[NEW] Kumamoto เที่ยวฟุกุโอกะ คุมาโมโตะ 2019 – Gogetlost | แผ่นดินไหว คุมาโมโตะ – Australia.xemloibaihat

แผ่นดินไหว คุมาโมโตะ: คุณกำลังดูกระทู้

หลบหนีมลพิษเมืองใหญ่ไปคิวชู หนีไปเที่ยวฟุกุโอกะกันเถอะ!
.
เรากำลังจะชวนไปกิน ไปเที่ยว ขึ้นภู ดูน้ำตก ที่ฟุกุโอกะ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู แถมมีดีเรื่องการไปพักผ่อนหย่อนใจ ใช้ชีวิตช้าๆ ในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่แท้จริง

เริ่มตั้งแต่ตะลอนกินอาหารรสต้นตำรับ อย่างราเม็งข้อสอบ ต่อด้วยปิ้งย่างของชอบที่สตรีทฟู้ดหรือจะมินิมัลเล็กๆ ที่มูจิคาเฟ่ แล้วไปนั่งทำตัวเท่ๆ แบบคนญี่ปุ่นโลคัล ที่ Ohori กับ Maizuru Park (ช่วงซากุระบานของที่นี่คือทีเด็ด)
.
นอกนั้นยังไม่พอ เพราะเราขอชวนให้พวกยูแวะไปคุมาโมโตะ เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่คุมามง แต่มงลงที่แท้คือธรรมชาตินะจ้ะยูววว ภูเขาไฟอะโสะงี้ พายเรือลอดช่องเขางี้ คือดี
ทั้งนี้ทั้งนั้น จะไปทั้งทีต้องฟินให้สุด ใช่จ้ะ AirAsia เค้าเปิดรูทใหม่บินตรงฟุกุโอกะแล้วววว ด้วยราคาน่ารักตาวาว เริ่มต้นที่ 2,990.- ต่อเที่ยวเท่านั้น แถมใครมี BIG Points ก็ลดเพิ่มกันเข้าไปอีก มือลั่นไม่ลั่นถามใจดู
.
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เชิญมาดูลายแทงที่เที่ยวได้ในรูปถัดไปเลย
ใครคลิกก่อน โดนป้ายยาก่อนแน่นอน 

#ญี่ปุ่นมุมใหม่#ไปฟุกุโอกะไปกับไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์#ตัวจริงบินตรงสู่ญี่ปุ่น
#gogetlostFukuoka

นอกจากจะมีรูทโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า ซัปโปโรแล้ว ตอนนี้แอร์เอเชียเค้าเปิดรูทใหม่ล่าสุดบินตรงจากดอนเมืองไปสู่ฟุกุโอกะแล้วนะ! บอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในเมืองโปรดของเรา รองๆ ลงมาจากเกียวโตเลยทีเดียว เพราะมีบรรยากาศของความช้าๆ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่เราชอบ 🙂
.
เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 2,990 บาท ต่อเที่ยวเท่านั้น
สามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเริ่มเดินทางได้เลยตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2562 นี้จ้าา
อ้อ พิเศษสำหรับชาว BIG อย่าลืมใช้ Points จ่ายค่าตั๋ว ลดชัวร์ทุกทริป
จะซื้อผ่านเว็บหรือผ่านแอพก็ได้หมดแล้วน้า 

ทริปนี้ไปทั้งหมด 4 วัน
บินกับแอร์เอเชีย ขาไปจะถึงแต่เช้าตรู่ เที่ยวต่อได้เลย ส่วนขากลับบินแต่เช้า ถึงไทยตอนเที่ยง เราจึงมีเวลาเที่ยวแบบเต็มๆ ทั้งหมด 4 วันนั่นเอง
.
เราแบ่งทริปออกเป็น 2 พาร์ทใหญ่ๆ คือคุมาโมโตะ (Kumamoto) 2 วัน กับฟุกุโอกะ (Fukuoka) 2 วัน

วันที่ 1

แลนด์แล้วซื้อ Northern Kyushu Pass ที่ Hakata St. (ซื้อจากไทยไปก็ได้ แต่ต้องไปแลกอยู่ดี) แล้วนั่งชิงคันเซนมุ่งหน้าไปยังเมืองคุมาโมโตะเลย ฝากกระเป๋าให้เรียบร้อยก็รีบกระโจนขึ้นบัสไปภูเขาไฟอะโสะ
*เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้รถไฟตอนนี้ไม่มีวิ่งตรงไปยังสถานี Aso นะจ๊ะ ต้องต่อบัสอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้ใช้เวลาหมดไป 1 วันเต็มๆ เลยทีเดียว

วันที่ 2

หลังจากนอนหลับพักผ่อนที่เมืองคุมาโมโตะในคืนแรกแล้ว วันที่ 2 เราจะขึ้นบัสจาก Kumamoto Station ไปยัง Takachiho Bus Center กัน แน่นอนว่ายาวนานอีกตามเคย พกข้าวปั้น น้ำชาไปกินบนรถกันได้เลยจ่ะ ถึงแล้วต้องนั่งรถแท็กซี่ต่อไปอีกนิดนึง (หรือจะเดินก็ได้ 20 นาที) แล้วก็เอ็นจอยธรรมชาติได้เลย ข้อควรระวังคือ บัสมีวันละ 2 รอบเท่านั้น ห้ามตกรถ!

วันที่ 3

วันนี้เที่ยวในเมืองคุมาโมโตะ ได้แก่ สวนซุยเซ็นจิ (Suizenji Park) และปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) ตัวเรานั้นชอบสวนมากกก อยากใช้เวลานานกว่านี้อีกหน่อย ส่วนตัวปราสาทผุพังและถล่มไปเพราะแผ่นดินไหวซะเยอะเลย เลยใช้เวลาไม่นาน
.
ครึ่งวันบ่ายนั่งชิงคันเซนกลับเมืองฟุกุโอกะ เก็บของเข้าที่พัก แล้วถึงออกมาดูปราสาทฟุกุโอกะ (Fukuoka Ruins), สวนไมซุรุ (Maizuru Park) และสวนโอโฮริ (Ohori Park) ที่อยู่ติดกัน ชิวมากๆ อยากเอาเสื่อไปปูนอนเล่น ตกเย็นอย่าลืมไปแวะไปทานสตรีทฟู้ดที่ Yatai Food Stall

วันที่ 4

ครึ่งวันเช้าเราตรงดิ่งไปดาไซฟุ (Dazaifu) จ่ะ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่อยู่รวมกันที่สถานีเดียว ตั้งแต่ศาลเจ้า, Starbucks, เสาสีแดง และพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ ใช้เวลากันตามอัธยาศัย ครึ่งวันบ่ายค่อยกลับมาเก็บเมืองฟุกุโอกะต่อ จะเดินเล่น ช็อปปิ้ง หรือคาเฟ่ฮ็อปปิ้งก็ได้หมด เป็นอันปิดทริป แพคกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น 

สรุปราคามาให้ตามนี้เลยย

ราคาตั๋วเครื่องบินที่แสดงให้ดูเป็นราคาเริ่มต้นโปรที่ถูกที่สุดที่เรากดได้นะ ไปกลับประมาณ 6 พันเท่านั้นนน ที่พัก ของกิน กินอยู่แบบคนปกติ แพงบ้าน ถูกบ้าง แฟมิลี่มาร์ทบ้าง นอนสบายแต่ไม่ได้หรูเว่อ ออกมาทั้งหมดก็ประมาณนี้เลย
.
เราซื้อ Northern Kyushu Pass 5 วันไปด้วย เอาจริงๆ คิดว่า 3 วันก็อาจจะพอ แต่คิดไม่ทัน5555 แต่ราคาไม่ได้ต่างกันมาก ยังไงลองคำนวณดูกันอีกทีน้า

ภูเขาไฟอะโสะ (Mt. Aso) — Kumamoto

ถ้าจะให้พูดถึงภูเขาไฟลูกใหญ่ที่ยังคงประทุอยู่ แน่นอนว่าภูเขาไฟอะโสะ (Mt. Aso) จะต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่เราพูดถึงกันอย่างแน่นอน
.
ที่จริงแล้วเมืองอะโสะเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่หลายที่เลยล่ะ ค่อนไปในแนวสโลว์ไลฟ์ ใช้ชีวิตกลางบ่อออนเซ็น แต่สิ่งหนึ่งที่โด่งดังมากกก และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลกให้มาเยือนที่นี่ คงหนีไม่พ้นภูเขาไฟอะโสะ ที่คลับคล้ายคลับคลาจะประทุตั้งแต่ปี 2016 แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคุกกรุ่นอยู่ ทำให้ปัจจุบันการไปเที่ยวที่ภูเขาไฟอะโสะจะสามารถเที่ยวได้แค่บริเวณรอบๆ เท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปใกล้ปากปล่องภูเขาไฟ
.
แต่! แค่นั้นก็เพียงพอที่จะให้เราได้ชื่นชมกับบรรยากาศโดยรอบแล้ว ช่วงที่เราไปมาเป็นปลายหนาว กำลังเข้าฤดูใบไม้ผลิ เชื่อว่าแห้งเหี่ยวที่สุดแล้วในบรรดาทุกฤดูกาล แต่เรากลับชอบมากกกกก ยิ่งเค้าปล่อยม้าออกมาเล็มหญ้าด้วยนะ ให้ฟีลประหนึ่งกำลังเดินอยู่ในทุ่งมองโกเลียเลยเว่ยแกร 

วิธีการเดินทาง

ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน ถ้าเช่ารถขับมาเองจะสบายกว่ามาก แต่ถ้าไม่มีรถแบบเราต้องขึ้นรถไฟแล้วต่อรถบัส แล้วก็ต่อรถบัสอีกที เพื่อมาถึงบริเวณรอบๆ ภูเขาไฟอะโสะ แล้วอย่าลืมพกเสื้อกันลมติดกระเป๋าแล้วก็เสื้อตัวเก่งเอาไว้ถ่ายรูปกันรัวๆ 

เวลาเปิด/ปิด

ต้องคอยเช็คนะ แต่ละเดือน แต่ละสถานการณ์ภูเขาไฟมีผลต่อเวลาเปิดปิดหมดเลยย
http://www.aso.ne.jp/~volcano/eng/
.
March 20 – October 31 / 8:30 a.m. to 5:30 p.m. / Closed at 6:00 p.m. 
November 1 – November 30 / 8:30 a.m. to 5:00 p.m. / Closed at 5:30 p.m.
December 1 – March 19 / 9:00 a.m. to 4:30 p.m. / Closed at 5:00 p.m.

การเดินทาง

รถยนต์ส่วนตัว ให้จิ้ม GPS ไปที่ Daikanbo (จุดชมวิวกลุ่มภูเขาไฟอะโสะ), Kusasenri (ทุ่งหญ้าม้าสวย) หรือ Aso Volcano Museum ได้เลย

รถสาธารณะ

JR Kumamoto St. —> JR Higo-Ozu St. —> ต่อบัสไป Aso St. —> Aso Crater Line Bus
หรือจะนั่งบัสต่อเดียวจาก JR Kumamoto St. ไป Aso St. ก็ได้ มีเหมือนกันจ้า

Takachiho Gorge — Kumamoto

ไปพายเรือดูน้ำตก ที่ช่องเขาธรรมชาติกลางป่ากันเถอะ 
ถ้าจะบอกว่านี่คือการชวนไปเข้าป่า ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะ Takachiho Gorge นั้น ซ่อนตัวอยู่กลางธรรมชาติไกลออกไปจากเมืองคุมาโมโตะกว่า 80 กิโล 
.
ช่องเขาทาคาชิโฮนั้น เกิดขึ้นจากลาวาของภูเขาไฟอะโสะที่เย็นตัว+ถูกการกัดกร่อน กัดเซาะมายาวนาน จนกลายมาเป็นแง่งหินบะซอลต์สีดำเข้มจำนวนมากอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เราสามารถซึบซับความงามของที่นี่ได้ทั้งการเดินดูจากด้านบน เลาะช่องเขาไปเรื่อยๆ หรืออีกทางนึงที่ฮิตมากๆ ก็คือลงไปพายเรือในช่องเขาข้างล่างนั่นเลย (2,000 yen/ลำ/30นาที)
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้มาช่วง High Season แต่ความเขียวและอากาศบริสุทธิ์ของที่นี่ยังทำเอาเราหลงรักเข้าไปเต็มๆ คิดดูว่าถ้ามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะขนาดไหน 

หลังจากเต็มอิ่มกับธรรมชาติรอบๆ แล้ว อย่าลืมแวะไปลอง Somen ที่ร้านค้าบริเวณนั้นด้วยล่ะ ไฮไลท์คือเค้าจะปล่อยเส้นหมี่ล่องมาตามน้ำในกระบอกไม้ไผ่ให้เราคีบเอง อร่อยมากกกกกกก อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา เป็นบะหมี่เย็นที่เย็นด้วยน้ำที่ไหลมาจากธรรมชาติจริงๆ ให้เราคีบมากินได้สดๆ ตอนนั้นเลย เคยเห็นมานานตามรายการทีวีญี่ปุ่น ในที่สุดก็ได้มีโอกาสมาลองกินซะที555

ร้าน Somen บะหมี่เส้นเล็กไหลมาตามกระบอกไม้ไผ่

เวลาเปิด/ปิด

ช่องเขาเปิดตลอด แต่ที่เช่าเรือจะมีเปิดเวลา 8.30-17.00 เช็คในนี้ได้เลย
http://takachiho-kanko.info/en/sightseeing/

การเดินทาง

รถยนต์ส่วนตัว จิ้มมาที่ Takachiho Gorge เลยย

รถสาธารณะ 

นั่งบัสจากสถานี Kumamoto ไปลง Takachiho Bus Center แล้วต่อแท็กซี่
ความพีคคือ บัสจะมีแค่วันละ 2 รอบนะจ้ะ คือ 9.11 กับ 15.31 โปรดเช็คตารางรถทุกครั้งก่อนจะไป

Suizenji Garden—Kumamoto

ไม่ไกลจากสถานี Kumamoto สวนดั้งเดิมสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง Suizenji Garden แทรกตัวอยู่เงียบๆ ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องของเมืองนี้ เดิมทีสวน Suizenji สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 โดยตระกูล Hosokawa แต่จะสร้างสวนไว้เดินเล่นหลังบ้านทั้งที ธรรมดาโลกไม่จำ ก็เลยจำลอง the Tokaido ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมระหว่าง Edo เข้ากับ Kyoto ในสมัยราชวงศ์เอโดะนั่นเอง

ภายในบริเวณสวนนอกจากจะมีการจำลองเนินภูเขาไฟฟูจิไว้แล้ว ยังมีศาลเจ้า ทิวเสาสีแดงและบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ ตั้งแต่ปลาคาร์ฟ นกกะเรียน น้องเป็ด อีกจำนวนมาก ให้ได้เพลิดเพลินไปจนลืมเวลาได้เลย
.
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถ้าใครอินสวนญี่ปุ่นไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง ถ้ามีเวลามากหน่อย หาโอกาสเข้าไปจิบชาใน Tea House ก่อนกลับด้วยน้า รับรองได้บรรยากาศประหนึ่งย้อนกลับไปในอดีตญี่ปุ่นแน่นอน

ค่าเข้า

400 yen/คน

เวลาเปิด/ปิด

Mar.-Oct.: 7:30~18:00 (Entrance open until 5:30 pm)
Nov.-Feb.: 8:30~17:00 (Entrance open until 4:30 pm)

การเดินทาง

นั่งรถ Tram มาลงสถานี Suizenji Garden แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

Kumamoto Castle 

แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง Kumamoto จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก Kumamoto Castle 
ปราสาทคุมาโมโตะสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ท่ีถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการการรบกับศัตรูข้าศึก
.
เราเคยมาปราสาทคุมาโมโตะครั้งแรกตั้งแต่ปี 2015 นู้น บอกเลยว่าประทับใจกับความใหญ่โตอลังการของที่นี่สุดๆ เพราะตัวปราสาทถูกเก็บรักษาคงสภาพไว้เป็นอย่างดี แต่โชคร้ายที่แผ่นดินไหวปี 2016 ได้ส่งผลกระทบต่อปราสาทและบริเวณรอบๆ เป็นอย่างมาก เรากลับมาอีกครั้งโดยไม่ได้คิดเลยว่าจะได้เห็นซากปรักหักพังของปราสาทที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่นอยู่ตรงหน้า

ความน่ารักก็คือ คนก็ยังมาเที่ยวกันเยอะมากๆ อยู่เลย แถมส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นด้วยกันเองนะ แต่ละจุดตอนนี้จะเป็นเหมือนกับ Museum ให้คนมาศึกษาดูผลกระทบของภัยพิบัติธรรมชาติที่มีกับตัวปราสาท ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ชาวคิวชูฟื้นฟูปราสาทคุมาโมโตะให้กลับมาได้ในเร็ววันด้วย 
อ้อ อย่าเพิ่งเศร้าไปขนาดนั้น นอกจากตัวปราสาทแล้ว ที่นี่ยังปลูกซากุระไว้รอบๆ เป็นจำนวนมากกก ถ้าใครบังเอิญกดตั๋วทันช่วง Hanami รับรองว่าที่นี่จะต้องเป็นอีกหนึ่งจุดปิกนิคที่น่าประทับใจแน่นอน

ค่าเข้า

ตอนนี้ไม่มี เพราะเค้ายังซ่อมไม่เสร็จ

เวลาเปิด/ปิด

8.30 – 17.30

การเดินทาง

นั่งรถ Tram มาลงสถานี Kumamoto Castle/City Hall แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

Fukuoka City — Fukuoka Castle Ruins, Maizuru Park, Ohori Park

มาถึงฟุกุโอกะทั้งที ก็ควรที่จะไปเช็คอินที่ปราสาทฟุกุโอกะซักหน่อย แต่! ที่นี่เหลือเป็นแค่ซากปรักหักพังแล้วนะจ้ะ เดินแค่ไม่ถึงครึ่งชม. ก็ครบหมดแล้ว แต่นอกจากจะเป็นการมาเยี่ยมเยือนปราสาทที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่มากๆ ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวซากุระชั้นดี ที่ไม่ว่าใครๆ ก็ควรจะมาเยือน ตั้งแต่หน้าทางเข้าปราสาทจนทะลุไป Maizuru Park เราจะเห็นต้นซากุระเรียงรายกันเป็นแถว แน่นอนว่าช่วง Hanami ที่นี่คงคนเยอะน่าดูเลยทีเดียว
.
เดินต่อมาจากปราสาท และ Maizuru Park ไม่ไกล เราจะเจอกับ Ohori Park ขนาดใหญ่ที่บรรยากาศชิวมากกกกก เราชอบสวนนี้เพราะเหมือนกับว่าได้ไปสัมผัสกับสวนลุมของคนฟุกุโอกะจริงๆ อะ คนโลคัลมาวิ่งกันเพียบ มีลูกจูงลูก มีหมาจูงหมา แล้วก็นั่งชิวริมน้ำกันไปสิ โอ้ยชอบ 
หรือถ้าใครจะมาสายชิคสายคาเฟ่ จะแวะจิบชากาแฟที่ Starbuck หรือ Royal Garden Cafe ก็ฟินไม่แพ้กัน 
.
ปล. ตรงกลางมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นแอบซ่อนอยู่ด้วยนะ ใครมีโอกาสฝากแวะไปดูที 

เวลาเปิด/ปิด

9.00-18.00

การเดินทาง

นั่ง Subway มาลงสถานี Ohorikoen แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที (เราเริ่มเดินจาก Fukuoka Ruins —> Maizuru Park —> Ohori Park)

Dazaifu — Fukuoka

จะเรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในการมาฟุกุโอกะก็ไม่ผิดนัก
Dazaifu อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองฟุกุโอกะประมาณครึ่งชม. เป็นเมืองเล็กๆ ที่แต่ดั้งเดิมเป็นเหมือนที่ทำการรัฐหรือออฟฟิศหลักของคิวชูนั่นล่ะ ไปๆ มาๆ ออฟฟิศแห่งนี้ก็ขยายตัวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ จนกลายมาเป็นเมืองในที่สุด
.
1 day trip ใน Dazaifu ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ง่ายและครอบคลุมหลายสถานที่ เราสามารถเยี่ยมชมได้ทั้ง Dazaifu Temmangu (ศาลเจ้าหลัก), Komyozenji (วัดเล็กๆ ที่มีสวนหินข้างหลังที่สวยงามมาก), Tenkai Inari Shrine (ทิวเสาสีแดงขึ้นไปด้านบนเขา) หรือถ้าสายกินสายคาเฟ่ ทางด้านหน้าเมื่อลงจากสถานี ก็จะมีให้เราช็อปมาตลอดทางเลยทีเดียว ไฮไลท์ของถนนเส้นนี้คงหนีไม่พ้น Starbuck ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง Kengo Kuma 
.
ส่วนอีกหนึ่งสิ่งที่ส่วนตัวเราแนะนำให้ลองไปเดินดู ก็คือ Kyshu National Musuem แน่นอนว่าเสียค่าเข้า แต่เราว่าเค้าทำดีมากกกก ตั้งแต่บริเวณข้างในอาคารไปจนถึงการจัดแสดง ภาษาไม่มีผลต่อการเรียนรู้จริงๆ เพราะเค้าทำสื่อไว้ได้ดีมากเลย ใครมีเวลาลองแวะไปดูกันนะ

ค่าเข้า

Dazaifu ไม่มีค่าเข้า/Kyushu National Museum 430 yen/คน

เวลาเปิด/ปิด

หาเวลาเปิดไม่เจออ แต่เซฟๆ ก็ไปช่วงประมาณ 8.00-17.00 น้าา เดินประมาณครึ่งวันก็ครบแล้ว

การเดินทาง

นั่ง Subway มาลงสถานี Dazaifu St. แล้วถึงเลยย
(ส่วนเรามี Northern Kyushu Rail Pass อยู่แล้ว จะนั่งมาลง JR Futsukaichi St. ก่อนนะ แล้วเดินไป Nishitetsu Futsukaichi St. เพื่อต่อรถไป Dazaifu St. อีกที)

Taste Original Food at Fukuoka/Yatai Food Street

มาญี่ปุ่น ก็ต้อง มากิน!
.
นอกเหนือไปจากชาเขียว ข้าวปั้น เต้าหู้ ซูชิเย็นๆ ใน Family Mart ที่เราขยันซื้อกินอยู่ทุกวันนั้น เรายังได้แวะร้านอาหารอีกหลากหลายรายทางระหว่างเดินทางใน Fukuoka ด้วย ลายแทงตามนี้เลย

Ichiran Ramen — Fukuoka

ต้นตำรับราเม็งข้อสอบอยู่ที่ฟุกุโอกะนั่นเอง อย่าถามฉันว่าฉันทำสอบได้ไหม ฉันก็จิ้มไปมั่วๆ เหมือนกัน 5555 วิธีการก็คือเราเข้ามาในร้านปุ้บ ต้องหยอดตัง กดเมนูก่อน แล้วเข้าไปนั่งทำข้อสอบในคอกกินของตัวเอง ติ้กไปเลยชอบน้ำข้น น้ำใส เผ็ดมั้ย เส้นแข็งเส้นนุ่ม อะ ไม่ลอกกันค่ะนักเรียน ชามใครชามมัน เสร็จแล้วเค้าก็จะมาเสิร์ฟตามคอกที่เราสั่งเลยจ้า

Muji Cafe — Fukuoka

เมื่อมูจิและคาเฟ่มารวมกัน ที่จริงอาจจะไม่ได้ใหม่มากในย่านญี่ปุ่น แต่เค้าบอกว่าที่นี่ใหญ่สุดในคิวชูเลยนะ กินไปช็อปไปสบายกระเป๋ามากๆ แถมตรงนี้ยังอยู่ใจกลางย่านช็อปปิ้งเลยนะ จะเดินไป Aesop, Bic Camera หรือ Mont Bell ก็อยู่แถวนี้ทั้งนั้น 

Daimyo Vintage Street 

เดินมาจาก Muji Cafe ไม่ไกล เราจะเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง เพราะทุกคนใส่เสื้อตัวโคร่ง แต่งตัวสีสันจัดจ้าน ใช่เลย คุณได้หลุดมาอยู่ใน Daimyo Street แล้ว ย่านที่มีของวินเทจเก๋ๆ ขายมากมาย แถมมีคาเฟ่ ขนมหวาน ให้ได้แวะทานด้วยนะ (จะคล้ายๆ กับ Shimokitazawa ในโตเกียว)

Yatai Street Food

ใช่ค่ะ อาหารข้างทาง ในประเทศญี่ปุ่น
คือไม่รู้จะบรรยายยังไง เพราะเป็นอาหารข้างทางได้ญี่ปุ่นมากอะ เก็ตมั้ย555 ไปอ่านมาเค้าบอกว่าทางการคิวชูเพิ่งส่งเสริมให้มีสิ่งนี้เกิดขึ้นมาเมื่อปี 2017 นี่เอง แล้วก็ดันบูมมากๆ ด้วย สังเกตได้จากนักท่องเที่ยวเกาหลีและจีนที่นั่งกินอยู่ในซุ้มจำนวนมาก ส่วนใหญ่กระจุกตัวเรียงรายกันอยู่เลียบแม่น้ำ แต่พอเดินกลับโรงแรมก็แอบเจอแรนด้อมอยู่ฟุตบาธข้างถนนก็มีเหมือนกัน

[NEW] คิวชูฤดูหนาว Day 1: เที่ยวคุมาโมโตะ (1) | แผ่นดินไหว คุมาโมโตะ – Australia.xemloibaihat

การเที่ยวที่คิวชูวันแรก เราแพลนให้เที่ยวที่ คุมาโมโตะ ทั้งวัน พร้อมกับนอนที่นี่ซะเลย ซึ่งโปรแกรมวันแรกเหมือนเป็นตัวตัดสินโปรแกรมเที่ยวในวันถัดไป และจากการที่นั่งวางแผนคิดแล้วคิดอีกเพื่อให้สัมพันธ์กับรถไฟสายต่างๆ ทำให้ยอดคงเหลือของสถานที่เที่ยวในคุมาโมโตะนั้นมีอยู่ 4 ที่ คือ Kumamoto Castle (ปราสาทคุมาโมโตะ), Kumamon Square (ออฟฟิตของคุมะมง), Suizenji Garden (สวนซุยเซนจิ) และปิดท้ายด้วยการเดินช้อปปิ้งบนถนนคนเดิน 3 สายหลัก Shimotori, Sun Road Shin-shigai และ Kamitori แต่แพลนก็คือแพลน ไม่ได้หมายความว่าจะไปได้ครบหมดนี่หน่า ก็เล่นเดินหลงกันซะตั้งแต่เหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นกันซะกินเวลาไปเยอะ เลยไม่ได้ไป Suizenji Garden กับเค้า ครั้งหน้า ไม่พลาดแน่ แฮร่!!

Service mind

หลังจากเปลี่ยนตั๋ว JR มาเป็นบัตรแข็งและจองรถไฟที่สถานีฮากาตะเรียบร้อยแล้ว ก็พากันรีบวิ่งไปที่ชานชาลาชินคันเซ็น เพราะรถไฟของญี่ปุ่นจะมาก่อนเวลาประมาณ 3-10 นาที เพื่อที่จะได้ออกให้ตรงเวลาตามที่ระบุไว้ หากใครไม่ได้ทำการจองรถไฟเอาไว้ เพียงแค่โชว์บัตรเบ่ง JR ก็สามารถไปได้เหมือนกันนะ แต่จะต้องเป็นขบวนรถไฟที่มี cars สำหรับ non-reserve เท่านั้น ที่เหลือก็ลุ้นว่า จะมีที่นั่งหรือไม่ เสี่ยงดวงกันไป

ภายในขบวนรถไฟชินคันเซ็น ก็เป็นอย่างที่เห็นในภาพ แต่ละ cars (ตู้) ก็จะมีลักษณะเบาะนั่งแตกต่างเช่นกัน

ที่นั่งนุ่มสบาย มีไออุ่นจากฮีทเตอร์ใต้เบาะ ยืดขาได้ตามอำเภอใจ แต่อยู่ในความมีมารยาทเนาะ ฮ่าๆ ชะอุ่ย มีที่ชาร์ตแบตอีกด้วยนะเอ้อ ตายตาหลับแล้วล่ะคราวนี้ ได้นั่งชินคันเซ็นกับเค้าสักทีพ่อจ๋าแม่จ๋าฝันลูกเป็นจริงง (- -” อีบ้า!!)

บนรถไฟชินคันเซ็นจะมีพนักงานมาบริการขายอาหาร น้ำและของที่ระลึก โดยจะมาในคอนเซ็ปแอร์โฮสเตส สวย สง่า ยิ้มแย้มและน่ารักมาก บริการเป็นเลิศ

ด้วยความที่เป็นรถไฟความเร็วสูงแบบ Fast & furious คูณสิบ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำเวลา ไม่สนวิวระหว่างทาง หรือต้องการเดินทางข้ามจังหวัดในระยะเวลาสั้นๆ พริบตาเดียวก็ถึงคุมาโมโตะแล้ว ยู้วหูว ตื่นเต้นจังโว้ย

เซยไฮทักทายกับชินคันเซ็นขบวนอื่นเบาๆ ตื่นเต้นมากๆที่ได้เห็นกับตาตัวเอง เค้าถึงบอกว่า ครั้งแรก มักยิ่งใหญ่เสมอ

พอลงจากบันไดเลื่อนที่ชานชาลาชินคันเซ็นของสถานีคุมาโมโตะ ก็จ๊ะเอ๋กับมาสคอตหนุ่มสุดฮอตนามว่า คุมะมง (Kumamon) ยืนแก้มแดงต้อนรับอยู่ เป็นนายกวักชวนให้เราเข้าไปสอยสินค้าที่เจ้ามงเป็นพรีเซนเตอร์ ล้วนแล้วเป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัด และมีเจ้ามงเป็นพรีเซนเตอร์อยู่บนโปรดักส์ ถ้าใครได้มีโอกาสมาคุมาโมโตะ  จะพูดกันเป็นเสียงเดียว คุมะมงทั้งแผ่นดิน

การเดินทางในเมืองคุมาโมโตะนิยมใช้บริการรถราง ราคาเที่ยวละ 150 yen ตลอดสาย คือเราคิดดูแล้วว่า ซื้อบัตร Kumamoto City Tram 400 yen ยังไงก็คุ้มกว่า เพราะแอบมีส่วนลดค่าเข้าสถานที่สำคัญต่างๆ ในจังหวัดนี้อีกด้วย และอยากจะเปิดใช้บัตรวันไหนก็แค่ขูดวันนั้นๆ เดินขึ้นรถรางได้ตามอำเภอใจ ตอนลงก็แค่โชว์บัตรนี้ให้คนขับดูเท่านั้นเอง สบ๊ายยย ซึ่งซื้อได้ที่ Information สถานีคุมาโมโตะ ใกล้ๆ กับเจ้าคุมะมงร่างยักษ์นี้ล่ะ

เส้นทางการขึ้นรถรางของเมืองคุมาโมโตะมีแค่ 2 สาย A (สีแดง) และ B (สีน้ำเงิน) โดยที่ทั้งสาย A และ B จะมาตัดกันที่สถานี Karachima แล้วขนานกันไปจนสุดทาง (สามารถเช็คเวลาการเดินทางของรถรางได้ที่ Hyperdia)

ด้านหน้าสถานี JR Kumamoto ก็จะเป็นสถานีรถราง Kumamoto ป้าย 3 ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มตั้งต้นการเที่ยวในเมืองคุมาโมโตะที่นี่แหละ ตามมาค่ะตามมาเล้ย

คืนแรกเราพักกันที่ Guesthouse Tiga เป็นเกสเฮ้าส์ราคาประหยัด อยู่ใกล้สถานีรถราง Suidocho เลยตัดสินใจไปเก็บกระเป๋าเอาไว้ที่พักก่อน  แน่นอนว่าเราจองมาเรียบร้อยแล้ว (ไม่ได้ถ่ายภาพเส้นทางขณะเดิน แต่มีเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบ เลยนำมาประกอบการรีวิว อาจเห็นไม่ชัดไม่ละเอียดนัก ไม่ว่ากันเนาะ)

Guesthouse Tiga เป็นตึกแถวแคบๆ เปิดประตูเข้าไปก็เป็นลิฟต์เล็กๆ และบันได เราเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อจะฝากกระเป๋าก่อน แต่พนักงานใจดีให้เช็คอินไปก่อนได้เลย พร้อมกับพาไปที่ห้องพักที่ชั้น 3

ที่เราเลือกพัก Guesthouse Tiga เพราะราคาถูก และคนเข้ามารีวิวใน Booking ก็โอเคดีนะ ถูกและดีแบบนี้ เจ๊ไม่พลาดห้องนอนคืนแรกที่ Kumamoto ของพวกเรา เป็นแบบนอนรวม 4 เตียง คนละประมาณ 2,800 yen เอาจริงๆ สภาพดูดีกว่าในเว็บอีก แถมขนผ้าห่มมาให้อีกเพียบบบบ บริการดีเยี่ยม !!

มีป้ายเตือนที่อ่างล้างมือ Saving water: The tap of water in Kumamoto city is 100% natural water คือให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะทั้งจังหวัดคุมาโมโตะนี้ เค้าจะใช้น้ำแร่จากแหล่งธรรมชาติให้เราใช้กินใช้อาบกันแบบเพรียวๆ ผิวสวยไปสิทีนี้ ที่พักสะอาดและเป็นระเบียบมาก ห้องน้ำก็แคบอยู่นะ แต่สะอาดและดูใหม่ มีตู้เย็น ไมโครเวฟ และพวกจาน ชาม ให้พร้อม แต่ใช้เสร็จแล้วก็ล้างเก็บให้เค้าด้วยล่ะ

ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของหรือพนักงาน ที่มาทำการต้อนรับพวกเรา เค้าเสิร์ฟชาร้อนและขนมมาให้ขณะที่เรากำลังเก็บกระเป๋าเข้าห้อง พร้อมแนะการเดินทางไปที่ต่างๆของเมืองคุมาโมโตะอย่างละเอียด ด้วยความจริงใจ อย่างที่เค้าบอกว่า service mind ของประเทศญี่ปุ่นนี่เป็นเลิศ แต่มันไม่ใช่แค่นั้นล่ะสิ เค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจนเราประทับใจเป็นอย่างมาก แปลออกมาเป็นภาษาไทยได้ประมาณนี้

“ถ้าพวกคุณผู้หญิงจะอาบน้ำ รบกวนขึ้นไปชั้น 4 นะครับ”
“ทำไมล่ะ ชั้นนี้อาบไม่ได้หรอ?” ในใจนี่คิดว่า มันมีอาถรรพ์อะไรหรือเปล่าวะ ห้ามผู้หญิงอาบน้ำชั้นนี้
“คือวันนี้ จะมีห้องนึงในชั้นนี้ เป็นผู้ชายทั้งกลุ่มเลย ผมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้หญิง”
“อะริ อะริ อะริงาโตะโกไซมัส” โหยยยยย ที่อะริเยอะๆคือตกใจในความหวังดีที่คาดไม่ถึง 

 Service Mind ที่ไม่ใช่แค่การบริการให้ดี แต่คือความใส่ใจที่เงินซื้อไม่ได้ ถ้าได้มีโอกาสกลับไปคุมาโมโตะอีกครั้ง เราก็จะกลับไปพักที่นี่อีกแน่นอน แม้จะไม่ใช่โรงแรมหรูห้าดาว แต่ค้างคาวก็ยังออกหากินตอนกลางคืน … เงียบกริบ

Kumamoto Castle (熊本城) ปราสาท คุมาโมโตะ

หลังจากที่ซาบซึ้งน้ำตาแอบอิงกันไปครู่ใหญ่ ก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าต้องรีบไปต่แกันได้แล้วนะเห้ย ยังมีอีกตั้งหลายที่ที่ต้องไป check-in ว่าแล้วก็เดินไปขึ้นรถรางสถานีเดิม เพื่อไป ปราสาทคุมาโมโตะ

รถรางของที่นี่ขับไม่ช้าไม่เร็วๆ เนิบๆ สบายๆ แต่ตรงเวลา และรถไฟของญี่ปุ่น เค้ามี privacy ค่อนข้างสูง ไม่ชอบให้ใครมาถ่ายหน้า ก็ระวังกันนิดนึงเน้อ ถึงแม้จะถ่ายตัวเองหรือเพื่อน แต่ถ้าแอบติดหน้าเค้า ก็มีเคืองๆกันอยู่บ้างล่ะ

การใช้บริการรถรางของเมืองคุมาโมโตะไม่ยากเลย เรียกได้ว่าง่ายกว่าสายรถเมล์บ้านเราแน่นอน เพียงแค่รู้ตำแหน่งที่เราอยู่ กับจุดหมายที่เราจะไป ขึ้นลงให้ถูกป้าย แค่นี้เลยจริงๆ

ปราสาทคุมาโมโตะ เป็นปราสาทที่เก่าแก่มากที่สุดของจังหวัดคุมาโมโตะ และจัดว่าใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่นอีกด้วย

ปราสาท คุมาโมโตะ สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1601 ตามคำสั่งของท่าน Kato Kiyomasa เพื่อใช้เป็นป้อมปราการ จะสังเกตุเห็นได้ว่าหน้าทางเข้าปราสาทจะล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการรบ และในปี ค.ศ. 1877 ก็เกิดการกบฎขึ้น ทำให้ตัวปราสาทถูกเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด และอีก 100 ปีต่อมาถึงได้มีการบูรณะให้สวยงามอย่างที่เห็นในทุกวันนี้

  • ลงรถรางสถานีป้าย 10 Kumamoto Castle/ City Hall
  • ข้ามทางม้าลายมาแล้วให้เดินไปตรงซอยขวามือจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้าย
  • เดินตามทางไปเรื่อยๆที่เป็นเส้นทางขนานกับกำแพงปราสาท จะเจอรูปปั้นสุดทางเดินเท้าต่อกับถนนพอดี
  • ให้เลี้ยวขวาข้ามสะพาน (ทางเดินจะอยู่ขวามือเลียบกับคูน้ำ) และขึ้นเนิน
  • เดินไปอีกหน่อย หน่อยเดียวจริงๆ ก็จะเห็นทางเข้าหลัก เลี้ยวขวาได้เลย

ภาพปราสาทต่อไปนี้ เราถ่ายก่อนเกิดเหตุการณ์เหตุแผ่นดินไหวรุนแรง เมื่อวันที่ 14/04/2016 จากรายงานพบว่า บ้านเรือนพังถล่มและมีเพลิงไหม้ แม้แต่กำแพงหินของปราสาทคุมาโมโตะก็พังถล่มเสียหายปิดทางเข้าทั้งหมดของปราสาท!! ตอนนี้ก็ผ่านมา 1 ปี แล้ว การบูรณะซ่อมแซมน่าจะเรียบร้อยดีในระดับหนึ่ง

ค่าเข้าชมปราสาทคุมาโมโตะ 500 yen ถ้านำหางตั๋ว Kumamoto City Tram มาใช้ก็เป็นส่วนลดค่าเข้าได้เหลือ 400 yen (นี่คืออีก 1 เหตุผล ที่ทำไมเราเลือกซื้อบัตร Kumamoto City Tram แทนที่จะจ่ายค่ารถรางเป็นเที่ยวๆไป )

เราดันไปในช่วงที่เค้าพยากรณ์อากาศกันว่าหิมะจะตกหนัก จะเห็นได้ว่าอากาศหนาวและแห้งมากๆ ต้นไม้ผลัดใบออกไปหมดแล้ว เหลือแต่บรรยากาศวังเวง บวกกับลมหนาว และฝนตกปรอยๆ ตอนเดินเข้าปราสาท ให้ความรู้สึกขลังแบบไม่ต้องไปรายการคนอวดผีเลยนะจะบอกให้ บรื๋ออออ

ได้แต่ก้มหน้าเดินขึ้นบันไดหินไปเรื่อยๆจนกว่าจะเหนื่อย ถึงเหนื่อยแล้วก็ยังไม่ได้หยุดหรอกนะ เพราะต้องเหนื่อยประมาณ 10 นาที กว่าจะเข้าถึงปราสาทข้างใน

พอคิดว่าใกล้จะถึงแล้วก็ยังไม่ใช่อีกแฮะ ต้องเดินลอดทางเข้าใต้ดินเพื่อไปหน้าปราสาท ซึ่งสมัยก่อนทางลอดนี้ เป็นทางที่ล่อข้าศึกให้เข้ามาแล้วโจมตีกันอย่างดุเดือด ดูทรงพลังมาก ที่สำคัญอุ๊นนนอุ่น ข้างนอกหนาวลมแรงมาก ไม่อยากจะออกไปเลย ฮืออออ

บริเวณหน้าปราสาทคุมาโมโตะ คนเยอะพอสมควรเลยวันนั้น

ข้างนอกหนาวมากจึงรีบขึ้นมาชั้นบนของตัวปราสาทเพื่อดูวิวโดยรอบ เดินวนไปวนมา ชนกันไปมาแอบงงเหมือนกันนะ ได้แต่ตามเค้าไปเรื่อยๆ

วิวจากยอดปราสาท มองเห็นบรรยากาศทั่วเมือง รู้สึกผ่อนคลายเหมือนกันแฮะ

ลงมาก็เจอหนุ่มซามูไรคอยจะแสดงโชว์ แต่ตอนนั้นลมแรงมาก แล้วฝนเริ่มตกหนักขึ้นทำให้หนุ่มๆเหล่านี้ไม่สามารถแสดงได้ พากันเข้าไปหลบในร้านขายของฝาก

ร้านขายขนมมันหวานที่ขึ้นชื่อของปราสาทคุมาโมโตะ เสียดายไม่ได้ลองชิม เพราะคนเยอะและฝนตกลมแรง เลยรีบเข้าไปหลบในร้านขายของฝากดีกว่า

ร้านขายของที่ระลึกบริเวณปราสาทคุมาโมโตะเต็มไปด้วยสุดหล่อแก้มแดง คุมะมงทั้งแผ่นดินจริงๆ ยกให้เค้าเลยละลานตามาก 55555

เมื่อฝนเริ่มซาเราก็รีบกลับออกมาทางนี้ดีกว่า เพื่อจะได้ไปชมความงามของซากุระ…ที่ไม่มี 55555

ทางออกปราสาทคุมาโมโตะมีหลายทาง แต่เราชอบทางนี้มาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกว่าทางออกประตูไหน เค้าว่ากันว่าถ้ามาในช่วงซากุระ ทางออกนี้จะเป็นมุมยอดฮิตสำหรับการชมซากุระเลยทีเดียว ครั้งหน้าจะไม่พลาดแน่ๆ 🙂

เดินออกมาด้านหลัง ก็จะเจอกับรูปปั้นท่านผู้นำ ที่ถูกสร้างไว้เป็นอนุสรณ์ ดูทรงพลังและเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเค้าจริงๆ

ฝาท่อระบายน้ำยอดฮิต ที่ใครมาญี่ปุ่นเป็นต้องถ่ายกลับมากันแทบทุกราย เพราะเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละเมือง ที่ไม่เหมือนกันจริงๆ

พวกผู้ชายก็มัวแต่เหล่เด็กนักเรียนญี่ปุ่นกลุ่มนั้น แหม่! เห็นเด็กเป็นไม่ได้นะ ว่าแล้วก็ดึงหูแล้วลากไปขึ้นรถราง เพื่อไป  Kumamon Square ต่อ

“นี่เราจะไม่ทันการแสดงของคุมะมงรอบบ่าย 3 แล้วนะเนี่ย”
“ก็จะไปถามน้องนักเรียนกลุ่มนั้นให้งายยย”
“เออ! งั้นเมิงไปถามกลุ่มขวา กูไปหาคนซ้ายเอง”
“เออได้ !!”
“กูประชด!”

ว่าแล้วก็เดินจูงหูยานๆของผู้ชายหน้าม่อทั้งหลายกลับมาที่รถราง และไปหา คุมะมง ในตอนต่อไป


จีนมอบเงินบริจาคให้ญี่ปุ่นช่วยเหยื่อแผ่นดินไหวคุมาโมโต


พิกัดข่าวเช้า ช่วง World News : จีนมอบเงินบริจาคให้ญี่ปุ่นช่วยเหยื่อแผ่นดินไหวคุมาโมโต \”NOW26\” 24459
­
website : http://www.now26.tv
facebook : https://www.facebook.com/NOW26TV
twitter : https://twitter.com/NOW26_ktnews
google+ : https://plus.google.com/+Now26Tv
youtube : http://www.youtube.com/user/NOWTV26

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

จีนมอบเงินบริจาคให้ญี่ปุ่นช่วยเหยื่อแผ่นดินไหวคุมาโมโต

Video Moment 7 0 #earthquake #Kumamoto in #Japan


คลิประทึก แผ่นดินไหวอีกระลอก ขนาด 7.0 คุมาโมโตะ เกาะคิวชู ญี่ปุ่น https://t.co/OkVJn26YTb Video Moment 7 0 earthquake Kumamoto in Japan

เกาะติดข่าว ข่าววันนี้ ข่าวด่วน ข่าวบันเทิง ข่าวดารา ทันเหตุการณ์ จากทุกสำนักข่าวทั้ง ในประเทศ และต่างประเทศ
Website http://WorldeNewsNow.tumblr.com/
Twitter https://twitter.com/socialbook1
Facebook https://www.facebook.com/WorldNewsTodayLive
IG https://instagram.com/enews_online/
G+ https://plus.google.com/u/0/109757265923867695018/posts
Website http://worldenewsnow.tumblr.com/tagged/YOUTUBE

Video Moment  7 0 #earthquake  #Kumamoto in #Japan

เข้มข่าวค่ำ – พายุฝนถล่มจ.คุมาโมโตะซ้ำเติมสถานการณ์แผ่นดินไหว


เข้มข่าวค่ำ - พายุฝนถล่มจ.คุมาโมโตะซ้ำเติมสถานการณ์แผ่นดินไหว

Kumamoto’s Blue Bags A Symbol of Resilience


After a devastating earthquake in 2016, life in Kumamoto Prefecture is returning to normal. The blue plastic sheets that covered shattered homes everywhere are now no longer needed and a disposal problem due to their enormous quantities. A local designer’s project is recycling the sheets as shopping bags, still scarred from their service, to remind people to stay alert to the danger of earthquakes. Profits help disasterstruck communities. We follow a young woman who lost her family home in the quake as she gathers volunteers to collect and clean sheets for the bag project.

Kumamoto’s Blue Bags     A Symbol of Resilience

สัมภาษณ์สด 2 คนไทยที่อยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวคุมาโมโตะ | 18-04-59 | new)ข่าวเที่ยง | new)tv


เห็นโลกรอบด้าน เข้าใจชีวิตรอบตัว ที่ \”นิวทีวี ช่องทีวีดิจิตอล\”
พบเรื่องราวมากมายที่รอให้คุณได้รู้และเข้าใจ จนคุณไม่อยากลุกไปไหน นิวทีวี ทีวีดิจิตอลช่องใหม่ ด้วยข่าวรูปแบบใหม่ เข้าใจง่าย และสารคดีจากทั่วทุกมุมโลก ตื่นตาตื่นใจตลอด 24 ชั่วโมง
ท่านสามารถรับชม \”นิวทีวี new)tv\” ทีวีดิจิตอลช่อง 18 และ ทางออนไลน์ได้ที่ http://www.newtv.co.th/live/
ทั้งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนระบบ Android และ IOS
Facebook : https://www.facebook.com/newtvpage
Twitter : https://twitter.com/newtv_18
Instagram: http://instagram.com/newtv_18
Google+ : https://plus.google.com/+NewtvCoThplus

สัมภาษณ์สด 2 คนไทยที่อยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวคุมาโมโตะ | 18-04-59 | new)ข่าวเที่ยง | new)tv

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ แผ่นดินไหว คุมาโมโตะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *