(4.11 + 15.26) x 23 = 446 บาท

แนวทางการวเิ คราะห์ประมาณคา่ แรงงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต

15. แรงงานทใ่ี ชท้ างาน 1 ชดุ จานวน 3 คน

16. คา่ จ้างแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วนั

17. สถิติการทางานตดั เหล็กขนาดเล็ก (6 ถึง 12 มม.) ทางาน 80 กก./คน/วนั

18. ค่าดาเนนิ การ/กาไร รวมไปถงึ งบลงทนุ เครื่องมอื ท่ใี ช้ทางาน 17%

19. คา่ จ้างแรงที่ใช้ (จานวนแรงงาน x คา่ จ้างแรงงาน)

3 (คน) x 300 (บาท/วัน) = 900 บาท/วัน

20. ต้นทุนคา่ แรงท่ีใช้ในการตดั เหลก็ (คา่ จา้ งแรงงาน / สถิติการทางานตอ่ คน)

900 (บาท) / [80 (กก./คน) x 3 (คน)] = 3.75 บาท/กก.

4-28

21. ต้นทุนค่าจ้างแรงงานพรอ้ ม ค่าดาเนนิ การ/กาไร (ต้นทนุ คา่ แรง x ค่าดาเนินการ/กาไร)

3.75 (บาท/กก.) x 1.17 = 4.39 บาท/กก.

22. หาต้นทุนค่าจ้างแรงงานงานเหลก็ เสริมคอนกรตี

(ปริมาณวสั ดทุ ี่ใชท้ เ่ี ผอื่ แล้ว x คา่ จา้ งแรงงาน) = 19.37 (กก.) x 4.39 บาท/กก.

= 85 บาท

แนวทางวเิ คราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตในคานทัง้ หมด

23. ต้นทนุ คา่ วสั ดุงานเหล็กเสรมิ คอนกรีต +ต้นทุนคา่ จา้ งแรงงานงานเหลก็ เสริมคอนกรตี

446 (บาท) + 85 (บาท) = 531 บาท/ฐาน

ดงั นน้ั การวเิ คราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรตี ในฐานราก จะมีตน้ ทุนอยู่ท่ี 531 บาท

4-29

ใบงานวชิ า การประมาณและวเิ คราะห์ราคางานกอ่ สร้าง รหสั วิชา 503-37-02 แผ่นที่
หน่วยท่ี 4 การประมาณราคางานเหล็กเสรมิ คอนกรตี วันที่

1. จงหาวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสรมิ คอนกรีตโครงสรา้ ง (ฐานราก ,คาน ,พื้น) ด้วยวธิ กี ารเผือ่ วัสดุ
ตามมาตรฐาน วสท. และใหจ้ ัดทาเปน็ ตารางสรุปจานวนเหลก็ เสรมิ คอนกรตี ด้วย โดยกาหนดให้

– ค่าวสั ดุเหล็กเสรมิ คอนกรีตราคากิโลกรมั ละ 25 บาท
– ไม่ตอ้ งพิจารณามาตรฐานการทางานเหลก็ เสริมคอนกรีต เช่น ระยะต่อทาบ การงอปลาย
เปน็ ต้น แต่ให้พิจารณาการเผือ่ ปริมาณวสั ดตุ ามมาตรฐานของ วสท. แนะนาแทน
– กาหนดความหนาหุม้ เหลก็ เสริมคอนกรตี ตามมาตรฐานวิธีหนว่ ยแรงใช้งาน
– แรงงานท่ใี ชท้ างาน จานวน 2 คน
– การทางานตัดเหลก็ 1 ชดุ ประกอบไปดว้ ยแรงงาน 2 คน
– ค่าจ้างแรงงานรายวัน 300 บาท/คน/วนั
– สถติ ิการทางานตดั เหล็กขนาดเล็ก (6 ถึง 12 มม.) ทางานได้ 90 กก./คน
– สถิตกิ ารทางานตดั เหล็กขนาดใหญ่ (≥16 มม.) ทางานได้ 150 กก./คน
– ค่าดาเนนิ การ/กาไร รวมไปถึงงบลงทนุ เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ทางาน 15%

4-30

ภาพขยายฐานราก F1

ภาพแปลนพื้นชั้นล่าง ภาพขยายพื้น S1
ภาพขยายพืน้ GS

4-31
ภาพขยายรายละเอียดคานชน้ั 1

4-32
2. จงวเิ คราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสรมิ คอนกรตี ในฐานราก ด้วยวิธีการรายการตัดเหล็กเสริม (Bar-Cut
List) เปรยี บเทียบกับความยาวเหล็กเส้นที่นามาใช้ 10 ม./เสน้ และ 12 ม./เสน้ โดยกาหนดให้

– คา่ วสั ดุเหล็กเสริมคอนกรตี ราคากโิ ลกรัมละ 25 บาท
– พิจารณามาตรฐานการทางานเหล็กเสรมิ คอนกรีต
– กาหนดความหนาหุ้มเหลก็ เสริมคอนกรีตตามมาตรฐานวิธหี น่วยแรงใช้งาน
– แรงงานที่ใชท้ างาน จานวน 4 คน
– การทางานตัดเหลก็ 1 ชุด ประกอบไปด้วยแรงงาน 4 คน
– ค่าจา้ งแรงงานรายวนั 350 บาท/คน/วนั
– สถติ ิการทางานตดั เหล็กขนาดเลก็ (6 ถงึ 12 มม.) ทางานได้ 90 กก./คน
– สถิติการทางานตัดเหล็กขนาดใหญ่ (≥16 มม.) ทางานได้ 150 กก./คน
– ค่าดาเนินการ/กาไร รวมไปถึงงบลงทนุ เครื่องมอื ทใี่ ชท้ างาน 15%
– ไม่ต้องพิจารณา ปรมิ าณเหล็กเสรมิ ในเสาตอมอ่

รูปแปลนฐานราก

รูปตดั ฐานราก

4-33

3. จงวิเคราะห์ประมาณราคางานเหล็กเสริมคอนกรีตในฐานราก ด้วยวิธีการเผื่อวัสดุตามมาตรฐาน วสท.

เปรียบเทียบกับวิธีการรายการตัดเหล็กเสริม (Bar-Cut List) โดยกาหนดให้

– ความยาวเหล็กเสริมท่ีนาเข้ามาใชย้ าว 10 เมตร/เส้น

– คา่ วสั ดเุ หล็กเสรมิ คอนกรตี ราคากโิ ลกรัมละ 25 บาท

– พจิ ารณามาตรฐานการทางานเหล็กเสริมคอนกรีต

– กาหนดความหนาหุ้มเหลก็ เสรมิ คอนกรีตตามมาตรฐานวธิ หี นว่ ยแรงใช้งาน

– แรงงานท่ใี ช้ทางาน จานวน 3 คน

– การทางานตัดเหล็ก 1 ชดุ ประกอบไปดว้ ยแรงงาน 3 คน

– ค่าจา้ งแรงงานรายวนั 300 บาท/คน/วนั

– สถิตกิ ารทางานตดั เหล็กขนาดเลก็ (6 ถงึ 12 มม.) ทางานได้ 80 กก./คน

– สถิติการทางานตัดเหลก็ ขนาดใหญ่ (≥16 มม.) ทางานได้ 130 กก./คน

– คา่ ดาเนนิ การ/กาไร รวมไปถงึ งบลงทนุ เคร่อื งมือท่ีใชท้ างาน 17%

– ไมต่ อ้ งพจิ ารณา ปรมิ าณเหล็กเสริมในเสาตอมอ่

รปู แปลนฐานราก (หน่วย : มม.)

รปู ตัดฐานราก(หน่วย : มม.)

4-34

ใบงานวชิ า การประมาณและวเิ คราะหร์ าคางานก่อสร้าง รหสั วิชา 503-37-02 แผน่ ที่
หนว่ ยท่ี 4 การประมาณราคางานเหลก็ เสริมคอนกรีต วันที่

4-35

วธิ ีสอน 1. บรรยายในส่วนทเี่ ป็นความรพู้ ื้นฐานหลกั การและทฤษฎี
และกจิ กรรม 2. แสดงโจทยต์ วั อย่างการคานวณจากแหลง่ อื่นๆ
3. ให้นักศึกษาไดม้ ีสว่ นรว่ มในการอภปิ รายและแสดงความคิดเห็น
สื่อการสอน 4. สอบถามความเข้าใจและสรุปบทเรียน
5. มอบหมายงานให้นักศกึ ษาค้นคว้านอกเวลาเรยี น

กวี หวงั นเิ วศนก์ ุล. (2552). การประมาณราคางานวิศวกรรม
หนังสืออ้างองิ ก่อสรา้ ง

กรุณาพร รตั นภผู า. (2561). ประมาณราคางานโครงสร้าง
พิภพ สนุ ทรสมยั . (2556). การประมาณราคาก่อสรา้ ง
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถมั ภ์. (2550).
แนวทางการวดั ปริมาณงานก่อสรา้ งอาคาร

เอกสารประกอบ

วสั ดุโสตทัศน์ เอกสาร Power Point

งานทม่ี อบหมาย 1. ให้การบ้านท้ายหน่วยเรยี น
การวัดผล ใช้หลกั การประเมนิ ผลแบบอิงเกณฑ์วัตถปุ ระสงค์ โดยนาขอ้ มูลจาก

หมายเหตุ 1. สงั เกตพฤติกรรมการร่วมกจิ กรรมในการเรียนการสอน
2. ซักถามความเข้าใจ
3. การมอบหมายงานคน้ คว้า
4. ผลงานจากการบ้านที่ได้รบั มอบหมาย

5-1

สปั ดาหท์ ี่ 7 ใบเตรยี มการสอน รหสั วชิ า 503-37-02

เวลา 5 คาบ หนว่ ยที่ 5 การประมาณราคางานโครงสรา้ งเหลก็ รูปพรรณ

ช่ือบทเรียน
5.1 ชนิดของเหล็กรปู พรรณ และมาตรฐานงานโครงสรา้ งเหล็กรูปพรรณ
5.2 การวเิ คราะห์ปริมาณงานโครงสร้างเหลก็ รปู พรรณ
จดุ ประสงค์การสอน

5.1.1 มคี วามรแู้ ละความเข้าใจความหมายและวัตถุประสงค์ของการประมาณราคางานโครงสร้าง
เหล็กรูปพรรณ

5.1.2 มีความรแู้ ละความเขา้ ใจการประมาณราคางานโครงสรา้ งเหล็กรูปพรรณ
5.1.3 มีความรู้และความเข้าใจประเภทและวสั ดุของงานโครงสรา้ งเหล็กรูปพรรณท่ใี ชใ้ นการถอด

แบบ
5.1.4 มีความรู้และความเข้าใจการอา่ นแบบและเขา้ ใจแบบก่อสร้างในงานโครงสรา้ งเหล็กรปู พรรณ
5.1.5 สามารถคานวณหาปริมาณและประมาณราคางานโครงสร้างเหล็กรูปพรรณ

5-2

การประมาณราคางานโครงสรา้ งเหล็กรูปพรรณ
แนะนาบทเรียน

งานโครงสรา้ งเหล็กรูปพรรณ เปน็ งานทใี่ ชว้ ัสดเุ หล็กรูปพรรณเปน็ สว่ นประกอบอาคารเปน็ หลัก โดย
ที่ในการใช้โครงสร้างเหลก็ รปู พรรณน้ันจะใช้ไดใ้ นหลายๆ โครงสร้าง เชน่ โครงสร้างเสา โครงสร้างคาน หรือ
โครงสร้างหลังคา เป็นต้น อันเนื่องจากการทางานในงานเหล็กรูปพรรณนั้นมีการทางานที่รวดเร็ว สะดวก
ความสวยงาม ใช้แรงงานในการดาเนนิ งานท่นี ้อย เป็นวธิ กี ารกอ่ สร้างสมัยใหม่ และโครงสร้างเหล็กรูปพรรณ
นั้นสามารถลดความใหญ่แต่ในทางกลับกันน้ันการการใช้โครงสร้างเหล็กรูปพรรณจะมีข้อจากัดในหลายๆ
ด้าน เช่น ความสามารถในการทนไฟ เม่ือวัสดุได้รับความร้อนแล้วทาให้ความสามารถในการรับแรงลดลง
การทางานท่ีต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ ในกรณีที่ต้องการก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่นั้นจาเป็นต้องใช้
เครือ่ งจกั รขนาดใหญ่ในการทางาน เช่น เครน ในการยก เนื่องจากเหล็กรูปพรรณมีน้าหนักที่มากไม่สามารถ
ทางานไดด้ ้วยแรงงาน ยกเวน้ ในงานขนาดเหลก็ ท่ีแรงงานคนสามารถขนย้ายได้ การเป็นสนิมได้ในอนาคต ใน
การใช้งานของวัสดุที่เป็นเหล็กนั้นล้วนแต่จะพบปัญหาเมื่อวัสดุดังกล่าวได้รับความช้ืนและประกอบกับผิว
วัสดุได้สัมผัสกับอากาศจนเกิดเป็นสนิม โดยท่ีสนิมจะเป็นองค์ประกอบที่ทาลายเน้ือวัสดุเหล็กจนทาให้
ความสามารถในการรับแรงลดลงไปตาม แต่กระนั้นในข้อจากัดต่างๆน้ัน ล้วนที่จะมีวิธีการป้องกันเป็น
มาตรฐานทางวศิ วกรรม เพอื่ ใหส้ ามารถใช้งานไดอ้ ย่างปลอดภยั ตลอดอายุการใช้งานตามที่ผอู้ อกแบบไว้
5.1 มาตรฐานและประเภทโครงสร้างรปู พรรณ

ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมาตรฐานวสั ดุทเี หล็กรูปพรรณท่ีมีความหลากหลาย เนื่องจากวสั ดทุ ใี่ ช้
นนั้ เป็นวัสดุท่ีผลิตและนาเขา้ ต่างประเทศ รวมไปถึงมาตรฐานในการออกแบบของผู้ออกแบบของงานเหล็ก
รูปพรรณที่หลาหลาย ท้ังน้ีการศกึ ษาถงึ มาตรฐานของเหล็กรปู พรรณทีใ่ ชน้ น้ั ต้องมีความเข้าในและอ่านแบบ
ก่อสรา้ งได้อย่างถูกตอ้ ง โดยมาตรฐานของเหล็กรูปพรรณมีดังต่อไปน้ี

TIS (THAI INDUSTRIAL STANDARD)
JIS (JAPANESE INDUSTRIAL STANDARD)
AISC (AMERICAN INSTITUTE OF STEEL CONSTRUCTION)
ASTM (AMERICAN SOCIETY FOR TESTING MATERIAL)
ในทอ้ งตลาดน้นั เหล็กรูปพรรณจะมีความยาวเปน็ มาตรฐานเหมอื นเช่นให้เหลก็ เสริมคอนกรีต โดยท่ี
จะมคี วามยาวท่ี 6 ม.ต่อท่อน ยกเว้นวา่ จะเปน็ การสัง่ ทาพเิ ศษจากโรงงานผลิตเพ่ือใชใ้ นงานเฉพาะดา้ น
ในการนผี้ ู้ออกแบบนั้นจะเป็นผ้ทู ่ีกาหนดถงึ รปู แบบลักษณะของเหล็กรูปพรรณทีจ่ ะใช้ โดยทเ่ี หล็ก
รูปพรรณน้นั จะมีความหลากหลายของลักษณะท่ีแตกตา่ งกัน

5-3

(ก) Wide Flange (ข) H-Column

(ค) I- Beam (ง) Pipe

(จ) Channel (ฉ) Angle

(ช) Light Lip (ซ) Tubing

รูปท่ี 5.1 ลักษณะเหล็กรูปพรรณ (กวี ,2552)

ตามภาพตัวอย่างลักษณะเหล็กรูปพรรณดังท่ีแสดงข้ันต้นนั้นเป็นช่ือเรียกตามาตรฐานสากล แต่ใน

ประเทศไทยนั้นจะมีลักษณะการเรียกที่เฉพาะ เช่น Wide Flange (เหล็กปีกกว้าง ; WF) ,H-Column

(เหล็กตัวเอช ; H) , I- Beam (เหล็กตัวไอ ; I), Pipe (เหล็กท่อกลม), Channel (เหล็กรางน้า ; C), Angle

(เหล็กตัดมุมฉาก ; L), Light Lip (เหล็กตัวซี/เหล็กซีบาง ; C), Tubing (เหล็กกล่อง ; ) ในการผลิตของ

เหลก็ รปู พรรณนัน้ จะมีความแตกต่างกนั โดยทีก่ ารผลติ เหลก็ รีดร้อนจะถูกนามาใชใ้ นงานโครงสร้างหลัก และ

การผลติ รีดเยน็ จะถูกนามาใช้ในงานโครงสรา้ งรองหรอื Light Gage เช่น Light Lip , Tubing เป็นตน้

5.1.1 การเขียนและอา่ นแบบเหล็กรูปพรรณ

การเขียนหรืออ่านแบบเหล็กรูปพรรณนั้นจะใช้หน่วยเป็น “มิลลิเมตร” โดยท่ีจะใช้สัญลักษณ์ของ

เหลก็ นาหน้าและกาหนดขนาดของหนา้ ตัดเหล็กท่ีใช้ ในบางกรณีเหล็กรูปพรรณจะมีการบอกถึงน้าหนักของ

เหล็กด้วย “กโิ ลกรัม/เมตร” เช่น

5-4

WF 300 x 150 x 6.5 x 9 มม. (บอกขนาดของเหล็ก)
หรือ WF 300 x 300 x 94 กก./ม. (บอกขนาดและนา้ หนกั เหล็ก)
C 250 x 90 x 9 x13 มม. (Channel)
C 150 x 50 x 20 x3.2 มม. (Light Lip)
ข้อสังเกตการอ่านแบบระหว่าง Channel และ Light Lip โดยที่เหล็ก Light Lip จะมีความหนา
ไมเ่ กิน 4.5 มม.
L 50 x 50 x5 มม. (เหลก็ ฉากขาเท่ากัน)
L 90 x 75 x6 มม. (เหลก็ ฉากขาไม่เทา่ กนั )
5.1.2 รูปแบบการเช่ือมต่อเหล็กรปู พรรณ
ในการเช่อื มตอ่ ของเหลก็ รูปพรรณนน้ั จะมีวธิ กี ารท่ีหลากหลายแล้วแต่ลักษณะของเหลก็ รูปพรรณ
หรือทางผู้ออกแบบเปน็ ผูท้ ี่กาหนดไวใ้ นแบบ

(ก) การต่อแบบยึดดา้ นข้าง (ข) การต่อแบบมบี ่านั่ง

(ค) การตอ่ แบบเชอื่ มข้างหน่งึ (ง) การต่อแบบเช่ือม

ทเ่ี สาและยดึ ด้วยน็อตท่คี าน ยึดทง้ั สองข้าง

รูปท่ี 5.2 ลักษณะการเช่ือมต่อเหลก็ รูปพรรณ (กวี ,2552)

5-5

(จ) การต่อแบบมีแผ่นเหลก็ (ฉ) การต่อแบบยดึ ดว้ ยนอ็ ต
รองรับทปี่ ลายคานทัง้ สองข้าง ทเ่ี สาและเชือ่ มยดึ ที่คาน

(ช) การต่อแบบยดึ ดา้ นข้าง
และบ่ารองรบั รวมกนั

รูปท่ี 5.2 (ตอ่ ) ลักษณะการเชอ่ื มต่อเหลก็ รูปพรรณ (กวี ,2552)

(ก) การต่อโครงสร้างแบบเชอ่ื ม (ข) การต่อโครงสรา้ งแบบเชอ่ื ม

แน่นกับแผ่นเหล็กและน็อตยึด แนน่ กบั แผน่ เหล็กกับเหลก็ รูปพรรณและนอ็ ต

รปู ที่ 5.3 ลักษณะการเช่ือมต่อเหลก็ รูปพรรณระหว่างโครงสรา้ งเสา และฐานราก (มงคล ,2548)

COMMUNITY SUBTITLE TERMS AND CONDITIONS OF USE

These Community Subtitle Terms and Conditions of Use (these “Terms”) govern your access and use of community subtitle services (the “Services”) available on LINE TV mobile application and/or website available at https://tv.line.me (“LINE TV Platform”). 

The capitalized terms not defined but used herein have the meanings set forth in the LINE TV Terms and Conditions of Use.

1.  Your Agreement. 

By clicking “I accept Terms&Conditions and Privacy Policy”

 you acknowledge and confirm your agreement to these Terms together with the LINE TV Terms and Conditions of Use, Privacy Policy and any additional terms and conditions, guidelines, policy or similar document released or uploaded by us, which are incorporated herein by reference. If these Terms conflict with the LINE TV Terms and Conditions of Use, these Terms will take priority.

2.  Modifications. 

We may modify these Terms within the scope of the purpose of the Services, if we deem the modification necessary. In such case, we will notify you by posting the modified Terms and the start date of application on a readily available location within LINE TV Platform. The modification will become effective from the date of application specified by us.

3.  Services.  

   3.1  Subject to these Terms, we grant you a limited, non-exclusive, non-transferable, revocable permission for personal, non-commercial use of the Services to: (i) access television shows, movies, videos or other audio-visual content provided by us and third-parties (the “Content”); and (ii) access, participate and/or engage in a community of users of the Services including submitting subtitles for the Content using the methods provided by us.

   3.2  We reserve the right to modify, limit or discontinue the whole or any part of the Services at any time without prior notice and we will have no liability to you for any such unavailability.  

   3.3  The Services may contain links to third party websites that are not owned or controlled by us. We have no control over, and assume no responsibility for, the content, privacy policies, or practices of any third party websites. By using the Services, you expressly relieve us from any and all liability arising from your use of any third-party website.

4.   Subtitle Submissions.  

   4.1  The Services permit your submission of subtitles for the Content (the “Subtitle Submissions”) and the hosting, sharing, and/or publishing of such Subtitle Submissions.

   4.2  You agree that the following restrictions shall apply with respect to any Subtitle Submissions:

      A.   We do not guarantee any confidentiality with respect to any Subtitle Submissions and shall have no liability to you for any content posted in Subtitle Submissions; and

      B.   We will have the right, but not the obligation, to review the Subtitle Submissions and delete any Subtitle Submissions that violate these Terms and/or contain any of the following types of content (each a “Prohibited Submission”): (i) any content that violates, or promotes or encourages the violation of, any applicable law, court verdicts, resolutions or orders, or administrative measures that are legally binding; (ii) any content that hinders public order or customs; (iii) any content that infringes, impairs or defames any person’s intellectual property rights, image rights, privacy or data protection rights, or any other rights granted by applicable law; (iv) any content that includes any grossly offensive material, violent, coarse, sexual or anti-social expressions, or expressions that lead to discrimination by age, national origin, creed, sex, gender, social status, family origin, and/or expressions that induce or encourage suicide, self-harm, or drug abuse. We may also edit, restrict, suspend, or remove your Subtitle Submissions if we reasonably determine that such Subtitle Submissions are inappropriate. 

   4.3  You will be solely responsible for your own Subtitle Submissions and the consequences of posting or publishing them. You affirm, represent, and warrant that you own or have the necessary licenses, rights, consents, and permissions to publish your Subtitle Submissions and grant us the necessary rights. We will not be held liable for any loss or damage caused by your reliance on any Subtitle Submissions.

   4.4  You retain all your ownership rights in your Subtitle Submissions. However, by submitting the Subtitle Submissions to us, you hereby grant to us a non-exclusive, royalty-free, irrevocable, perpetual, unlimited, sub-licensable and transferable worldwide license to use, reproduce, distribute, exploit, prepare derivative works of, display, publish, broadcast, perform, import, commercialize, retain copies of, and otherwise transfer all copyright, inventions, and other intellectual property rights in the Subtitle Submissions in connection with the Services and our business, including without limitation for promoting and redistributing part or all of the Services (and derivative works thereof) in any form and media formats and through any media channels.

   4.5  If notified of an allegedly Prohibited Submission, we may investigate the allegation and determine in our sole discretion whether to remove the Subtitle Submission, which we reserve the right to do at any time and without notice.

5.   Termination. 

We reserve the right to terminate, suspend or block any or all features of your access or use of the Services at any time if we determine at our good faith discretion that you have committed a material breach of any terms of these Terms for reasons including, without limitation, copyright infringement, pornography, or obscenity.

6.   Exemption of Liability. 

We make no warranties or representations that the Services are free from de facto or legal flaws (including but not limited to stability, reliability, accuracy, integrity, effectiveness, fitness for a particular purpose, security-related faults, errors, bugs, or infringements of rights). We will not be responsible for providing the Services without such defects. We will not be responsible for any direct, indirect, special, incidental, consequential or punitive damages (including but not limited to such damages that could have been predicted) with respect to our contractual default or act of tort due our negligence (except for gross negligence).

7.   Notification and Contact.

  When we notify or contact you regarding the Service, we may use a method that we consider appropriate and is legal, such as posting notices within the Service. When you contact us, please use the inquiry form available on LINE TV Platform.

8.   Personal information. 

We will collect contact information submitted by you, including contributor name and email address, for the purposes of the Services and operating the Services. We will use such information to contact you on the review outcome, or to avoid abuse of the Services. We will appropriately handle privacy

information and personal information of yours in accordance with the

 

LINE TV Privacy Policy.

 

9.   Language, Governing Law and Jurisdiction.  

In the event of a contradiction between the English Version and Thai translation, the provisions in the English Version shall take precedence. These Terms and Conditions will be governed by the laws of Japan. Conflicts that arise from the Service or conflicts between Users and the Company related to the Service will be governed primarily under the exclusive jurisdiction of the District Court of Tokyo or the Tokyo Summary Court.

Last updated : November 26, 2020