[NEW] Umbrella feat. Jay-Z — แปลเนื้อเพลงสากล | เพลง ของ zee – Australia.xemloibaihat

และแล้วก็แปลเพลงนี้เป็นเพลงที่ 500 ^^
ไม่ีมีความหมายเป็นพิเศษ แต่ชอบเพลงนี้ครับ555+
เป็นเพลงที่เบียร์ชอบมากจาก Rihanna
ผลงานหลังๆไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
แต่ก็ชอบบ้างครับ

ไปดูกัน

No clouds in my storms
Let it rain, I hydroplane in the fame
Coming down with the Dow Jones
When the clouds come we gone, we Roc-A-Fella
She fly higher than weather
And G5’s are better, You know me
In anticipation for precipitation
Stacked chips for the rainy day
Jay, Rain Man is back
With little Ms. Sunshine
Rihanna where you at?

ไม่มีก้อนเมฆในพายุของเรา
ปล่อยให้ฝนตกลงมา ฉันจะขี่เครื่องบินน้ำทะยานขึ้นไปบนความโด่งดัง
ฝนตกลงมาเหมือน Dow Jones (ขายดีเหมือน Down Jones)
เมื่อเมฆหมอกมา แล้วก็จะไปกันที่อื่น เราคือ Roc-A-Fella (ค่ายเพลง)
เธอบินอยู่สูงกว่าหมู่เมฆ
และ G5 ก็ดีกว่าเยอะ และก็รู้จักฉันดีนี่
จากการคาดคะเนสายฝน
เก็บออมไว้เผื่อวันฝนพรำ
Jay , Rain Man กลับมาแล้ว
พร้อมกับสาวแสงตะวัน
Rihanna มาสิ

You have my heart
And we’ll never be worlds apart
Maybe in magazines
But you’ll still be my star
Baby cause in the dark
You can’t see shiny cars
And that’s when you need me there
With you I’ll always share
Because

เธอได้หัวใจฉันไปแล้ว
และเราจะไม่มีวันแยกจากกัน
ถึงจะอยู่ในแม็กกาซีน
แต่เธอก็ยังคงเป็นดวงดาวของฉัน
ที่รัก เพราะในความมืดมิด
เธอมองไม่เห็นรถที่เปล่งประกายอยู่หรอก
และเมื่อนั้นเธอจะต้องการฉัน
เคียงข้างเธอ ฉันจะแบ่งปันทุกอย่างให้เสมอ
เพราะว่า

When the sun shines, we’ll shine together
Told you I’ll be here forever
Said I’ll always be a friend
Took an oath I’mma stick it out till the end
Now that it’s raining more than ever
Know that we’ll still have each other
You can stand under my umbrella
You can stand under my umbrella
(Ella, ella, eh, eh, eh)
Under my umbrella
(Ella, ella, eh, eh, eh)

เมื่อแสงตะวันสาดส่อง เราจะสุกสว่างไปด้วยกัน
บอกแล้วไงว่าฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป
จะเป็นเพื่อนเธอเสมอ
สัญญาว่าฉันจะอยู่กับเธอไปจนวันตาย
แล้วตอนนี้ฝนมันก็ตกหนักยิ่งกว่าเดิม
แต่เราต่างรู้ดีว่าเรายังมีกันและกัน
เธอจะมายืนในร่มของฉันก็ได้นะ
มายืนในร่มของฉันเลย
ใต้เงาร่มของฉัน

These fancy things will never come in between
You’re part of my entity, here for Infinity
When the war has took it’s part
When the world has dealt it’s cards
If the hand is hard, together we’ll mend your heart
Because

พวกสิ่งของต่างๆจะไม่มีวันมาแทรกระหว่างเราสองได้
เธอเป็นส่วนหนึ่งของฉัน และจะอยู่ไปชั่วกัลปาวสาน 
เมื่อสงครามเริ่มดำเนินขึ้น
เมื่อโลกถึงคราวเอาคืน
หากทุกๆอย่างมันยากเย็น เราสองจะซ่อมแซมหัวใจเราเอง
เพราะว่า

When the sun shines, we’ll shine together
Told you I’ll be here forever
Said I’ll always be a friend
Took an oath I’mma stick it out till the end
Now that it’s raining more than ever
Know that we’ll still have each other
You can stand under my umbrella
You can stand under my umbrella
(Ella, ella, eh, eh, eh)
Under my umbrella
(Ella, ella, eh, eh, eh)

เมื่อแสงตะวันสาดส่อง เราจะสุกสว่างไปด้วยกัน
บอกแล้วไงว่าฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป
จะเป็นเพื่อนเธอเสมอ
สัญญาว่าฉันจะอยู่กับเธอไปจนวันตาย
แล้วตอนนี้ฝนมันก็ตกหนักยิ่งกว่าเดิม
แต่เราต่างรู้ดีว่าเรายังมีกันและกัน
เธอจะมายืนในร่มของฉันก็ได้นะ
มายืนในร่มของฉันเลย
ใต้เงาร่มของฉัน

You can run into my arms
It’s okay don’t be alarmed
Come into me
There’s no distance in between our love
So go on and let the rain pour
I’ll be all you need and more
Because

วิ่งเข้ามาในอ้อมกอดฉันได้เลย
ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกลัว
เข้ามาหาฉัน
มันไม่มีระยะห่างระหว่างความรักของเราหรอก
ปล่อยให้ฝนมันตกไป
ฉันจะเป็นทุกๆสิ่งที่เธอต้องการ และจะเป็นให้มากกว่านั้นอีก
เพราะว่า

When the sun shines, we’ll shine together
Told you I’ll be here forever
Said I’ll always be a friend
Took an oath I’mma stick it out till the end
Now that it’s raining more than ever
Know that we’ll still have each other
You can stand under my umbrella
You can stand under my umbrella
(Ella, ella, eh, eh, eh)
Under my umbrella
(Ella, ella, eh, eh, eh)

เมื่อแสงตะวันสาดส่อง เราจะสุกสว่างไปด้วยกัน
บอกแล้วไงว่าฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป
จะเป็นเพื่อนเธอเสมอ
สัญญาว่าฉันจะอยู่กับเธอไปจนวันตาย
แล้วตอนนี้ฝนมันก็ตกหนักยิ่งกว่าเดิม
แต่เราต่างรู้ดีว่าเรายังมีกันและกัน
เธอจะมายืนในร่มของฉันก็ได้นะ
มายืนในร่มของฉันเลย
ใต้เงาร่มของฉัน

It’s raining
Ooh baby it’s raining
Baby come into me
Come into me

ฝนกำลังโปรยปราย
มันกำลังซัดกระเซ็น
ที่รัก เข้ามาหาฉันสิ
เข้ามาหาฉัน

เปรียบสายฝนเหมือนความทุกข์ใจ / ปัญหา หรืออื่นๆที่เ้ข้ามารุมเร้าครับ
แต่หากมีใครมากางร่มให้เรายืนด้วย คงดีไม่้น้อย 😀

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวในท่อนแรกเพลง คือรักแรกพบระหว่างเรากับวงอินดี้จากแดนกิมจิวงนี้

ADOY รวมตัวกันครั้งแรกเมื่อปี 2016 เริ่มต้นจาก Oh Juhwan (นักร้องนำ, มือกีตาร์) เคยอยู่วงเดียวกับ Park Geunchang (มือกลอง) มาก่อน พอวงแตก ทั้งคู่จึงตัดสินใจชวน Zee (ซินธิไซเซอร์) นักดนตรีร่วมค่ายที่บาดเจ็บในอาการเดียวกันมาฟอร์มวงกันใหม่ ไม่นานนัก Juwhan ก็ได้ชักชวนเพื่อนเก่าอย่างสาว Jung Dayoung (มือเบส) มาเติมเต็มให้วงสมบูรณ์มากขึ้น

ส่วนชื่อ ADOY มีที่มาจากการกลับอักษรคำว่า YODA เจ้าแมววิเชียรมาศของหนุ่มนักร้องนำ แมวที่เอนจอยกับการนั่งเหงาหาวนอนในเวลาที่พวกเขานั่งทำเพลงด้วยกันในบ้าน

ตอนนี้พวกเขามีผลงานเพลงทั้งหมด 2 EP อัลบั้ม (2017) ที่มีกลิ่นอายของซินธ์ป๊อปและซิตี้ป๊อป (แน่นอนว่าชื่ออัลบั้มเองก็ได้ไอเดียมาจากเจ้าโยดา) เต็มไปด้วยบทเพลงหลากสีสัน และ (2018) EP เพลงรักฟังง่ายกับเสียงร้องแฮปปี้แซดของ Juwhan เหมาะเหม็งกับการเปิดฟังตอนขับรถ หรือเปิดฟังคลอเป็นความสุข เรียกร้อยยิ้มเล็กๆ ระหว่างวัน

แต่ก่อนที่ชาว Seen Scene Space จะพาหนุ่มสาวกลุ่มนี้บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดคอนเสิร์ต ADOY Live in Bangkok ในวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ เราอยากพาทุกคนมารู้จักพวกเขาให้มากขึ้นกว่าที่เคย (บวกกับสานฝันตัวเองที่อยากคุยกับพวกเขาด้วยอยู่แล้ว) ผ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างนี้ พร้อมกับฝากบทเพลงที่จะเปลี่ยนความรู้สึกระหว่างวันของคุณให้ดีขึ้น และเผื่อว่าใครแถวนี้จะเจอ ‘รักแรกพบ’ เหมือนกับเราบ้าง

ในความรู้สึกของนักดนตรีที่เคยเล่นวงเก่าของตัวเองมาก่อน การรวมตัวในนามวง ADOY มีความหมายยังไงกับพวกคุณบ้าง

Dayoung : ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนพวกเราว่าการทำวงดนตรี สิ่งสำคัญที่เราต้องดีลให้ได้คือความสัมพันธ์ของสมาชิกในวงค่ะ ฉันรู้สึกดีมากๆ เวลาที่พวกเราทุกคนอยู่ร่วมกัน เล่นดนตรีด้วยกัน มันเป็นบรรยากาศที่ดีมาก

Juhwan : ผมตั้งใจว่าผมจะเล่นดนตรีกับวงนี้เป็นวงสุดท้ายในชีวิตครับ เป็นเหตุผลที่ผมและเพื่อนๆ พยายามทำงานทุกชิ้นให้ออกมาดีที่สุด

Zee : ถ้าผมไม่รวมตัวกับวง ADOY ผมอาจจะหันเหไปโฟกัสกับการทำดนตรีเคป๊อปแทนครับ อยากทำงานเบื้องหลังเต็มตัวอะไรแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมพูดได้ว่าผมมีความสุขกับการตัดสินใจครั้งนั้นมาก

Geunchang : ผมคิดเหมือน Juhwan เลย วงนี้อาจจะเป็นวงดนตรีวงสุดท้ายที่ผมจะเล่นเลยคาดหวังมากๆ ว่าอยากอยู่กับมันให้นานเท่าที่ทำได้ครับ

ยากแค่ไหนที่เพลงจากวงอินดี้สักวงจะถูกไฮไลต์ขึ้นมาในประเทศที่ล้นไปด้วยเพลงเคป๊อป

ADOY : มันยากสุดๆ เลยแหละ เวลาที่พูดถึงอุตสาหกรรมเพลงเกาหลี แน่นอนว่าแวบแรกทุกคนจะโฟกัสไปที่เพลงเคป๊อป หรือไม่ก็เพลงฮิปฮอป ถ้าคุณไม่มีซาวนด์ใหม่ๆ หรือเด่นมากพอที่จะดึงดูดความสนใจของคนเกาหลีเจเนอเรชั่นใหม่ การจะเป็นวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จได้มันก็ยากมากเช่นกัน

บรรยากาศในวงการเพลงอินดี้ในตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับสองปีที่แล้วที่พวกเราก่อตั้งวง จริงๆ มันก็มีวงอินดี้หน้าใหม่ที่น่าสนใจเกิดขึ้นเยอะพอสมควรนะ เรามีนักดนตรีเก่งๆ เยอะมาก สิ่งที่พวกเราหวังคือ ADOY อยากเป็นหนึ่งในวงที่เจ๋งๆ เหล่านั้น

พวกคุณอยากให้คนที่ฟังทั้งเพลงอินดี้และเมนสตรีมฟังเพลงของพวกคุณได้ เพราะงั้นการทำงานในแต่ละเพลงโฟกัสไปที่อะไร

ADOY : แค่พยายามทำซาวนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของวง ADOY ครับ เพราะมันจะช่วยทำให้ผู้คนสามารถจดจำดนตรีของเรา และเกิดความความรู้สึก บรรยากาศ หรือภาพลักษณ์ที่ชัดเจนเวลาที่พวกเขากดปุ่มฟังเพลงของพวกเรา

ตัวตนจริงๆ ของพวกเราคือวงอินดี้ มุมหนึ่งมันอาจทำให้เราหลงกับการทำเพลงที่พยายามจะ ‘เป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด และคาดหวังว่าคนฟังจะเข้าใจมัน’ เพราะงั้นหนึ่งในขั้นตอนการทำเพลงของพวกเรา เราจะเปิดเพลงให้เพื่อนๆ ที่ไม่ใช่นักดนตรีของเราฟัง และให้พวกเขาวิจารณ์มันอย่างตรงไปตรงมาก่อนเสมอ ซึ่งคอมเมนต์ส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นไปในทางเดียวกันนะ เราพยายามรวบรวมความคิดเหล่านั้นและเอามันมาปรับใช้

ในกระบวนการทำเพลงของวง แต่ละคนมีส่วนร่วมยังไงบ้าง

ADOY : สมาชิกแต่ละคนมีหน้าที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราจะแบ่งกันทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด Zee และ Juhwan จะเป็นคนเขียนเนื้อดนตรีและเนื้อเพลงทั้งหมด Dayoung ช่วยเขียนเมโลดี้ในเพลงบางเพลง เช่น และ ส่วนขั้นตอนการเรียบเรียงพวกเราทุกคนจะทำมันร่วมกัน

สิ่งที่นักดนตรีฟังมักส่งผลต่อการสร้างสรรค์งานเพลง พวกคุณแต่ละคนฟังเพลงอะไรกันบ้าง

ADOY : พวกเราทุกคนมีแนวเพลงที่ชอบไม่เหมือนกันเลย อย่าง Juhwan สนใจฟังเพลงจากวงอินดี้ทั่วโลก Zee ชอบ Coldplay มาก แล้วก็ชอบฟังเพลงฮิปฮอป Dayoung ชอบเพลงของผิวสี นักร้องนักแต่งเพลงคนโปรดของเธอคือ Blood Orange ส่วน Geunchang มือกลองของพวกเราชอบฟังเพลงโซล

ก่อนหน้านี้มีคนชวนพวกคุณไปเล่นที่โตเกียวและอังกฤษ รู้สึกยังไงที่วงเราถูกชวนไปเล่นต่างประเทศบ่อยขึ้น

ADOY : การออกไปเล่นดนตรีในต่างประเทศมันทำให้เรากล้าคิดนอกกรอบกันมากขึ้น สิ่งที่เรามองตอนนี้ไม่ได้มีแค่สิ่งรอบๆ ตัว แต่เรามองไกลถึงซีนดนตรีระดับโลก เราเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองเยอะมากและตื่นเต้นเสมอที่จะได้ไปเล่นดนตรีในเวทีต่างประเทศและพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น และการที่พวกเราใช้เวลาเดินทางไปที่นั่นที่นี่ ทำสิ่งต่างๆ ด้วยกัน มันทำให้สมาชิกแต่ละคนสนิทกันมากขึ้น นี่น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

คอนเซปต์ใน EP อัลบั้ม CATNIP และ  ต่างกันยังไง

ADOY : ใน  พวกเราพยายามทำเพลงหลากสไตล์ เพราะตอนนั้นเรายังไม่มั่นใจเลยว่าลายเซ็น ในดนตรีของวง ADOY ควรจะเป็นอะไร EP นั้นเราได้แรงบันดาลใจมาจากวงดนตรีที่เราชอบและเพลงที่เราฟังในเวลานั้น  เช่น วงซินธ์ป๊อป M83, วงร็อก Tame Impala และวงดูโอ้ป๊อป Pet Shot Boys พวกเราคิดว่า  เป็น EP อัลบั้มที่เต็มไปด้วยสีสัน

ส่วนการทำอีพี  เราเจาะจงเลือกสีสันที่เราอยากจะเป็นจริงๆ เราหยิบเพลงในไตเติลแทร็กของ EP ก่อนอย่าง มาเป็นแรงบันดาลใจในอัลบั้มนี้ เพราะงั้น เราโฟกัสในสไตล์ของดนตรีที่ชัดเจนมากขึ้น

พวกคุณเลือกทำเพลงภาษาอังกฤษเพื่อให้ตัวเองไปได้ไกล แล้วฟีดแบ็กจากแฟนๆ คนเกาหลีเป็นยังไงบ้าง

ADOY : สารภาพว่าตอนแรกก็แอบกังวงเหมือนกันว่าถ้าเราเดบิวต์ด้วยเพลงภาษาอังกฤษแล้วคนเกาหลีจะฟังไหม แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้รับฟีดแบ็กที่แย่จากพวกเขาเลยนะ อาจเป็นเพราะพวกเราฟังเพลงของวงต่างประเทศในยูทูบและซาวนด์คลาวด์กันมากขึ้น รวมทั้งนักดนตรีต่างประเทศบินมาเปิดคอนเสิร์ตที่เกาหลี คนฟังเลยเปิดใจให้กับเนื้อเพลงพวกเราไปด้วย

พวกคุณชอบเพลงของตัวเองเพลงไหนเป็นพิเศษไหม

Zee : ผมชอบเพลง เพราะผมน่าจะเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวในวงที่ชื่นชอบซาวนด์ที่ทำให้รู้สึกถึงความ ‘เมนสตรีม’ และเป็นอะไรที่ ‘ฟังง่าย’ ผมว่าเพลง มีสองสิ่งนี้รวมกันอย่างพอดิบพอดีครับ

Dayoung : ฉันชอบ ค่ะ นอกจากมันจะเป็นเพลงที่เพราะมากๆ แล้ว เวลาฟังฉันจะรู้สึกผ่อนคลายมากๆ

Juhwan : ผมชอบ ครับ ถ้าเทียบเพลงทั้งหมดของพวกเรา เพลงนี้เป็นเพลงที่ใช้เสียงกีตาร์เป็นหลัก ซึ่งปกติเราจะใช้เสียงซินธ์น่ะครับ

Geunchang : ของผมน่าจะเป็น Grace ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเพลงนี้แข็งแกร่งมากๆ ครับ มันพอดีมากจนไม่อยากจะเติมอะไรเพิ่มเข้าไปอีกแล้ว

แล้วเพลงไหนเหมาะกับแฟนๆ ชาวไทยมากที่สุด

ADOY : คงเป็น นะ เพราะที่เกาหลีเพลงนี้เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากแฟนๆ ของพวกเรา มันถูกบรรจุอยู่ในร้านคาราโอเกะด้วย เพราะฉะนั้นพวกคุณสามารถไปร้องเพลงนี้ได้เวลาที่คุณมาที่เกาหลี

ขอขอบคุณ Seen Scene Space