[Update] มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย พ.ศ. 2556 – ดาวน์โหลดหนังสือ | เล นิ น กราด – Australia.xemloibaihat

เล นิ น กราด: คุณกำลังดูกระทู้

No Text Content!

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น พิมพค รัง้ ที่ 2กรกฎาคม 2557

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น คำนำ-1 คำนำ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้นากฎการเดินสายและตดิ ตงั้ อุปกรณ์ไฟฟา้ พ.ศ. 2538 ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และแนวปฏิบัติในการเดินสายและตดิ ตงั้ อุปกรณไ์ ฟฟา้ พ.ศ. 2537 ของการไฟฟ้าสว่ นภูมภิ าค (กฟภ.) มาพิจารณาเพ่ือรวมเป็นมาตรฐานเดียวกันโดยได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว กฎและแนวทางปฏิบัติทั้งสองมาตรฐานน้ีมีท้ังส่วนที่เหมือนกันและแตกต่างทั้งนี้อาจเนื่องมาจากเหตุผลหลายประการ คือ ความแตกต่างทางด้านระบบแรงดันไฟฟ้า ด้านมาตรฐานอปุ กรณ์ไฟฟ้า ด้านการออกแบบ ด้านระเบียบและแนวนโยบาย ด้านสภาพภูมิศาสตร์และความแตกตา่ งของผู้ใช้ไฟฟา้ มาตรฐานฉบับนี้บังคับใช้เฉพาะผู้ใช้ไฟเท่าน้ัน มิได้บังคับครอบคลุมการออกแบบหรือตดิ ตัง้ ของการไฟฟ้าฯ มาตรฐานฉบับนเ้ี หมาะสาหรบั ผ้ทู ไี่ ด้รบั การอบรม หรือผู้ท่ีมคี วามรู้ทางด้านการออกแบบหรือติดต้ังระบบไฟฟ้าเป็นอย่างดีเท่านั้น ผู้ใช้มาตรฐานฯ ควรใช้อย่างระมัดระวังและมีวิจารณญาณ กรณีท่ีไม่ม่ันใจควรขอคาปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการตัดสินใจ วสท.ไม่รับผิดชอบต่อทรัพย์สินส่วนบุคคลใดๆ รวมทั้งการบาดเจ็บหรือความเสียหายอื่นๆ ที่เป็นผลสืบเนื่องทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อมที่เกิดจากการเผยแพร่การใช้หรือการปฏิบัติตามมาตรฐานฯและไมไ่ ด้รับประกันความถกู ต้องหรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ในมาตรฐานฯ ฉบับนี้ มาตรฐานการติดต้ังทางไฟฟ้าสาหรบั ประเทศไทยฉบับนี้ไดจ้ ัดทาข้ึนเพอื่ ให้เป็นมาตรฐานเดียวท้ังประเทศ เพ่ือแก้ปัญหาในอดีตท่ีผ่านมาท่ีวิศวกรออกแบบ รับเหมา ควบคุมงานใช้มาตรฐานการออกแบบและติดต้ังต่างมาตรฐานกัน รวมท้ังการอบรมการสอนทางด้านนี้ก็ใช้มาตรฐานต่างกัน ทาให้เกิดปัญหาทางดา้ นการทาความเขา้ ใจร่วมกันและเกดิ ผลเสียกับประเทศมาก มาตรฐานการติดต้ังทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทยฉบับนี้เป็นสมบัติร่วมกันที่วิศวกรในสายงานนีค้ วรได้มาช่วยกันพัฒนาและใช้รว่ มกนั เพ่ือให้เกดิ ความปลอดภัยกับผู้ใช้ไฟฟ้า สมาคมวศิ วกรรมสถานแหง่ ประเทศไทยฯ ขอขอบคณุ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมโยธาธิการและผังเมือง สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาเครื่องกลและไฟฟ้าไทย และสมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย ที่ได้ส่งผู้แทนเป็นคณะอนุกรรมการจัดทามาตรฐานหากมีขอ้ เสนอแนะประการใดเกี่ยวกับมาตรฐานฉบับน้ี โปรดแจ้งให้ วสท. ทราบ ด้วยเพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงในโอกาสตอ่ ไป วศิ วกรรมสถำนแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมรำชูปถัมภ์

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นคำนำ-2 คำนำในกำรพิมพป์ รบั ปรุง พ.ศ.2556 มาตรฐานการติดต้ังทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทย พ.ศ. 2545 ฉบับปรับปรุงคร้ังท่ี 1พ.ศ.2551 ได้ใช้งานมาแล้วระยะหนึ่งนั้น ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านวัสดุ อุปกรณ์ และการติดตั้งเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะมาตรฐานการผลิตสายไฟฟ้าท่ีจัดทาโดยสานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรม มอก.11-2553 ประกอบกบั มขี อ้ บกพรอ่ งบางประการท่ีตรวจพบ ทาให้มีความจาเป็นที่จะตอ้ งมีการปรบั ปรุงมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯ นขี้ ้ึน เน่ืองจากมาตรฐานฯ น้ีพิมพ์ข้ึนคร้ังแรกเม่ือ พ.ศ. 2545 มีการปรับปรุงคร้ังท่ี 1 เมื่อพ.ศ.2551 และปจั จบุ ันเป็นฉบับ พ.ศ. 2556 จงึ อาจทาให้หลายหนว่ ยงานท่อี ้างอิงมาตรฐานฯ นี้เกิดความสับสนว่าการอ้างอิงท่ีระบุไว้แต่เดิมน้ันยังคงสามารถใช้กับมาตรฐานฯฉบับใหม่นี้ได้หรือไม่ คณะอนกุ รรมการฯ จงึ มคี วามเห็นว่า ในการอ้างอิงนั้นให้ยึดถือชื่อ “มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทย” เป็นหลักโดยให้ถือว่า พ.ศ. ท่ีต่อท้ายมาตรฐานฯ น้ันเป็นเพียงส่วนเสริมท่ีใช้แสดงปีท่ีจัดทาเท่านั้น ในการอ้างอิงให้ถือตามฉบับล่าสุด นอกจากจะระบุไว้เพ่ือจุดประสงค์ใดจุดประสงคห์ นง่ึ โดยเฉพาะเทา่ นนั้ คณะอนุกรรมการปรับปรุงมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯ นี้ ประกอบด้วยผู้แทนจากหลายหน่วยงานเช่น การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมโยธาธิการและผังเมืองสมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเคร่ืองกลไทย และสมาคมวิศวกรท่ีปรึกษาเคร่ืองกลและไฟฟ้าไทยคณาจารยจ์ ากสถาบนั อุดมศกึ ษา ผ้ผู ลิต และผู้เชี่ยวชาญอิสระ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุมผู้ที่เกย่ี วข้องอย่างครบถว้ น สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงขอขอบคุณคณะอนุกรรมการ คณะทางานฯ และผู้สนบั สนุนทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลามาช่วยงานจนสาเร็จลุล่วงไปได้ และหากพบข้อผิดพลาดประการใด โปรดแจ้งให้ วสท. ทราบด้วยเพื่อจะได้แก้ไขปรบั ปรุง ตอ่ ไป วิศวกรรมสถำนแห่งประเทศไทย ในพระบรมรำชปู ถมั ภ์ พ.ศ .2556

1คณะกรรมการสาขาวิศวกรรมไฟฟา้ ประจาปี พ.ศ.2554-25561. นายอาทรใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นสินสวัสดิ์ทป่ี รึกษา2. ดร.ประศาสน์ จนั ทราทิพย์ ที่ปรกึ ษา3. นายเกษม กหุ ลาบแก้ว ที่ปรกึ ษา4. ผศ.ประสิทธิ์ พทิ ยพฒั น์ ที่ปรึกษา5. นายโสภณ ศลิ าพันธ์ ที่ปรึกษา6. นายภูเธยี ร พงษพ์ ทิ ยาภา ที่ปรึกษา7. นายอุทศิ จันทร์เจนจบ ทป่ี รกึ ษา8. นายสพุ ฒั น์ เพ็งมาก ทป่ี รกึ ษา9. นายประสทิ ธ์ิ เหมวราพรชยั ทป่ี รึกษา10. นายไชยวุธ ชีวะสทุ โธ ทป่ี รึกษา11. นายปราการ กาญจนวตี ที่ปรกึ ษา12. นายพงษ์ศักดิ์ หาญบญุ ญานนท์ ที่ปรกึ ษา13. รศ.ศลุ ี บรรจงจติ ร ที่ปรึกษา14. รศ.ธนบรู ณ์ ศศิภานเุ ดช ที่ปรึกษา15. นายเกียรติ อัชรพงศ์ ที่ปรึกษา16. นายพิชญะ จนั ทรานวุ ฒั น์ ทีป่ รกึ ษา17. นายเชิดศกั ด์ิ วทิ ูราภรณ์ ทป่ี รกึ ษา18. ดร.ธงชยั มีนวล ทป่ี รกึ ษา19. นายโสภณ สิกขโกศล ท่ีปรกึ ษา20. นายทวปี อัศวแสงทอง ทีป่ รกึ ษา21. นายชาญณรงค์ สอนดษิ ฐ์ ที่ปรึกษา22. ดร.ธนะศักด์ิ ไชยเวช ทป่ี รกึ ษา23. นายลือชยั ทองนลิ ประธานฯ24. นายสุกิจ เกยี รติบุญศรี รองประธานฯ25. นายบุญมาก สมทิ ธิลีลา รองประธานฯ26. ผศ.ถาวร อมตกติ ต์ิ กรรมการ

2 27. ดร.เจน ศรวี ัฒนะธรรมา กรรมการ 28. นายสมศกั ดิ์ วฒั นศรีมงคล กรรมการ 29. นายพงศศ์ ักดิ์ ธรรมบวร กรรมการ 30. นายกิตตพิ งษ์ วรี ะโพธิ์ประสทิ ธ์ิ กรรมการ 31. นายสุธี ปน่ิ ไพสฐิ กรรมการ 32. ดร.ประดษิ ฐ์ เฟื่องฟู กรรมการ 33. นายกติ ติศกั ดิ์ วรรณแกว้ กรรมการ 34. นายสุจิ คอประเสริฐศักดิ์ กรรมการ 35. นายภาณวุ ัฒน์ วงศาโรจน์ กรรมการ 36. นายเตชทัต บูรณะอัศวกลุ กรรมการและเลขานุการ 37. น.ส.นพดา ธีรอจั ฉริยกลุ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขาฯ ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น

3 คณะอนกุ รรมการปรับปรงุ มาตรฐานการติดตงั้ ทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทย พ.ศ. 25561. ผศ.ประสทิ ธิ์ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นพทิ ยพฒั น์ทป่ี รกึ ษา2. นายโสภณ ศิลาพนั ธ์ ทป่ี รึกษา3. นายไชยวธุ ชีวะสทุ โธ ทป่ี รกึ ษา4. นายประสทิ ธิ์ เหมวราพรชยั ท่ีปรึกษา5. นายสุกิจ6. นายเกียรติ เกยี รติบญุ ศรี ทป่ี รกึ ษา7. นายพชิ ญะ อัชรพงศ์ ทป่ี รกึ ษา8. รศ.ธนบูรณ์ จนั ทรานุวฒั น์ ทีป่ รึกษา9. นายภาณวุ ฒั น์ ศศิภานุเดช ทปี่ รึกษา10. นายสมชาย วงศาโรจน์ ทป่ี รึกษา11. นายคมสนั หอมกลน่ิ แกว้ ที่ปรึกษา12. นายสนั ติ อินกนั ที่ปรึกษา13. นายลอื ชัย นาสินวิเชษฐช์ ัย ที่ปรกึ ษา14. นายพงศศ์ กั ดิ์ ทองนิล ประธานอนกุ รรมการ15. นายกิตตพิ งษ์ ธรรมบวร อนกุ รรมการ16. นายพงศส์ ันติ์ วีระโพธิ์ประสทิ ธ์ิ อนุกรรมการ17. นายบุญถน่ิ จลุ วงศ์ อนุกรรมการ18. นายกิตตศิ ักด์ิ เอมยา่ นยาว อนกุ รรมการ19. นายดนตร์ วรรณแกว้ อนกุ รรมการ20. นายสธุ ี บนุ นาค อนกุ รรมการ21. นายสมศกั ด์ิ ปนิ่ ไพสฐิ อนกุ รรมการ22. นายเตชทัต วัฒนศรีมงคล อนกุ รรมการ23. นายกฤษฎา บูรณะอศั วกุล อนกุ รรมการ24. น.ส.เทพกัญญา สทุ ธปิ ระภา อนุกรรมการ25. น.ส.นพดา ขัตแิ สง อนกุ รรมการ26. นายศวิ เวทย์ ธรี อัจฉริยกุล อนกุ รรมการ27. น.ส.ปรัทญา อคั รพันธ์ุ อนกุ รรมการและเลขานุการ นาวกิ ผ้ชู ่วยเลขานกุ าร

4คณะทางานปรับปรุงมาตรฐานประจาบททีป่ รกึ ษา 1. ผศ.ประสทิ ธ์ิ พทิ ยพัฒน์ 2. นายไชยวธุ ชวี ะสุทโธ 3. นายโสภณ ศิลาพันธ์ 4. นายประสทิ ธ์ิ เหมวราพรชัย 5. รศ.ศุลี บรรจงจิตรคณะทางานบทท่ี 1, 2 และ 3ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นหวั หนา้ คณะทางาน 1. นายกิตติพงษ์ วีระโพธิป์ ระสิทธิ์ คณะทางาน 2. นายสุกจิ เกียรติบุญศรี คณะทางาน 3. นายสธุ ี ปิน่ ไพสฐิ คณะทางาน 4. นายพงศส์ นั ต์ิ จลุ วงศ์ คณะทางานและผู้ชว่ ยเลขานุการ 5. น.ส.เทพกัญญา ขตั ิแสง คณะทางานและเลขานกุ าร 6. นายศวิ เวทย์ อคั รพันธุ์ หัวหน้าคณะทางาน คณะทางานคณะทางานบทท่ี 4 เกยี รติบญุ ศรี คณะทางาน 1. นายสกุ ิจ จุลวงศ์ คณะทางาน 2. นายพงศ์สันติ์ หอมกล่นิ แกว้ คณะทางานและผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร 3. นายสมชาย นาสินวิเชษฐ์ชยั คณะทางานและเลขานุการ 4. นายสนั ติ ธรี อจั ฉริยกุล หวั หนา้ คณะทางาน 5. น.ส.นพดา อคั รพันธ์ุ คณะทางาน 6. นายศวิ เวทย์ คณะทางาน คณะทางานคณะทางานบทท่ี 5 ทองนลิ คณะทางาน 1. นายลอื ชัย วรรณแกว้ คณะทางาน 2. นายกิตติศกั ด์ิ จลุ วงศ์ คณะทางาน 3. นายพงศส์ ันติ์ อศั วชาญชยั กลุ 4. นายสนธยา อัชรพงศ์ 5. นายเกียรติ วัฒนศรีมงคล 6. นายสมศกั ด์ิ บูรณะอศั วกุล 7. นายเตชทัต

8. น.ส.นพดา ธรี อัจฉริยกุล 59. นายศวิ เวทย์ อัครพันธ์ุ คณะทางานและผู้ชว่ ยเลขานุการคณะทางานบทที่ 6 วรรณแก้ว คณะทางานและเลขานุการ 1. นายกิตติศักด์ิ จุลวงศ์ 2. นายพงศ์สันต์ิ บนุ นาค หัวหน้าคณะทางาน 3. นายดนตร์ บูรณะอัศวกลุ คณะทางาน 4. นายเตชทัต กศุ ลสง่ คณะทางาน 5. นายกศุ ล ธรี อัจฉริยกุล คณะทางาน 6. น.ส.นพดา อัครพนั ธ์ุ คณะทางาน 7. นายศวิ เวทย์ คณะทางานและผชู้ ว่ ยเลขานุการใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น คณะทางานและเลขานกุ ารคณะทางานบทท่ี 7 ศศิภานเุ ดช 1. รศ.ธนบรู ณ์ วรี ะโพธิป์ ระสทิ ธิ์ หวั หน้าคณะทางาน 2. นายกิตตพิ งษ์ ธรรมบวร คณะทางาน 3. นายพงศ์ศกั ด์ิ จุลวงศ์ คณะทางาน 4. นายพงศส์ นั ติ์ เอื้อธนาภา คณะทางาน 5. นายปานโชค อนิ กนั คณะทางาน 6. นายคมสัน วัฒนศรมี งคล คณะทางาน 7. นายสมศกั ดิ์ เอมยา่ นยาว คณะทางาน 8. นายบญุ ถน่ิ อคั รพันธุ์ คณะทางานและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร 9. นายศวิ เวทย์ คณะทางานและเลขานกุ ารคณะทางานบทที่ 8, และ 9 หวั หน้าคณะทางาน1. นายสุธี ปนิ่ ไพสฐิ คณะทางาน คณะทางาน2. นายพงศส์ ันต์ิ จุลวงศ์ คณะทางาน3. นายกิตติพงษ์ วรี ะโพธ์ปิ ระสทิ ธ์ิ คณะทางาน4. นายสมศกั ด์ิ วัฒนศรีมงคล คณะทางาน5. นายพชิ ญะ จันทรานวุ ฒั น์ คณะทางาน6. นายภาณุวฒั น์ วงศาโรจน์7. นายเอกชยั ประสงค์

6 8. นายกฤษฎา สทุ ธปิ ระภา คณะทางานและผู้ชว่ ยเลขานุการ 9. นายศวิ เวทย์ อัครพันธุ์ คณะทางานและเลขานกุ ารคณะทางานบทท่ี 10, และ 14 หวั หน้าคณะทางาน 1. นายบุญถิ่น เอมยา่ นยาว คณะทางาน 2. นายพงศศ์ กั ดิ์ ธรรมบวร คณะทางาน 3. นายกติ ตศิ กั ด์ิ วรรณแกว้ คณะทางาน 4. นายปรัชญา ไตรทพิ ย์ชวลติ คณะทางานและผูช้ ว่ ยเลขานุการ ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น5. นายกฤษฎาสทุ ธิประภาคณะทางานและเลขานกุ าร 6. นายศวิ เวทย์ อคั รพันธ์ุ หัวหนา้ คณะทางานคณะทางานบทที่ 11, 12 และ 13 คณะทางาน 1. นายพงศ์ศกั ดิ์ ธรรมบวร คณะทางาน 2. นายบุญถน่ิ เอมยา่ นยาว คณะทางาน 3. นายเกียรติ อัชรพงศ์ คณะทางาน 4. นายปรัชญา ไตรทิพยช์ วลิต คณะทางานและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร คณะทางานและเลขานกุ าร 5. นายกิตตศิ ักด์ิ วรรณแกว้ 6. นายกฤษฎา สุทธิประภา 7. นายศวิ เวทย์ อคั รพันธุ์

7 คณะอนุกรรมการจัดทามาตรฐาน การตดิ ตั้งทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทย พ.ศ. 2545ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1. รศ.ดร.ชานาญ หอ่ เกียรติ ประธานอนกุ รรมการ 2. นายโสภณ ศิลาพนั ธ์ รองประธาน 3. นายภเู ธยี ร พงษพ์ ิทยาภา อนกุ รรมการ 4. นายไชยวธุ ชวี ะสทุ โธ อนุกรรมการ 5. นายสกุ ิจ เกยี รตบิ ญุ ศรี อนกุ รรมการ 6. นายเกียรติ อัชรพงศ์ อนุกรรมการ 7. นายสมศกั ดิ์ นติ ิศฤงคารนิ อนุกรรมการ 8. นายชยั วธั น์ ปัตตพงศ์ อนกุ รรมการ 9. นายวงศวฒั น์ พลิ าสลกั ษณาการ อนุกรรมการ 10. นายพงษ์ศกั ดิ์ หาญบญุ ญานนท์ อนกุ รรมการ 11. นายทวโี ชค เพชรเกษม อนุกรรมการ 12. นายประสิทธิ์ เหมวราพรชัย อนกุ รรมการ 13. นายกิตตพิ งษ์ วีระโพธป์ิ ระสทิ ธ์ิ อนกุ รรมการ 14. นายพงศส์ ันต์ จลุ วงศ์ อนุกรรมการ 15. นายสุธี ปิ่นไพสฐิ อนกุ รรมการ 16. นายกวี จงคงคาวฒุ ิ อนุกรรมการ 17. นายสมศกั ด์ิ วฒั นศรมี งคล อนุกรรมการ 18. นายสทิ ธโิ ชค วัชรเสมากุล อนกุ รรมการ 19. นายบญุ ถิน่ เอมยา่ นยาว อนุกรรมการ 20. นายพงศ์ศักดิ์ ธรรมบวร อนุกรรมการ 21. นายศวิ เวทย์ อคั รพนั ธ์ุ อนุกรรมการ 22. นายกิตติศักดิ์ วรรณแก้ว อนกุ รรมการ 23. นายเสรมิ พงษ์ สมิ ะโชคดี อนกุ รรมการ 24. นายลอื ชยั ทองนิล อนกุ รรมการและเลขานกุ าร 25. น.ส.นพดา ธีรอจั ฉริยกลุ ผู้ชว่ ยเลขานกุ าร 26. น.ส.ธญั ญา พณิ พาทย์ ผชู้ ว่ ยเลขานุการ 27. น.ส.พทุ ธพร ศรียะพนั ธ์ ผู้ชว่ ยเลขานกุ าร 28. น.ส.มาลี ด่านสริ สิ นั ติ เจ้าหนา้ ทป่ี ระสานงานวชิ าการ

8 คณะกรรรมการปรับปรุงมาตรฐาน การตดิ ตั้งทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทย พ.ศ. 2545 รายนามคณะท่ีปรกึ ษา 1. นายภูเธียร พงษ์พทิ ยาภา ประธาน 2. นายโสภณ ศลิ าพนั ธ์ ทป่ี รึกษา 3. นายสมศกั ดิ์ นิติศฤงคารนิ ทีป่ รึกษา 4. นายประสิทธ์ เหมวราพรชยั ทป่ี รกึ ษา ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น5. นายสุทินอญั ญมณีทปี่ รกึ ษา รายนามคณะกรรมการประจามาตรฐาน 1. รศ.ดร.ชานาญ หอ่ เกียรติ ประธาน 2. นายไชยวธุ ชวี ะสุทโธ กรรมการ 3. ผศ.ประสิทธ์ิ พทิ ยพัฒน์ กรรมการ 4. นายลอื ชัย ทองนิล กรรมการ 5. นายสกุ ิจ เกยี รติบุญศรี กรรมการ 6. นายเกียรติ อัชรพงศ์ กรรมการ กรรมการ 7. นายสมศกั ด์ิ วัฒนศรีมงคล กรรมการ 8. นายพงษศ์ กั ด์ิ หาญบญุ ญานนท์ กรรมการ 9. นายบุญมาก สมิทธลิ ีลา กรรมการ 10. นายววิ ฒั น์ กุลวงศว์ ทิ ย์ กรรมการ 11. นายมงคล วสิ ทุ ธใิ จ กรรมการ 12. น.ส.เทพกญั ญา ขัติแสง

รายนามคณะกรรมการปรับปรงุ มาตรฐาน 91. นายววิ ฒั น์ กลุ วงศว์ ทิ ย์2. ผศ.ประสิทธิ์ พิทยพฒั น์ ประธาน3. นายชยั วัธน์ ปตั ตพงศ์ กรรมการ4. นายวงศวฒั น์ พิลาสลกั ษณาการ กรรมการ5. นายทวีโชค เพชรเกษม กรรมการ6. นายกิตตพิ งษ์ วีระโพธ์ิประสทิ ธิ์ กรรมการ กรรมการ7. นายสธุ ี ป่ินไพสิฐ กรรมการใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น8. นายกวีจงคงคาวฒุ ิกรรมการ9. นายสทิ ธโิ ชค วชั รเสมากุล กรรมการ10. นายบญุ ถ่นิ เอมยา่ นยาว กรรมการ11. นายพงศ์ศักด์ิ ธรรมบวร กรรมการ12. นายเสริมพงษ์ สมิ ะโชคดี กรรมการ13. นายมานะ เกสรคปุ ต์ กรรมการ14. นายพงษ์สันต์ จลุ วงศ์ กรรมการ15. นายกุศล กุศลสง่ กรรมการ16. ดร.นาตยา กรรมการ17. นายกิตตศิ กั ด์ิ คลา้ ยเรือง กรรมการ วรรณแก้ว กรรมการ18. นายศวิ เวทย์ อคั รพนั ธุ์ กรรมการ19. นายเตชทตั บูรณะอศั วกลุ กรรมการและเลขานกุ าร20. น.ส.นพดา ธีรอจั ฉริยกลุ ผู้ชว่ ยเลขานกุ าร21. น.ส.ธัญญา พิณพาทย์ ผู้ช่วยเลขานุการ22. น.ส.พุทธพร ศรยี ะพันธ์ เจา้ หนา้ ท่ีประสานงานวชิ าการ23. น.ส.มาลี ดา่ นสริ ิสันติ เจ้าหนา้ ที่ประสานงานวชิ าการ24. น.ส.สโรชา มัฌชโิ ม

ใช้เพ่อื การศกึ ษาเท่านัน้

1 สารบญั หน้าบทที่ 1 นยิ ามและข้อกาหนดทวั่ ไป 1-1บทท่ี 2 ตอน ก. นิยามทีใ่ ชง้ านทั่วไป 1 -1 ตอน ข. นิยามทใี่ ชส้ าหรบั การติดตงั้ ระบบไฟฟา้ แรงดันท่ีระบุเกนิ 1,000 โวลต์ ขน้ึ ไป 1-1 ตอน ค. ข้อกาหนดทวั่ ไปสาหรบั การตดิ ตงั้ ทางไฟฟ้า 1–8ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1.101 การต่อทางไฟฟ้า (Electrical Connection) 1.102 ทวี่ ่างเพ่อื ปฏบิ ัติงานสาหรบั บรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้า 1 – 18 1 – 19 1.103 เครอื่ งห่อหุ้มและการกั้นสว่ นทมี่ ีไฟฟ้า 1 – 23 1.104 สถานท่ซี ่งึ บรภิ ัณฑไ์ ฟฟา้ อาจได้รบั ความเสยี หายทางกายภาพได้ 1 – 25 1.105 เคร่ืองหมายเตอื นภยั 1.106 สว่ นทีม่ ีประกายไฟ 1 – 25 1 – 25 1.107 การทาเครอ่ื งหมายระบเุ ครื่องปลดวงจร 1 – 25 ตอน ง. ระยะห่างทางไฟฟา้ (Electrical Clearance) ในการติดตั้ง สายไฟฟ้า 1 – 25 1.108 การวดั ระยะหา่ งทางไฟฟา้ 1 – 26 1.109 ระยะห่างทางไฟฟ้า 1 – 26 มาตรฐานสายไฟฟา้ และบรภิ ณั ฑ์ไฟฟ้า 2-1 2.1 มาตรฐานสายไฟฟา้ 2.2 มาตรฐานตัวนาไฟฟา้ 2–1 2–1 2.3 มาตรฐานเคร่อื งป้องกันกระแสเกนิ และสวิตชต์ ดั ตอน 2–1 2.4 มาตรฐานหลักดนิ และสิ่งที่ใชแ้ ทนหลกั ดนิ 2.5 มาตรฐานช่องเดนิ สาย และรางเคเบิล 2–3 2.6 มาตรฐานหมอ้ แปลง 2–4 2-5 2.7 มาตรฐานบริภัณฑ์และเครอื่ งประกอบอ่นื ๆ 2–5 2.8 มาตรฐานระดบั การป้องกันสง่ิ ห่อห้มุ เคร่ืองอุปกรณ์ 2.9 มาตรฐานเต้ารบั -เตา้ เสยี บ 2–5 2–6

2 หนา้ 2.10 มาตรฐานแผงสวิตช์สาหรบั ระบบแรงตา่ 2–6 2.11 โคมไฟฟา้ แสงสวา่ งฉกุ เฉิน 2–6 2.12 โคมไฟฟา้ ป้ายทางออกฉกุ เฉนิ 2–6บทท่ี 3 ตวั นาประธาน สายป้อน วงจรย่อย 3–1บทท่ี 4 3.1 วงจรย่อย 3–1 3.2 สายปอ้ น 3–4 ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น3.3 การป้องกนั กระแสเกนิ สาหรบั วงจรยอ่ ยและสายป้อน3–7 3.4 ตวั นาประธาน (Service Conductor) 3–8 ตอน ก. สาหรบั ระบบแรงต่า 3–9 ตอน ข. สาหรบั ระบบแรงสูง 3 – 10 3.5 บรภิ ณั ฑป์ ระธานหรือเมนสวติ ช์ (Service Equipment) 3 – 10 ตอน ก. สาหรับระบบแรงตา่ 3 – 10 ตอน ข. สาหรบั ระบบแรงสงู 3 – 13 การต่อลงดิน 4–1 4.1 วงจรและระบบไฟฟ้ากระแสสลบั ทีต่ ้องตอ่ ลงดนิ 4–1 4.2 วงจรและระบบไฟฟ้าทหี่ า้ มต่อลงดิน 4.3 การต่อลงดนิ ของระบบประธาน 4–1 4–2 4.4 การต่อลงดินของวงจรทม่ี บี ริภณั ฑป์ ระธานชุดเดียวจา่ ยไฟให้ อาคาร 2 หลังหรอื มากกว่า 4–2 4.5 ตวั นาทตี่ อ้ งมกี ารต่อลงดนิ ของระบบไฟฟา้ กระแสสลับ 4–3 4.6 การต่อลงดนิ สาหรบั ระบบไฟฟ้ากระแสสลับท่ีมตี ัวจา่ ยแยกต่างหาก 4 – 3 4.7 การต่อลงดินของเครอื่ งหอ่ หุ้มและ/หรือชอ่ งเดินสายท่เี ปน็ โลหะ ของตวั นาประธานและของบรภิ ณั ฑ์ประธาน 4–3 4.8 การตอ่ ลงดินของเคร่ืองห่อหมุ้ และ/หรอื ชอ่ งเดนิ สายท่ีเปน็ โลหะ ของสายตัวนา 4–3 4.9 การตอ่ ลงดนิ ของบรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ ชนดิ ยึดติดกบั ที่ หรอื ชนดิ ที่มกี าร เดนิ สายถาวร 4–4

3 หนา้ 4.10 การตอ่ ลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟา้ ชนดิ ยดึ ตดิ กับทท่ี กุ ขนาดแรงดนั 4 – 4 4.11 การตอ่ ลงดนิ ของบรภิ ณั ฑซ์ ่งึ ไมไ่ ดร้ บั กระแสไฟฟ้าโดยตรง 4–5 4.12 การต่อลงดนิ ของบริภณั ฑไ์ ฟฟา้ ที่มีสายพร้อมเต้าเสียบ 4–5 4.13 ระยะห่างจากตวั นาระบบลอ่ ฟา้ 4.14 วธิ ตี ่อลงดิน 4–6 4–6 4. 15 การต่อฝาก 4–8ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น4.16 ชนดิ ของสายต่อหลักดนิ 4 – 10 4.17 ชนดิ ของสายดนิ ของบรภิ ัณฑไ์ ฟฟ้า 4.18 วธิ กี ารตดิ ตง้ั สายดนิ 4 – 11 4 – 11 4.19 ขนาดสายต่อหลักดนิ ของระบบไฟฟ้ากระแสสลับ 4 – 11 4.20 ขนาดสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟา้ 4 – 11 4.21 จุดต่อของสายต่อหลกั ดิน (เข้ากบั หลักดิน) 4.22 การตอ่ สายดินเขา้ กบั สายหรือบริภัณฑไ์ ฟฟ้า 4 – 12 4 – 12 4.23 การต่อสายดนิ เขา้ กับกล่อง 4 – 13 4.24 วธิ ีการต่อสายต่อหลักดนิ (เข้ากบั หลกั ดิน) 4 – 14 4.25 การป้องกันการยึดตดิ (สายต่อหลกั ดินและสายดิน) 4.26 ความสะอาดของผิวของสิง่ ทจ่ี ะตอ่ ลงดิน 4 – 14 4 – 14 4.27 ความต้านทานระหว่างหลกั ดนิ กบั ดิน (Resistance to Ground) 4 – 14 4.28 การตอ่ ลงดินของเครอื่ งมอื วดั มิเตอร์ และรีเลย์ 4 – 14บทท่ี 5 ข้อกาหนดการเดินสายและวัสดุ 5–1 5.1 ข้อกาหนดการเดินสายสาหรับระบบแรงต่า 5–1 5.2 ข้อกาหนดการเดินสายสาหรับระบบแรงสูง 5–6 5.3 การเดนิ สายเปดิ หรอื เดินลอย (Open Wiring) บนวัสดุฉนวน 5 – 7 5.4 การเดินสายในท่อโลหะหนา (Rigid Metal Conduit) ท่อโลหะ หนาปานกลาง (Intermediate Metal Conduit) และท่อโลหะ บาง (Electrical Metallic Tubing) 5–9 5.5 การเดนิ สายในท่อโลหะอ่อน (Flexible Metal Conduit) 5 – 10

4 หนา้ 5.6 การเดนิ สายในทอ่ โลหะออ่ นกนั ของเหลว (Liquidtight Flexible Metal Conduit) 5 – 11 5.7 การเดนิ สายในทอ่ อโลหะออ่ น (Electrical Nonmetallic Tubing) 5 – 12 5.8 การเดินสายในท่ออโลหะแขง็ (Rigid Nonmetallic Conduit) 5 – 13 5.9 การเดนิ สายในท่ออโลหะอ่อนกันของเหลว (Liquidtight Flexible Nonmetallic Conduit) 5 – 14 ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น5.10 การเดินสายในช่องเดนิ สายโลหะบนพนื้ ผิว (Surface Metal Raceway) 5 – 15 5.11 การเดนิ สายในช่องเดินสายอโลหะบนพ้ืนผิว (Surface Nonmetallic Raceway) 5 – 16 5.12 การเดินสายในรางเดนิ สาย (Wireways) 5 – 17 5.13 การตดิ ตั้งบสั เวย์ (Busways) หรอื บัสดัก (Bus Duct) 5 – 18 5.14 การเดนิ สายบนผิวหรอื เดนิ สายเกาะผนงั (Surface Wiring) 5 – 19 5.15 การเดินสายในรางเคเบิล (Cable Trays) 5 – 20 5.16 กลอ่ งสาหรับงานไฟฟา้ (Box) 5 – 22 5.17 ข้อกาหนดสาหรบั แผงสวิตช์ (Switchboard) และแผงยอ่ ย (Panelboard) 5 – 22 ข้อ 5.18-5.24 ว่างบทท่ี 6 5.25 สายไฟฟ้า 5 – 28 5.26 สายเคเบิลชนิดเอม็ ไอ (Mineral Insulated Cable) บรภิ ัณฑไ์ ฟฟ้า 5 – 32 6.1 โคมไฟฟ้าและเครือ่ งประกอบการตดิ ต้งั 6-1 6.2 สวิตช์ เต้ารับ (Receptacle) และเต้าเสยี บ (Plug) 6–1 6.3 มอเตอร์ วงจรมอเตอร์ และเครอ่ื งควบคมุ 6–2 6–3 ตอน ก. ทว่ั ไป 6–3 ตอน ข. สายสาหรับวงจรมอเตอร์ 6–4 ตอน ค. การป้องกนั การใชง้ านเกนิ กาลังของมอเตอรแ์ ละวงจรยอ่ ย 6–6

5ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นบทท่ี 7ตอน ง. การปอ้ งกนั กระแสลดั วงจรระหวา่ งสายและป้องกนั หน้า การรว่ั ลงดินของวงจรยอ่ ยมอเตอร์ 6 – 10 ตอน จ. การป้องกันกระแสลดั วงจรและปอ้ งกันการรวั่ ลงดิน 6 – 15 ของสายปอ้ นในวงจรมอเตอร์ 6 – 15 ตอน ฉ. วงจรควบคุมมอเตอร์ 6 – 16 ตอน ช. เครอ่ื งควบคมุ มอเตอร์ 6 – 17 ตอน ซ. เคร่อื งปลดวงจร 6 – 19 6 – 21 ตอน ฌ.มอเตอรส์ าหรับระบบแรงสูง 6 – 21 ตอน ญ.การป้องกันส่วนทีม่ ีไฟฟา้ 6 – 22 ตอน ฎ. การตอ่ ลงดนิ 6 – 22 6.4 หม้อแปลง ห้องหมอ้ แปลง และลานหมอ้ แปลง 6 – 24 6 – 26 ตอน ก. ทั่วไป 6 – 29 ตอน ข. ขอ้ กาหนดจาเพาะสาหรับหมอ้ แปลงชนดิ ตา่ งๆ 6 30 ตอน ค. หอ้ งหม้อแปลง 6 – 30 ตอน ง. ลานหม้อแปลงอยภู่ ายนอกอาคาร (Outdoor Yard) 6 – 32 6.5 คาปาซิเตอร์ 7–1 ตอน ก. คาปาซิเตอรแ์ รงดันไม่เกนิ 1,000 โวลต์ 7–1 ตอน ข. คาปาซิเตอร์แรงดนั เกิน 1,000 โวลต์ 7–2 บรเิ วณอนั ตราย 7 – 10 7.1 ท่วั ไป 7 – 25 7.2 บรเิ วณอนั ตรายประเภทท่ี 1, ประเภทท่ี 2 และ ประเภทที่ 3 7 – 35 7.3 บรเิ วณอนั ตรายประเภทที่ 1 7 – 40 7.4 บรเิ วณอนั ตรายประเภทท่ี 2 7 – 45 7.5 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 7.6 ระบบทปี่ ลอดภยั อยา่ งแท้จรงิ 7.7 บริเวณอันตราย โซน 0, โซน 1 และ โซน 2 ,มาตรฐานท่ี 2 (IEC)

6 ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น หน้าบทที่ 8 สถานท่เี ฉพาะ 8-1 8.1 โรงมหรสพ 8–1 8.2 ป้ายโฆษณา 8–4 8.3 สถานบรกิ าร 8–5 8.4 โรงแรม 8–9 9–1บทที่ 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ 9–1 9.1 อาคารชดุ 9 – 11 9.2 อาคารสงู หรืออาคารขนาดใหญพ่ เิ ศษ 10 – 1 10 – 1บทที่ 10 บริภัณฑเ์ ฉพาะงาน 10 – 4 10.1 เครอื่ งเช่ือมไฟฟ้า 10 – 4 10.2 สระน้า อา่ งนา้ พุ และการตดิ ตง้ั อ่ืนท่คี ล้ายกัน 10 – 8 ตอน ก.ทั่วไป 10 – 15 ตอน ข.สระชนดิ ติดตั้งถาวร 10 – 18 ตอน ค.อ่างน้าพุ 10 – 18 10.3 ลิฟต์ ตสู้ ง่ ของ บนั ไดเลื่อนและทางเดินเล่อื น 10 – 19 ตอน ก. ท่ัวไป 10 – 21 ตอน ข. ตัวนา 10 – 22 ตอน ค. การเดนิ สาย 10 – 24 ตอน ง. การติดต้งั ตัวนา 10 – 25 ตอน จ. เคเบลิ เคลื่อนท่ี 10 – 26 ตอน ฉ. เครอ่ื งปลดวงจรและการควบคมุ 10 – 27 ตอน ช. การป้องกันกระแสเกนิ 10 – 28 ตอน ซ. ห้องเคร่อื ง 10 – 28 ตอน ฌ. การต่อลงดิน 11 – 1 ตอน ญ. การป้องกันความเรว็ เกิน 11 – 1บทที่ 11 มาตรฐานการทนไฟของสายไฟฟา้ 11.1 ทว่ั ไป

7 หน้า11.2 มาตรฐานทีก่ าหนดใช้ 11 – 111.3 การทนไฟของสายไฟฟา้ 11 – 211.4 การรับรองบรภิ ณั ฑ์ 11 – 4บทท่ี 12 วงจรไฟฟ้าช่วยชีวติ 12 – 112.1 ทว่ั ไป 12 – 112.2 ขอบเขต 12 – 1ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น12.3 การจา่ ยไฟฟา้ ฉกุ เฉินสาหรบั วงจรไฟฟา้ ชว่ ยชีวิต12 – 212.4 เมนสวิตช์และสวิตช์ตา่ งๆ 12 – 312.5 ระบบการเดินสายไฟฟา้12.6 การแยกระบบการเดินสาย 12 – 4 12 – 512.7 ขอ้ กาหนดเฉพาะมอเตอรส์ ูบนา้ ดับเพลิง 12 – 512.8 ข้อกาหนดการทนไฟของระบบวงจรไฟฟ้าชว่ ยชวี ติ ต่างๆ 12 – 612.9 การรบั รองความพรอ้ มสมบูรณ์ของระบบวงจรไฟฟ้าช่วยชีวิต 12 – 7บทที่ 13 อาคารเพ่อื การสาธารณะใตผ้ วิ ดนิ (Sub-Surface Building) 13 – 113.1 ทัว่ ไป 13 – 113.2 ขอบเขต13.3 ระบบการเดินสายไฟฟ้า 13 – 1 13 – 213.4 การแยกระบบการเดินสาย 13 – 313.5 เมนสวิตช์และสวิตช์ตา่ งๆ 13 – 313.6 การจ่ายไฟฟ้าฉกุ เฉนิ สาหรบั ระบบท่ตี ้องการความปลอดภัยสงู มาก 13 – 413.7 อุปกรณ์ปอ้ งกนั 13 – 413.8 การตอ่ ลงดนิ 13 – 413.9 ท่อระบายอากาศ 13 – 5บทท่ี 14 การติดต้ังไฟฟา้ ชวั่ คราว 14 – 114.1 ขอบเขต 14 – 114.2 ขอ้ กาหนดการเดินสายชัว่ คราว14.3 เง่ือนเวลาการกาหนดระบบไฟฟา้ ชัว่ คราว 14 – 1 14 – 1

8 14.4 ทั่วไป หน้า 14.5 การต่อลงดนิ 14 – 1 14.6 การป้องกนั กระแสรวั่ ลงดนิ สาหรบั บคุ คล 14 – 3 14.7 การกั้น 14 – 3ภาคผนวก ก. คาศพั ทอ์ งั กฤษ-ไทย 14 – 4ภาคผนวก ข. คาศัพทไ์ ทย-องั กฤษ ก–1ภาคผนวก ค. ระยะในการตดิ ตง้ั ระบบไฟฟ้ากบั ระบบอ่ืน ๆ ข–1ภาคผนวก ง. เซอรก์ ติ เบรกเกอรต์ ามมาตรฐาน IEC 60898 หรอื IEC 898 ค–1ภาคผนวก จ. เซอร์กติ เบรกเกอร์ตามมาตรฐาน IEC60947-2 หรือ IEC 947-2 ง–1ภาคผนวก ฉ. มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์แนะนา จ–1ภาคผนวก ช. ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกยี่ วกบั การป้องกนั ไฟดูด (IEC ฉ–1 ช–1 60536)ภาคผนวก ซ. ตารางเปรยี บเทียบระหวา่ ง NEMA Enclosure และ IP Class ซ–1 Protection (IEC Standard) ฌ–1ภาคผนวก ฌ. ดีมานดแ์ ฟกเตอร์สาหรบั เครอ่ื งปรบั อากาศแบบส่วนกลาง ญ–1 (Central) และโหลดของเคร่ืองปรบั อากาศแต่ละชนิด ฎ-1ภาคผนวก ญ. วิธีการหาขนาดสายดนิ ของวงจรยอ่ ย ฏ–1ภาคผนวก ฎ. จานวนสงู สุดของสายไฟฟ้าขนาดเดยี วกนั ในท่อรอ้ ยสาย ฐ–1ภาคผนวก ฏ. Utilization Categories for Contactors and Motor-startersภาคผนวก ฐ. แรงดันตก ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น

9ตารางที่ 1-1ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น ตาราง หนา้ตารางท่ี 1-2ตารางท่ี 1-3 ความลกึ (Depth) ต่าสุดของที่วา่ งเพื่อปฏบิ ตั ิงานกบั บรภิ ณั ฑ์ 1 – 20ตารางที่ 1-4 ไฟฟา้ ระบบแรงตา่ 1 – 22 ความลกึ (Depth) ตา่ สดุ ของทว่ี า่ งเพื่อปฏบิ ัตงิ านกับบริภณั ฑ์ 1 – 23ตารางที่ 1-5 ไฟฟ้า ระบบแรงสูง ระดับความสูงของสว่ นท่ีมีไฟฟา้ และไม่มีท่ีกัน้ 1 – 28ตารางท่ี 2-1 ระยะหา่ งต่าสุดตามแนวนอนระหวา่ งสายไฟฟา้ กับสิง่ ก่อสรา้ ง เมือ่ตารางท่ี 3-1 สายไฟฟา้ ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งก่อสรา้ ง (เมตร) (Minimum 1 – 29ตารางท่ี 3-2 Horizontal Clearance) 2–6ตารางที่ 3-3 ระยะห่างต่าสุดตามแนวดิ่งระหว่างสายไฟฟ้ากับพน้ื แหล่งนา้ 3–5ตารางที่ 3-4 อาคารหรือสิง่ ก่อสร้างอ่ืนๆ (เมตร) (Minimum Vertical 3–5ตารางที่ 3-5 Clearance) 3–6ตารางท่ี 4-1 ความหมายตัวเลขกากับระดับชัน้ การป้องกันหลังสัญลักษณ์ IP 3 – 12ตารางท่ี 4-2 ดมี านด์แฟกเตอร์สาหรบั โหลดแสงสวา่ ง 3 – 12ตารางท่ี 5-1 ดีมานด์แฟกเตอรส์ าหรบั โหลดเต้ารับในสถานทไ่ี มใ่ ช่ทอี่ ย่อู าศัย 4 – 12ตารางที่ 5-2 ดมี านดแ์ ฟกเตอรส์ าหรบั เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ท่วั ไป 4 – 13ตารางที่ 5-3 พกิ ดั สูงสดุ ของเครือ่ งปอ้ งกันกระแสเกินและโหลดสงู สดุ ตามขนาด 5–3ตารางท่ี 5-4 เครื่องวัดหนว่ ยไฟฟา้ (สาหรบั การไฟฟ้านครหลวง) 5–4 ขนาดสายไฟฟ้า เซฟตสี วติ ช์ คตั เอาต์ และคาร์ทรดิ จฟ์ วิ สส์ าหรับ 5–5 ตัวนาประธาน (สาหรบั การไฟฟา้ ส่วนภมู ภิ าค) 5–8 ขนาดตา่ สุดของสายตอ่ หลักดินของระบบไฟฟา้ กระแสสลับ ขนาดตา่ สุดของสายดินของบรภิ ณั ฑไ์ ฟฟา้ ความลกึ ในการติดตั้งใต้ดิน สาหรบั ระบบแรงตา่ ระยะห่างสาหรบั การจบั ยึดสายไฟในแนวด่ิง พนื้ ท่หี นา้ ตดั สูงสดุ รวมของสายไฟทกุ เสน้ คิดเปน็ ร้อยละเทียบกบั พ้ืนทีห่ นา้ ตดั ของทอ่ การเดินสายเปิดบนวัสดุฉนวนภายในอาคาร

10ตารางท่ี 5-5 ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นการเดนิ สายเปดิ บนลกู ถ้วยภายนอกอาคาร หนา้ตารางที่ 5-6 ความหนาต่าสุดของชอ่ งเดินสายโลหะบนพืน้ ผวิ (Surface Metalตารางที่ 5-7 Raceway) 5–8ตารางท่ี 5-8 ระยะห่างตา่ สุดระหวา่ งท่ีมีไฟฟ้าเปลือยกบั ส่วนทมี ไี ฟฟา้ เปลอื ย 5 – 16ตารางที่ 5-9 และระหว่างสว่ นที่มไี ฟฟา้ เปลอื ยกับดนิ (มม.) 5 – 26ตารางท่ี 5-20 ตวั คูณปรบั คา่ ขนาดกระแสเนือ่ งจากจานวนสายที่นากระแสในช่อง 5 – 29ตารางที่ 5-21 เดนิ สายไฟฟา้ เดยี วกันมากกว่า 1 กลุ่มวงจร 5 – 33ตารางท่ี 5-22 ระยะจับยดึ /รองรับ ของการติดตงั้ เอม็ ไอเคเบลิ ตารางที่ 5-10 – 5.19 วา่ ง 5 – 35ตารางที่ 5-23 5 – 36 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าทองแดงหุ้มฉนวนพีวีซี มี/ไม่มีเปลือกตารางที่ 5-24 นอก สาหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่เกิน 0.6/1 กิโลโวลต์ อุณหภูมิ 5 – 38 ตัวนา 70 ºC อณุ หภูมิโดยรอบ 40 ºC เดินในชอ่ งเดนิ สายในอากาศ ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าตัวนาทองแดง หุ้มฉนวน มีเปลือกนอก 5 – 39 สาหรบั ขนาดแรงดนั (U0/U) ไมเ่ กิน 0.6/1 กิโลโวลต์ อุณหภูมิตวั นา 70 ºC หรอื 90 ºC อณุ หภูมิโดยรอบ 40 ºC เดินเกาะผนงั ในอากาศ 5 – 40 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าตัวนาทองแดงแกนเดียวหุ้มฉนวนพีวีซี มอก.11-2553 สาหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่เกิน 450/750 โวลต์ อุณหภูมิตัวนา 70 ºC อุณหภูมิโดยรอบ 40 ºC เดินบนฉนวนลูก ถ้วยในอากาศ ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าตัวนาทองแดงหุ้มฉนวนพีวีซี มีเปลือก นอก สาหรบั ขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่เกิน 0.6/1 กิโลโวลต์ อุณหภูมิ ตัวนา 70 ºC อุณหภูมิโดยรอบ 30 ºC ร้อยท่อฝังดินหรือฝังดิน โดยตรง ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าทองแดงแกนเดียวหุ้มฉนวนพีวีซี ตาม มอก.11-2553 สาหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่เกิน 300/500 โวลต์ อุณหภูมิตัวนา 70 ºC หรือ 90 ºC อุณหภูมิโดยรอบ 40 ºC เดินใน อากาศ

11ตารางท่ี 5-25ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นขนาดกระแสของสายอ่อน (flexible cord) ตัวนาทองแดงหลาย หนา้ตารางที่ 5-26 แกนหุ้มฉนวนพีวีซี ตาม มอก.11-2553 สาหรับขนาดแรงดันตารางที่ 5-27 (U0/U) ไม่เกิน 300/500 โวลต์ อุณหภูมิตัวนา 70 ºC หรือ 90 ºC 5 – 41ตารางท่ี 5-28 อุณหภมู ิ โดยรอบ 40 ºC เดินในอากาศ 5 – 42ตารางท่ี 5-29 5 – 43ตารางที่ 5-30 ขนาดกระแสของสายเคเบลิ อ่อน (flexible cord) ตัวนาทองแดงห้มุ 5 – 44ตารางที่ 5-31 ฉนวนพวี ซี ี ตาม มอก.11-2553 สาหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่ 5 – 45 เกิน 450/750 โวลต์ อณุ หภูมติ วั นา 70 ºC อณุ หภูมโิ ดยรอบ 40 ºC 5- 46 เดนิ ในอากาศ 5 – 47 ขนาดกระแสของสายไฟฟา้ ตัวนาทองแดงหมุ้ ฉนวนครอสลงิ กด์พอ ลเิ อทิลนี มีเปลือกนอกสาหรบั ขนาดแรงดนั (U0/U) ไม่เกนิ 0.6/1 กโิ ลโวลต์ อุณหภูมิตัวนา 90 ºC อณุ หภมู โิ ดยรอบ 40 ºC เดนิ ร้อย ในทอ่ ในอากาศ ขนาดกระแสของสายไฟฟา้ แกนเดยี วตวั นาทองแดงหมุ้ ฉนวน ครอส ลิงกดพ์ อลเิ อทลิ ีน สาหรบั ขนาดแรงดนั (U0/U) ไม่เกิน 0.6/1 กิโล โวลต์ อณุ หภมู ติ วั นา 90 ºC อุณหภมู ิโดยรอบ 40 ºC เดินบนฉนวน ลกู ถ้วยในอากาศ ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าตัวนาทองแดงหุ้มฉนวนครอสลิงกดพ์ อลิเอทลิ นี มีเปลือกนอกขนาดแรงดัน(U0/U)ไม่เกิน0.6/1กโิ ลโวลต์ อณุ หภูมิตัวนา 90ºCอณุ หภูมโิ ดยรอบ30ºCร้อยท่อฝงั ดินหรือฝงั ดินโดยตรง ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าตวั นาทองแดงหุ้มฉนวนพวี ีซี มเี ปลอื ก นอก สาหรบั ขนาดแรงดัน (U0/U) ไมเ่ กิน 0.6/1 กโิ ลโวลต์ อณุ หภมู ิ ตัวนา 70 ºC อุณหภมู ิโดยรอบ 40 ºC วางบนรางเคเบิลแบบระบาย อากาศไม่มฝี าปดิ หรือรางเคเบิลแบบบันได ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าตัวนาทองแดงหุ้มฉนวนพีวีซี มีเปลือกนอก สาหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่เกิน 0.6/1 กิโลโวลต์ อุณหภูมิตัวนา 70 ºC อณุ หภมู โิ ดยรอบ 40ºCวางบนรางเคเบลิ ชนิดดา้ นล่างทึบ ม/ี ไม่มี ฝาปดิ

12ตารางที่ 5-32ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นขนาดกระแสของสายไฟฟ้าตัวนาทองแดงหุม้ ฉนวนครอสลงิ กด์พอหน้าตารางที่ 5-33 ลิเอทิลีน มเี ปลอื กนอก สาหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่เกนิ 0.6/1ตารางท่ี 5-34 กิโลโวลต์ อณุ หภูมิตวั นา 90 ºC อุณหภูมโิ ดยรอบ 40 ºC วางบน 5 – 49ตารางที่ 5-35 รางเคเบิลแบบระบายอากาศ ไมม่ ฝี าปดิ หรือรางเคเบิลแบบบนั ได 5 – 50ตารางท่ี 5-36 5 – 52 ขนาดกระแสของสายไฟฟา้ ตัวนาทองแดงหมุ้ ฉนวนครอสลงิ กด์พอ 5 – 53ตารางที่ 5-37 ลเิ อทลิ ีน มเี ปลอื กนอก สาหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไมเ่ กิน 0.6/1 กโิ ลโวลต์ อณุ หภมู ติ ัวนา 90 ºC อุณหภมู โิ ดยรอบ 40 ºC วางบน 5 – 54 รางเคเบลิ ชนดิ ด้านลา่ งทึบ มี/ไมม่ ี ฝาปดิ 5 – 55 ขนาดกระแสของสายเคเบิลชนิดเอ็มไอ ตวั นาและเปลอื ก (Sheath) ทองแดง หุ้ม/ไมห่ มุ้ พวี ีซี โดยเปลือกทองแดงสามารถสัมผัสได้ อุณหภมู ิเปลือก 70 ºC อณุ หภูมโิ ดยรอบ 40 ºC ขนาดกระแสของสายเคเบิลชนิดเอ็มไอ ตวั นาและเปลอื ก (Sheath) ทองแดง โดยเปลือกทองแดงไมส่ ามารถให้บคุ คลสัมผสั หรอื ไม่สามารถ สัมผัสกบั วัสดุตดิ ไฟได้อณุ หภูมเิ ปลือก 105 ºC อณุ หภูมิโดยรอบ 40 ºC ขนาดกระแสของสายเคเบิล ตัวนาทองแดงแกนเดียวห้มุ ฉนวนครอสลิ งกด์พอลเิ อทิลนี เปลอื กนอกพวี ีซี มชี ีลด์ ขนาดแรงดนั (U0/U) ต้ังแต่ 3.6/6 กโิ ลโวลต์ ถึง 18/30 กิโลโวลต์ อณุ หภูมิตัวนา 90 ºC อุณหภูมิ โดยรอบ 40 ºC วางบนรางเคเบิลแบบระบายอากาศ หรอื บนราง เคเบิลแบบบนั ได ขนาดกระแสของสายเคเบิล ตัวนาทองแดงแกนเดียวหุ้มฉนวนครอสลิ งกด์พอลิเอทิลีน เปลอื กนอกพีวีซี มีชีลด์ ขนาดแรงดนั (U0/U) ตงั้ แต่ 3.6/6 กโิ ลโวลต์ ถึง 18/30 กิโลโวลต์ อุณหภูมติ ัวนา 90 ºC อุณหภูมิ โดยรอบ 40 ºC (เดินร้อยในทอ่ ในอากาศ) และ 30 ºC (รอ้ ยทอ่ ฝงั ดนิ )

13ตารางที่ 5-38ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นขนาดกระแสสายเคเบิลตัวนาทองแดงแกนเดียวหุ้มฉนวนครอส หน้า ลิงกด์พอลิเอทิลีน มีเปลือกนอก อุณหภูมิตัวนา 90 ºC อุณหภูมิตารางท่ี 5-39 โดยรอบ 30 ºC ขนาดแรงดัน (U0/U) 3.6/6 ถึง 18/30 กิโลโวลต์ 5 – 56ตารางที่ 5-40 เดินใน duct bank ไม่เกนิ 8 ท่อ 5 – 57ตารางที่ 5-41 5 – 58ตารางที่ 5-42 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าเครอ่ื งเชอ่ื ม (ตวั นาทองแดง) ตาม มอก.ตารางท่ี 5-43 448-2525 5 – 60ตารางท่ี 5-44ตารางท่ี 5-45 ตวั คูณปรบั คา่ ขนาดกระแสสาหรบั สายเคเบิลแกนเดยี ว วางบนราง 5 – 61ตารางท่ี 5-46 เคเบลิ เปน็ กลุ่มมากกว่า 1 วงจร 5 – 62ตารางท่ี 5-47 5 – 63 ตัวคูณปรับค่าขนาดกระแสสาหรับสายเคเบิลหลายแกน วางบน รางเคเบิลแบบระบายอากาศ แบบด้านลา่ งทบึ หรือแบบบันได เม่ือ 5 – 64 วางเป็นกลมุ่ มากกวา่ 1 วงจร 5 – 64 ขนาดกระแสของสายไฟฟา้ อลมู ิเนยี มหมุ้ ฉนวนพีวซี ีตาม มอก.293- 5 – 65 2541 ขนาดแรงดัน (U0/U) ไมเ่ กิน 450/750 โวลต์ อุณหภมู ติ วั นา 70 ºC อุณหภมู ิโดยรอบ 40 ºC เดนิ บนฉนวนลกู ถ้วยในอากาศ ตัวคณู ปรับคา่ อุณหภมู ิโดยรอบท่ีแตกต่างจาก 40 ºC ใชก้ ับคา่ ขนาดกระแสของเคเบิล เมือ่ เดินในอากาศ ตวั คณู ปรบั ค่าอุณหภมู ิโดยรอบแตกต่างจาก 30 ºC ใชก้ บั ค่าขนาด กระแสของเคเบิล เมื่อเดินใตด้ ิน ตัวคูณปรับค่าสาหรับสายเคเบิลแกนเดียว หรือหลายแกน ขนาด แรงดัน (U0/U) ไม่เกิน 0.6/1 กิโลโวลต์ ฝังดินโดยตรง เม่ือวางเป็น กลมุ่ มากกว่า 1 วงจร วางเรียงกันแนวระดับ ตวั คณู ปรับคา่ สาหรับสายเคเบิลแกนเดียว หรอื หลายแกน ขนาด แรงดัน (U0/U) ไมเ่ กิน 0.6/1 กโิ ลโวลต์ ร้อยทอ่ ฝงั ดินโดยตรง เมือ่ วางเปน็ กลุ่มมากกว่า 1 วงจร วางเรียงกนั แนวระดับ รูปแบบการตดิ ตั้งอ้างองิ

14ตารางที่ 5-48ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นข้อกาหนดการใชง้ านของสายไฟฟ้าตวั นาทองแดง หุม้ ฉนวนพวี ซี ีหนา้ ตาม มอก.11-2553ตารางท่ี 6-1 ขนาดกระแสของสายสาหรบั มอเตอร์ที่ใชง้ านไมต่ ่อเน่ือง 5 – 67ตารางท่ี 6-2 ขนาดสายระหว่างเครื่องควบคุมมอเตอร์และตวั ต้านทานในวงจร 6–4 ทุตยิ ภูมิของมอเตอรแ์ บบวาวด์โรเตอร์ตารางที่ 6-3 พิกัดหรอื ขนาดปรบั ตงั้ สงู สดุ ของเคร่ืองปอ้ งกนั การลัดวงจรระหว่าง 6–5 สายและปอ้ งกันการรว่ั ลงดินของวงจรย่อยมอเตอร์ตารางท่ี 6-4 รหสั อักษรแสดงการลอ็ กโรเตอร์ 6 – 11ตารางท่ี 6-5 ขนาดปรับตง้ั สงู สุดของเครอื่ งป้องกนั กระแสเกินสาหรบั หม้อแปลง 6 – 13 ระบบแรงสงูตารางท่ี 7-1 ระดบั อณุ หภมู สิ ูงสุดทผ่ี ิว บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 6 – 23ตารางที่ 7-2 ระดบั อณุ หภูมิสงู สุดทผ่ี ิว บรเิ วณอันตรายประเภทท่ี 2 7–6ตารางท่ี 7-3 ประเภทของการออกแบบระบบป้องกัน 7–7ตารางท่ี 7-4 ประเภทของการออกแบบระบบป้องกัน 7 – 10ตารางท่ี 7-5 กล่มุ การจาแนกประเภทของกลมุ่ ก๊าซ 7–5ตารางท่ี 7-6 การจาแนกประเภทอุณหภูมพิ นื้ ผวิ สูงสุดสาหรบั บริภัณฑไ์ ฟฟา้ กล่มุ 7 – 51ตารางท่ี 9-1 ขนาดของเครือ่ งวัดหน่วยไฟฟา้ แรงต่าสาหรับห้องชดุ ประเภทอยู่ 7 – 51 อาศยั (สาหรบั การไฟฟ้านครหลวง)ตารางท่ี 9-2 ขนาดของเครอ่ื งวัดหน่วยไฟฟา้ แรงต่าสาหรับห้องชดุ ประเภทอยู่ 9–4 อาศัย (สาหรับการไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค)ตารางที่ 9-3 ขนาดของเครอ่ื งวดั หนว่ ยไฟฟา้ แรงตา่ สาหรับหอ้ งชดุ ประเภท 9–5 สานักงานหรอื รา้ นค้าทัว่ ไป (สาหรับการไฟฟ้านครหลวง)ตารางท่ี 9-4 ขนาดของเคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้าแรงตา่ สาหรบั ห้องชุดประเภท 9–5 สานกั งานหรอื รา้ นคา้ ท่วั ไป (สาหรับการไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาค)ตารางท่ี 9-5 คา่ โคอนิ ซเิ ดนตแ์ ฟกเตอรส์ าหรบั หอ้ งชุดประเภทอยู่อาศยั 9–6 9–9

15ตารางท่ี 9-6 คา่ โคอินซเิ ดนต์แฟกเตอร์สาหรับหอ้ งชดุ ประเภทสานักงานหรอื หน้า รา้ นค้าท่วั ไปและประเภทอุตสาหกรรมตารางที่ 10-1 ระยะหา่ งระหวา่ งสายไฟฟ้าอากาศกับสว่ นตา่ งๆ ของสระว่ายนา้ 9–9ตารางที่ 10-2 ดีมานดแ์ ฟกเตอร์ของสายป้อนวงจรลฟิ ต์ 10 – 7ตารางท่ี 11-1 การทดสอบตาม BS 6378 10 – 21ตารางที่ 11-2 การทดสอบตาม IEC 60332-1 11 – 2ตารางท่ี 11-3 การทดสอบตาม IEC 60332-3 11 – 3ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น 11 – 3

ใช้เพ่อื การศกึ ษาเท่านัน้

บทท่ี 1 นิยามและขอ้ กาหนดท่วั ไป 1-1 บทท่ี 1นิยามและขอ้ กาหนดท่ัวไปนิยามและข้อกาหนดทั่วไปที่ระบุไว้ในมาตรฐานเล่มนี้ มีจุดมุ่งหมายเพ่ือสื่อความ หมาย ใช้เรียกช่ือและอธิบายลักษณะรูปแบบหรือการกระทา เพ่ือให้ผู้ใช้มาตรฐานได้เข้าใจขอบเขตและลักษณะอุปกรณห์ รือการกระทาทก่ี าหนดไวใ้ นมาตรฐาน ประกอบดว้ ย 4 ตอน ตอน ก. และ ตอน ข.เป็นคานยิ ามสาหรับการตดิ ตั้งทางไฟฟา้ สาหรับระบบไฟฟ้าแรงต่ากับระบบไฟฟ้าแรงสูง ตอนค. เป็นข้อกาหนดการติดต้ังทางไฟฟ้าทั่วไปท่ีสาคัญ ซ่ึงเป็นข้อพึงปฏิบัติในงานออกแบบและติดต้ังเพ่ือให้ระบบไฟฟ้าใช้งานได้อย่างม่ันคงและปลอดภัย ท้ังยังได้คานึงถึงการตรวจสอบบารุงรักษาให้สามารถกระทาได้ทั่วถึง และตอน ง. เป็นข้อกาหนดระยะห่างทางไฟฟ้าในการติดต้ังสายไฟฟ้าเหนือพื้นดิน เพื่อใช้อ้างอิงในการออกแบบและติดตั้งให้มีระยะห่างจากตัวอาคารหรือสิ่งกอ่ สร้างได้ระยะทป่ี ลอดภัยใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นตอน ก. นิยามที่ใชง้ านท่วั ไป1.1 เขา้ ถึงได้ (Accessible) เมอ่ื ใช้กบั วิธีการเดินสาย หมายถึง ท่ีซ่ึงสามารถถอดหรือเปิดได้โดยไม่ทาให้โครงสร้างหรือส่วนท่ีเสร็จแล้วของอาคารเสียหาย หรือที่ซ่ึงไม่ถูกปิดอย่างถาวรด้วยโครงสร้างหรอื สว่ นที่เสรจ็ แลว้ ของอาคาร (ดคู าว่า “ซ่อน” และ “เปดิ โลง่ ”)1.2 เขา้ ถึงได้ (Accessible) เมอื่ ใช้กับบริภัณฑ์ หมายถึง ทซ่ี ่ึงอนญุ าตให้เข้าไปใกล้ได้โดยไม่มีการกัน้ ด้วยประตซู ึง่ ถูกล็อก หรือติดกุญแจอยู่ พ้นื ยก หรอื วธิ อี ่ืน (ดูคาว่า “เข้าถึงได้งา่ ย”)1.3 เข้าถึงได้งา่ ย (Accessible, Readily) หมายถงึ ท่ซี ึ่งสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วเพื่อปฏิบัติการ เปล่ียนหรือตรวจสอบ โดยไม่ทาให้ผู้เข้าถึงต้องปีนข้ามหรือเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางหรือใชบ้ ันไดหยิบยกได้หรอื ใช้เกา้ อี้ ฯลฯ1.4 ขนาดกระแส (Ampacity) หมายถึง ปริมาณกระแส ซึ่งตัวนายอมให้ไหลผ่านอย่างต่อ-เน่ืองในภาวะการใชง้ าน โดยไมท่ าใหพ้ ิกัดอุณหภูมิเกินค่าที่กาหนด มีหนว่ ยเป็นแอมแปร์1.5 เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า (Appliance) หมายถึง บริภณั ฑส์ าหรับประโยชนใ์ ช้สอยท่ัวไปนอกจากในโรงงานอุตสาหกรรม โดยปกติสร้างข้ึนเป็นขนาดมาตรฐานสากล โดยติดตั้งหรือประกอบเข้า

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-2 บทที่ 1 นิยามและข้อกาหนดทว่ั ไปเป็นหน่วยเดียว เพื่อใช้งานในหน้าที่เดียวหรือหลายหน้าที่ เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศเคร่ืองผสมอาหาร เคร่ืองทอด และอ่ืนๆ1.6 รบั รอง (Approved) หมายถึง เปน็ ทย่ี อมรับของเจ้าหนา้ ทีผ่ ้มู ีอานาจ1.7 แอสคาเรล (Askarel) หมายถึง สารไม่ติดไฟประเภทไฮโดรคาร์บอน ซ่ึงประกอบข้ึนจากคลอรีนใช้เป็นฉนวนทางไฟฟ้าหมายเหตุ เนอื่ งจากเป็นสาร PCB ซึ่งเปน็ สารพิษ ปจั จุบันห้ามใช้1.8 เต้าเสียบ (Attachment Plug) หมายถึง อุปกรณ์ท่ีสอดเข้าไปในเต้ารับแล้วทาให้เกิดการตอ่ ระหว่างตวั นาของสายออ่ นทตี่ ิดเต้าเสียบกับตัวนาท่ีตอ่ อย่างถาวรกบั เตา้ รบั1.9 อัตโนมัติ (Automatic) หมายถึง การทางานได้โดยกลไกของตัวเอง เม่ือมีการกระตุ้นอันไม่ใช่การกระทาของบุคคล เช่น มีการเปลี่ยนแปลงกระแส แรงดัน อุณหภูมิ หรือการเปล่ียนแปลงทางกล1.10 การต่อฝาก (Bonding) หมายถึง การต่อถึงกันอย่างถาวรของส่วนที่เป็นโลหะให้เกิดเป็นทางนาไฟฟ้าที่มีความต่อเน่ืองทางไฟฟ้า และสามารถนากระแสที่อาจเกิดข้ึนได้อย่างปลอดภัย1.11 สายต่อฝาก (Bonding Jumper) หมายถึง ตัวนาที่ใช้ต่อระหว่างส่วนที่เป็นโลหะท่ีตอ้ งการต่อถงึ กนั ทางไฟฟา้1.12 ระบบสายต่อฝาก (Bonding Jumper, System) หมายถึง การต่อกันระหว่างตัวนาที่ต่อลงดินของวงจร กับสายต่อฝากด้านแหล่งจ่าย หรือกับสายดินของบริภัณฑ์ หรือกับทั้งสองอย่าง ของระบบที่มีตวั จา่ ยแยกต่างหาก1.13 สายต่อฝากของบริภัณฑ์ (Bonding Jumper, Equipment) หมายถึง สายต่อฝากระหว่างสายดนิ ของบริภณั ฑ์ตัง้ แตส่ องส่วนขึ้นไป1.14 สายตอ่ ฝากประธาน (Bonding Jumper, Main) หมายถึง สายต่อฝากท่ีต่อระหว่างตัว-นาทม่ี ีการตอ่ ลงดินกับตัวนาตอ่ ลงดนิ (สายดนิ ) ทต่ี าแหนง่ ดา้ นไฟเข้าของบริภัณฑ์ประธาน1.15 วงจรยอ่ ย (Branch Circuit) หมายถึง ตวั นาวงจรในวงจรระหว่างอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกนิ จดุ สุดทา้ ยกับจดุ จา่ ยไฟ ซง่ึ อาจแบง่ ออกไดด้ ังนี้วงจรย่อยสาหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า (Branch Circuit, Appliance) หมายถึง วงจรย่อยที่จ่ายไฟฟ้าให้จุดจ่ายไฟท่ีมีเคร่ืองใช้ไฟฟ้ามาต่อมากกว่า 1 จุดข้ึนไป เช่น วงจรไม่มีการต่อจากสายดวงโคม

บทที่ 1 นยิ ามและข้อกาหนดทัว่ ไป 1-3วงจรย่อยสาหรับจุดประสงค์ทั่วไป (Branch Circuit, General Purpose) หมายถึง วงจรใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นย่อยท่จี ่ายไฟฟ้าให้กับจดุ จ่ายไฟเพ่อื ใช้สาหรบั แสงสวา่ งและเคร่อื งใช้ไฟฟ้าวงจรยอ่ ยเฉพาะ (Branch Circuit, Individual) หมายถึง วงจรย่อยท่ีจ่ายไฟฟ้าให้บริภัณฑ์ใช้สอยหนงึ่ ชิน้ เท่านัน้1.16 ตู้ (Cabinet) หมายถึง เคร่ืองห่อหุ้มท่ีออกแบบให้ติดตั้งบนพื้นผิวหรือติดผนัง โดยมีกรอบ ด้าน และฝาปิดซึง่ เปิดได้1.17 รางเคเบิล (Cable Trays) หมายถึง รางสาหรบั รองรับสายเคเบิล ซ่ึงทาด้วยวัสดุไม่ติดไฟ ซึ่งประกอบด้วยฐานยาวต่อเน่ืองกันโดยมีขอบตั้งข้ึน ไม่มีฝาปิด โดยรางเคเบิลอาจเป็นหรือไมเ่ ป็นรูพรุน กไ็ ด้ หรือเปน็ ตะแกรงก็ได้ ทั้งน้อี าจเป็นรางเคเบิลข้ันบันได (Cable ladder) หมายถึง รางสาหรับรองรับสายเคเบิล ลักษณะคล้ายบนั ได มสี ่วนประกอบตามแนวขวางยึดกับส่วนประกอบหลกั ท่เี ป็นแนวยาวตอ่ เนอื่ งกันระบบรางเคเบิลปิด (Cable trunking system) หมายถึง ระบบของรางปิด ซ่ึงประกอบด้วยฐานกบั ฝาท่ีเปิดได้ รางปดิ นีม้ ุง่ หมายให้ ใช้สาหรบั ล้อมรอบตัวนาห้มุ ฉนวน สายเคเบิล สายอ่อนและ/หรือ ใช้สาหรับอานวยความสะดวกให้แก่บริภัณฑ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงบริภัณฑ์ด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศเป็นมดั (Bunched) หมายถึง สายเคเบิลอาจกล่าวว่าเป็นมัด เมื่อมีสายเคเบิลต้ังแต่ 2 เส้นขึ้นไป อยู่รวมกันในท่อร้อยสาย ท่อ ท่อเดินสาย หรือ รางเคเบิล หรือกรณีไม่มีการห่อหุ้มจะหมายถงึ สายเคเบลิ ตง้ั แต่ 2 เสน้ ขึน้ ไปทีไ่ มไ่ ดแ้ ยกกันตามระยะห่างท่กี าหนดไว้1.18 เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) หมายถงึ อุปกรณ์ซ่ึงถกู ออกแบบให้ปดิ และเปิดวงจรโดยไมอ่ ัตโนมตั ิ และใหเ้ ปดิ วงจรโดยอัตโนมตั เิ มอ่ื มกี ระแสไหลผ่านเกนิ กาหนด โดยเซอร์กิตเบรกเกอรไ์ มเ่ สียหายเมอื่ ใช้งานภายในพกิ ัดปรับได้ (Adjustable) เมื่อใช้กับเซอร์กิตเบรกเกอร์ หมายถึง เซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีสามารถตั้งคา่ กระแสตา่ งๆ เพ่ือปลดวงจรได้ภายในเวลาที่กาหนดปลดวงจรทันที (Instantaneous Trip) เม่ือใช้กับเซอร์กิตเบรกเกอร์ หมายถึง เซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีปลดวงจรทนั ที โดยไมม่ กี ารหน่วงเวลาเวลาผกผัน (Inverse Time) เมื่อใช้กับเซอร์กิตเบรกเกอร์ หมายถึง เซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีมีการหน่วงเวลาในการปลดวงจรโดยทก่ี ารหนว่ งเวลานน้ั จะลดลงเมอื่ กระแสเพ่มิ ข้ึน

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-4 บทท่ี 1 นิยามและขอ้ กาหนดทว่ั ไปปรับไม่ได้ (Nonadjustable) เม่ือใช้กับเซอร์กิตเบรกเกอร์ หมายถึง เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่ไม่สามารถปรับคา่ กระแสหรือเวลาในการปลดวงจรการปรับตั้ง (Setting) ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ หมายถึง ค่ากระแส และ/หรือเวลาของเซอร์กิตเบรกเกอร์ ซง่ึ ถูกตั้งไว้เพื่อปลดวงจรการประสานสัมพันธ์ (Coordination) หมายถึง การบอกตาแหน่งของสภาวะกระแสเกินเพ่ือจากัดการเกิดไฟฟา้ ขดั ขอ้ งของวงจร หรอื บรภิ ณั ฑ์ โดยการเลือกอุปกรณป์ ้องกันกระแสเกิน และคา่ พกิ ัดเพ่อื ปลดวงจร1.19 ซ่อน (Concealed) หมายถึง ทาให้เข้าถึงไม่ได้โดยส่ิงก่อสร้าง หรือส่วนของอาคารสายไฟฟา้ ในชอ่ งเดนิ สายทซี่ ่อน ถือว่าเป็นท่ีซอ่ น ถึงแม้วา่ อาจจะเข้าถงึ ได้โดยการดึงออกมา1.20 ตัวนา (Conductor)ตวั นาเปลือย (Bare Conductor) หมายถึง ตัวนาที่ไม่มีการหมุ้ หรือไม่มีฉนวนไฟฟ้าใดๆตัวนาหุ้ม (Covered Conductor) หมายถึง ตัวนาที่หุ้มด้วยวัสดุที่มีส่วนประกอบหรือมีความหนาซ่งึ ไมเ่ ป็นทีย่ อมรับว่าเปน็ ฉนวนไฟฟา้ ตามมาตรฐานน้ีตัวนาหุ้มฉนวน (Insulated Conductor) หมายถึง ตัวนาท่ีหุ้มด้วยวัสดุท่ีมีส่วนประกอบและมีความหนาเป็นทย่ี อมรับวา่ เป็นฉนวนไฟฟ้าเคเบิล (cable) หมายถึง กลุ่มของตัวนา ตั้งแต่หน่ึงเส้นขึ้นไป โดยมีวัสดุฉนวนและเปลือกปอ้ งกัน อาจเป็นตัวนาเดย่ี วหรือตวั นาชนิด stranded ที่มีฉนวนและมีเปลือก(เคเบิลตัวนาเดี่ยว)หรือกลุ่มของตวั นามีฉนวนแยกจากตวั นาอนื่ และมีเปลือก(เคเบิลหลายตัวนา)ระบบบัสบาร์ (Busbar trunking system) หมายถึง ระบบตัวนาหุ้มซึ่งมีชุดประกอบท่ีได้รับการทดสอบเฉพาะแบบ มีลักษณะประกอบด้วย ตัวนาเด่ียวท่ีแยกกันด้วยวัสดุฉนวน ชุดประกอบอาจประกอบดว้ ยตอ่ ไปนี้ ชุดบัสบาร์ ท่ีอาจมีหรือไม่มี สาหรับชุดจุดแยก หน่วยจุดแยกท่ีเหมาะสม หน่วยอุปกรณ์สลับเฟส อุปกรณ์ขยาย อุปกรณ์เคล่ือนไหวได้ อุปกรณ์ยืดหยุ่นอปุ กรณ์ปลายสายปอ้ น และอะแดปเตอร์ ทั้งนี้องคป์ ระกอบอ่นื ๆ อาจรวมอยู่กับหน่วยจดุ แยก1.21 ข้อต่อเปิด (Conduit Body) หมายถึง ส่วนแยกต่างหากของระบบท่อร้อยสายที่จุดต่อระหวา่ งสว่ นของระบบต้งั แต่ 2 ส่วนข้ึนไป หรอื จุดปลายของระบบเพื่อให้เข้าถึงระบบสายได้โดยฝาครอบที่ถอดได้ กล่อง เช่น ชนิด FS และ FD หรือกล่องโลหะหล่อ กล่องโลหะแผ่นท่ีใหญ่ ไม่ถือวา่ เป็นข้อต่อเปดิ

บทท่ี 1 นยิ ามและข้อกาหนดทั่วไป 1-51.22 ตัวต่อสายแบบบีบ (Connector, Pressure) หมายถึง อุปกรณ์ท่ีใช้ต่อระหว่างตัวนาใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นตงั้ แต่ 2 ตัวนาขน้ึ ไป หรือระหวา่ งตัวนาต้งั แต่ 1 ตวั นาข้ึนไปกับขวั้ สาย โดยใชแ้ รงกดทางกลไม่ใช้การบดั กรี1.23 โหลดต่อเนือ่ ง (Continuous Load) หมายถงึ โหลดที่คาดว่ากระแสสูงสุดที่คงที่ติดต่อกันต้งั แต่ 3 ชั่วโมงขึ้นไป1.24 เครอื่ งควบคมุ (Controller) หมายถงึ อุปกรณ์ หรือกลุ่มของอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมกาลังไฟฟ้าทีส่ ่งไปยงั เครอ่ื งสาเรจ็ ทีต่ อ่ กับเครื่องควบคุมนั้น1.25 ตวั นาอะลูมิเนียมหุ้มด้วยทองแดง (Copper Clad Aluminum Conductor) หมายถึงตัวนาทท่ี าจากแท่งอะลมู เิ นียมหมุ้ ดว้ ยทองแดง โดยประสานทองแดงกับแกนอะลูมิเนียมด้วยวิธีโลหการ และต้องมีทองแดงอย่างต่าร้อยละ 10 ของพื้นที่หน้าตัดของตัวนาเด่ียว หรือของแต่ละเสน้ ของตัวนาตเี กลียว1.26 ดา้ นหนา้ ไม่มไี ฟ (Dead Front) หมายถึง ด้านท่ีใช้ปฏิบัติงานของบริภัณฑ์ ไม่มีส่วนท่ีมไี ฟฟา้ เปิดโล่งสบู่ ุคคล1.27 ดีมานด์แฟกเตอร์ (Demand Factor) หมายถึง อัตราส่วนระหว่างความต้องการสูงสุดของระบบหรอื สว่ นของระบบกบั โหลดทั้งหมด ทีต่ ่อเข้ากบั ระบบหรอื สว่ นของระบบที่พิจารณา1.28 อุปกรณ์ (Device) หมายถงึ หน่วยหนึ่งของระบบไฟฟ้า ท่ีมุ่งหมายให้เป็นทางผ่านของกระแสไฟฟ้าแตไ่ มใ่ ชพ้ ลงั งานไฟฟา้1.29 เครื่องปลดวงจร (Disconnecting Means) หมายถึง อุปกรณ์หรือกลุ่มของอุปกรณ์หรอื สิ่งอืน่ ท่สี ามารถปลดตวั นาในวงจรออกจากแหลง่ จ่าย1.30 ทนฝุ่น (Dustproof) หมายถึง การสร้างหรือการป้องกันซ่ึงทาให้ฝุ่นไม่มีผลต่อการทา-งานของส่งิ น้ันๆ1.31 กันฝุ่น (Dusttight) หมายถึง การสร้างซ่ึงทาให้ฝุ่นไม่สามารถเข้าไปข้างในสิ่งห่อหุ้มภายใตเ้ งือ่ นไขที่กาหนดสาหรับการทดสอบท่กี าหนดโดยเฉพาะ1.32 ใชง้ าน (Duty)ใช้งานต่อเนื่อง (Continuous Duty) หมายถึง การใช้งานท่ีมีโหลดเกือบคงที่ โดยมีระยะเวลานานไม่จากดั

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-6 บทท่ี 1 นิยามและข้อกาหนดทั่วไปใช้งานเปน็ ระยะ (Intermittent Duty) หมายถึง การใช้งานเป็นช่วงสลับกัน เช่น (1) ช่วงมีโหลดและไรโ้ หลด หรอื (2) ชว่ งมีโหลด และพกั หรือ (3) ชว่ งมีโหลด ไรโ้ หลด และพกัใช้งานเป็นคาบ (Periodic Duty) หมายถึง การใช้งานเป็นระยะซึ่งภาวะโหลดกลับมีข้ึนอีกอยา่ งสม่าเสมอใช้งานระยะส้ัน (Short-Time Duty) หมายถึง การใช้งานท่ีมีโหลดมากเกือบคงท่ี โดยมีระยะเวลาส้ันและจากดัใช้งานไม่แน่นอน (Varying Duty) หมายถึง การใช้งานซึ่งทั้งขนาดโหลดและช่วงเวลาที่มีโหลดเปล่ยี นแปลงได้ไม่แนน่ อน1.33 ปา้ ยไฟฟา้ (Electric Sign) หมายถึง บรภิ ณั ฑ์ทย่ี ึดอยู่กบั ท่ี ประจาทหี่ รอื หยิบยกได้ ท่ีมีการส่องสว่างทางไฟฟ้าโดยมีข้อความ หรือสัญลักษณ์ท่ีออกแบบ เพื่อแสดงให้ทราบหรือเพื่อดึงดูดความสนใจ1.34 ลอ้ ม (Enclosed) หมายถึง ล้อมรอบด้วยกล่อง ที่ครอบ ร้ัว หรือผนังเพ่ือป้องกันบุคคลมิใหส้ ัมผสั กบั สว่ นทมี่ แี รงดนั โดยบงั เอิญ1.35 เคร่ืองห่อหุ้ม หรือ ที่ล้อม (Enclosure) หมายถึง กล่องหรือกรอบของเคร่ืองสาเร็จหรือรั้ว หรือ ผนังที่ล้อมรอบการติดตั้งเพื่อป้องกันบุคคลมิให้สัมผัสกับส่วนที่มีแรงดัน ไฟฟ้าหรอื เพอื่ ปอ้ งกนั บริภัณฑไ์ ม่ให้เสียหายจ่ายไฟ, มีไฟ (Energized) หมายถึง เปน็ สภาวะที่มกี ารต่อทางไฟฟา้ กบั แหล่งจ่ายแรงดัน หรือเปน็ แหล่งจ่ายแรงดัน ซ่ึงไม่จากัดว่าเป็นบริภัณฑ์ที่ต่อกับแหล่งจ่ายแรงดันเท่าน้ัน แต่ยังรวมถึงต่อคาปาซเิ ตอร์ และตัวนาท่ีมแี รงดันเหนี่ยวนาดว้ ย1.36 บริภัณฑ์ (Equipment) หมายถึง สิ่งซ่ึงรวมท้ังวัสดุ เคร่ืองประกอบ อุปกรณ์ เคร่ืองใช้ไฟฟ้า ดวงโคม เครื่องสาเร็จและสิ่งอื่นที่คล้ายกัน ที่ใช้เป็นส่วนหน่ึงหรือใช้ในการต่อเข้ากับการตดิ ตั้งทางไฟฟ้าบรภิ ัณฑ์สอ่ื สาร (Communication Equipment) หมายถึง บริภัณฑ์อเิ ล็กทรอนิกส์ซ่ึงทาหน้าท่ีด้านการสื่อสาร คือ ส่งผ่าน เสียง ภาพ และข้อมูล และรวมถึงบริภัณฑ์ไฟฟ้ากาลัง (เช่น DCคอนเวอรเ์ ตอร์ อินเวอร์เตอร์ และแบตเตอรี่) และบริภัณฑ์ด้านเทคนคิ (เชน่ คอมพิวเตอร)์1.37 บริภัณฑ์ทนระเบิด (Explosionproof Equipments) หมายถึง บริภัณฑ์ท่ีอยู่ในเคร่ืองห่อหุ้ม ซ่ึงสามารถทนการระเบิดของก๊าซ หรือไอบางชนิดที่อาจเกิดข้ึนภายใน และสามารถ

บทท่ี 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดท่ัวไป 1-7ป้องกันการจุดระเบิดของก๊าซหรือไอบางชนิดท่ีอยู่รอบ ๆ เคร่ืองห่อหุ้ม ซ่ึงจุดระเบิดโดยการสใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นปารก์ วาบไฟ หรอื การระเบดิ ของก๊าซหรือไอภายใน และบริภณั ฑ์ท่ีอยู่ในเครื่องห่อหุ้มซึ่งทางานท่ามกลางอณุ หภมู ิภายนอกทเ่ี ปน็ บรรยากาศแวดล้อมท่ีติดไฟได้ โดยบรรยากาศแวดล้อมน้ันจะไมจ่ ุดระเบดิ1.38 เปดิ โลง่ (Exposed) เมอ่ื ใช้กบั ส่วนท่มี ไี ฟฟ้า หมายถึง สภาพท่ีบุคคลสามารถสัมผัสหรือเข้าไปใกล้เกินระยะปลอดภัยโดยพล้ังเผลอได้ รวมถึงส่วนที่ไม่มีการกั้น ไม่มีการแยกออกหรอื ไม่มกี ารฉนวนอย่างเหมาะสม1.39 เปิดโลง่ (Exposed) เม่อื ใชก้ บั วธิ ีการเดินสาย หมายถึง อยู่บนหรือติดกับพ้ืนผิวหรืออยดู่ ้านหลังของแผงที่ออกแบบให้เขา้ ถงึ ได้1.40 สายป้อน (Feeder) หมายถึง ตัวนาของวงจรระหว่างบริภัณฑ์ประธาน หรือแหล่งจ่ายไฟของระบบตดิ ต้งั แยกต่างหากกับอุปกรณป์ อ้ งกันกระแสเกนิ ของวงจรยอ่ ยตัวสุดท้าย1.41 เคร่ืองประกอบ (Fitting) หมายถึง ส่วนประกอบ เช่น แป้นเกลียวกันคลาย บุชช่ิง หรือสว่ นอ่นื ๆ ของระบบการเดนิ สายทใี่ ช้งานเพื่อวตั ถุประสงค์หลักทางกลมากกวา่ ทางไฟฟา้1.42 ลงดิน หรือการต่อลงดิน (Ground) หมายถึง การต่อตัวนาไม่ว่าโดยต้ังใจหรือบังเอิญระหวา่ งวงจรไฟฟา้ หรือบรภิ ัณฑ์กบั ดนิ หรอื กบั ส่วนทีเ่ ป็นตวั นาซง่ึ ทาหนา้ ทแี่ ทนดิน1.43 ต่อลงดิน (Grounded) หมายถงึ ต่อลงดินหรือตอ่ กับส่วนท่เี ป็นตัวนาซง่ึ ทาหนา้ ทีแ่ ทนดิน1.44 ตอ่ ลงดนิ อยา่ งมีประสิทธิผล (Grounded, Effectively) หมายถึง การต่อลงดินโดยตรงอยา่ งตั้งใจ หรอื โดยผ่านอิมพแี ดนซ์ท่ีมีคา่ ตา่ เพยี งพอท่จี ะไม่ทาใหเ้ กดิ แรงดันตกครอ่ มมากจนทาใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ บริภณั ฑ์ทต่ี อ่ อยู่ หรือต่อบคุ คล1.45 ตัวนาที่มีการต่อลงดิน (Grounded Conductor) หมายถึง ระบบหรือตัวนาในวงจรท่ีตอ่ ลงดินโดยตั้งใจตัวนานิวทรลั (Neutral Conductor) หมายถึง ตวั นาไฟฟ้าที่ต่อกับจุดนิวทรัลของระบบ ซึ่งมุ่งหมายให้นากระแสภายใต้สภาวะปกติ1.46 ตัวนาสาหรบั ตอ่ ลงดนิ หรือสายดิน (Grounding Conductor) หมายถึง ตวั นาท่ีใช้ต่อบรภิ ณั ฑ์หรือวงจรทีต่ ้องต่อลงดินของระบบการเดินสายเขา้ กับหลกั ดิน1.47 ตัวนาสาหรับต่อลงดินหรือสายดินของบริภัณฑ์ (Grounding Conductor,Equipment) หมายถงึ ตัวนาที่ใช้ต่อส่วนโลหะท่ีไม่นากระแสของบริภัณฑ์ ช่องเดินสาย ที่ล้อม

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-8 บทที่ 1 นยิ ามและข้อกาหนดท่ัวไปเข้ากับตัวนาท่ีมีการต่อลงดินของระบบและ/หรือตัวนาต่อหลักดินที่บริภัณฑ์ประธาน หรือที่แหล่งจ่ายไฟของระบบจา่ ยแยกตา่ งหาก1.48 ตัวนาต่อหลักดินหรือสายต่อหลักดิน (Grounding Electrode Conductor) หมายถึงตวั นาที่ใช้ตอ่ หลักดนิ กับตัวนาสาหรบั ต่อลงดินของบริภณั ฑ์ และ/หรือ กับตวั นาทม่ี ีการต่อลงดินของวงจรทีบ่ ริภณั ฑป์ ระธาน หรือทแ่ี หล่งจา่ ยไฟของระบบจา่ ยแยกต่างหาก1.49 เครื่องตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อกระแสรั่วลงดิน (Ground-Fault Circuit-Interrupter)หรือเครื่องตัดไฟรั่ว (Residual Current Device หรือ RCD) หมายถึง อุปกรณ์ท่ีมุ่งหมายสาหรับป้องกันบุคคล โดยทาหน้าท่ีตัดวงจรหรือส่วนของ วงจรภายในเวลาที่กาหนดเมื่อกระแสร่วั ลงดินเกินคา่ ทีก่ าหนดไว้แต่น้อยกว่าค่าท่ีอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินของวงจรแหล่งจ่ายไฟจะทางานหมายเหตุ ตามมาตรฐานน้ีจะใช้คาว่า “เครื่องตัดไฟรั่ว” ซ่ึงอาจแตกต่างจาก มอก.909-2548 ซึ่งใช้คาว่า “เคร่อื งตดั วงจรกระแสเหลือ”1.50 การป้องกันกระแสรั่วลงดินของบริภัณฑ์ (Ground-Fault Protection ofEquipment) หมายถึง ระบบที่มุ่งหมายเพ่ือป้องกันบริภัณฑ์ไม่ให้เสียหายเน่ืองจากกระแสรั่วลงดิน โดยทาให้เครื่องปลดวงจรตัดตัวนาที่ไม่ถูกต่อลงดินในวงจรที่กระแส รั่วลงดิน การป้องกันน้ีต้องมีระดับกระแสน้อยกว่าค่าที่อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินของวงจรแหล่งจ่ายไฟจะทางาน1.51 ก้ัน (Guarded) หมายถึง ป้องกันด้วยท่ีหุ้ม กล่อง ตัวค่ัน ราว รั้ว ฉาก พื้นยก เพ่ือมิให้บุคคลหรอื วตั ถเุ ขา้ ใกลห้ รือสัมผสั กับจดุ ที่อาจเป็นอันตรายได้1.52 ระบบแรงสูง (High Voltage System) หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีมีแรงดันระหว่างเฟส(Phase to Phase) เกนิ 1,000 โวลต์ หรอื แรงดันเทยี บดินเกนิ 600 โวลต์1.53 ชอ่ งขน้ึ ลง (Hoistway) หมายถึง ปลอ่ งข้ึนลง ทางข้ึนลง หรือช่องหรือท่ีว่างในแนวด่ิงที่ออกแบบให้ใช้กับลิฟต์ หรอื ทส่ี ่งอาหาร1.54 อยู่ในสายตา (In Sight From, Within Sight From, Within Sight) เมื่อมาตรฐานน้ีกาหนดว่าบรภิ ัณฑ์หน่ึงอยู่ในสายตาจากบริภัณฑ์อื่น หมายถึง ระยะที่ต้องมองเห็นได้ระหว่างบริภัณฑ์ท่ีกาหนดกับบริภณั ฑ์อน่ื และตอ้ งมรี ะยะห่างไม่เกนิ 15 เมตร

บทที่ 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดทั่วไป 1-91.55 พิกัดตัดวงจร หรือพิกัดตัดกระแส (Interrupting Rating) หมายถึง กระแสสูงสุดใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นณ แรงดันที่กาหนด ที่อุปกรณ์ถูกประสงค์ให้ตัดวงจรที่ภาวะที่กาหนดในมาตรฐานการทดสอบบริภัณฑ์ที่ประสงค์จะให้ตัดกระแสที่ไม่ใช่กระแสลัดวงจร อาจมีพิกัดตัดวงจรเป็นอย่างอื่นเช่น พิกัดแรงม้า หรือพิกัดกระแสล็อกโรเตอร์พิกัดกระแสลัดวงจร (Short-Circuit Current Rating) หมายถงึ กระแสลัดวงจรแบบสมมาตรณ แรงดันไฟฟ้าระบุ ซึ่งเคร่ืองสาเร็จหรือระบบยังสามารถต่ออยู่ได้โดยไม่มีความเสียหายเกินกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้1.56 แยกออก (Isolated) หมายถงึ บุคคลเขา้ ถงึ ได้ยาก นอกจากจะใช้ เครอื่ งมอื พิเศษ1.57 จุดจ่ายไฟแสงสว่าง (Lighting Outlet) หมายถึง จุดจ่ายไฟท่ีต่อเข้าโดยตรงกับขั้วรับหลอด ดวงโคม หรอื ต่อกับปลายสายอ่อนที่อีกดา้ นหนึ่งต่อกบั ข้ัวรบั หลอดในดวงโคมแขวน1.58 สถานที่ (Location)โรงรถ (Garage) หมายถึง อาคารหรือส่วนของอาคาร ซ่ึงยานพาหนะต้ังแต่หนึ่งคันขึ้นไปสามารถจอดได้ เพือ่ วัตถปุ ระสงค์สาหรับ ใช้งาน ขาย เก็บ เช่า ซอ่ ม แสดง หรือสาธติห้องน้า (Bathroom) หมายถึง บริเวณ ที่ประกอบด้วย อ่างล้างหน้า กับเครื่องใช้ต่อไปนี้อย่างน้อยหน่ึงชนิด ได้แก่ โถส้วม โถปัสสาวะ อ่างอาบน้า ฝักบัว โถปัสสาวะหญิง หรือเคร่ืองติดต้ังอน่ื ๆ ทที่ างานคล้ายกนัสถานที่ชื้น (Damp Location) หมายถึง สถานท่ีใต้หลังคาซ่ึงมีการป้องกันเป็นบางส่วนระเบียงที่มีหลังคาและสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน และสถานที่ภายในอาคารที่มีความช้ืนปานกลาง เช่น หอ้ งใตด้ ินและหอ้ งเยน็ เกบ็ ของสถานที่แห้ง (Dry Location) หมายถึง สถานที่ซึ่งปกติไม่มีความช้ืน หรือเปียก สถานท่ีแห้งอาจมคี วามชื้นหรือเปียกไดช้ ่ัวคราว เช่น อาคารที่กาลงั กอ่ สรา้ งสถานที่เปยี ก (Wet Location) หมายถงึ สถานทีใ่ ตพ้ นื้ ดิน หรอื ในแผน่ คอนกรตี หรอื ใน อฐิ ท่ตี ้งัติดอยู่กับดินและสถานท่ีท่ีมีน้าหรือของเหลวอื่น เช่น บริเวณล้างพาหนะ และสถานที่เปิดโล่งที่ไมม่ ีทปี่ กคลุม1.59 ระบบแรงต่า (Low Voltage System) หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีมีแรงดันระหว่างเฟส(phase to phase) ไมเ่ กนิ 1,000 โวลต์ หรอื แรงดันเทียบดนิ ไมเ่ กนิ 600 โวลต์

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-10 บทที่ 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดทว่ั ไป1.60 ความตอ้ งการกาลงั ไฟฟา้ สูงสุด (Maximum Demand) หมายถึง ค่าสูงสุดของความต้องการกาลังไฟฟ้าซ่ึงเกิดข้ึนในช่วงเวลาท่ีกาหนดอาจมีหน่วยเป็นกโิ ลวตั ต์ กิโลวาร์ เควีเอ หรือหนว่ ยอืน่ ตามตอ้ งการ1.61 ชดุ จุดจา่ ยไฟสาเร็จรูป (Multioutlet Assembly) หมายถึง ช่องเดินสายบนพ้ืนผิวหรือฝังท่ีออกแบบให้จับยึดตัวนาและเต้ารับท้ังชนิดประกอบในสถานที่ติดต้ัง และชนิดท่ีประกอบสาเรจ็ จากโรงงาน1.62 ไม่อัตโนมัติ (Nonautomatic) หมายถงึ การควบคุมท่บี ุคคลต้องเข้าไปเก่ียวข้องเพ่ือให้ทางานได้ การทางานไม่อตั โนมัติ คอื การทางานโดยบุคคล1.63 วงจรไม่ติดไฟ (Nonincendive Circuit) หมายถึง วงจรท่ีอาร์ก หรือผลของความร้อนที่เกิดขน้ึ ระหว่างการใช้งานของบริภัณฑ์ หรือเนื่องจากการเปิดวงจร การลัดวงจร หรือการรั่วลงดินของสายไฟ ไม่ทาให้ก๊าซที่ติดไฟ ไอระเหย หรือของผสมฝุ่นอากาศลุกติดไฟภายใต้เงื่อนไขทดสอบท่กี าหนด1.64 จดุ จ่ายไฟ (Outlet) หมายถงึ จุดในระบบการเดนิ สายที่นากระแสมาใชก้ ับบรภิ ัณฑใ์ ชส้ อย1.65 กระแสเกิน (Overcurrent) หมายถึง กระแสที่เกนิ คา่ พิกัดกระแสของบริภัณฑ์หรือขนาดกระแสของตัวนา ซ่งึ อาจมผี ลมาจากโหลดเกนิ การลัดวงจร หรอื การมีกระแสร่วั ลงดนิในบางกรณีบริภัณฑ์หรือตัวนา อาจมีกระแสเกินค่าพิกัดกระแสหรือขนาดกระแสได้ ดังน้ันมาตรฐานสาหรับการป้องกนั กระแสเกนิ ต้องกาหนดตามสถานการณเ์ ฉพาะ1.66 โหลดเกิน (Overload) หมายถึง การใช้งานเกินพิกัดปกติของบริภัณฑ์หรือใช้กระแสเกินขนาดกระแสของตัวนา ซึง่ หากเปน็ อยู่ระยะเวลาหนึ่งจะทาใหเ้ กดิ ความเสยี หายและอนั ตรายเน่ืองจากความร้อนเกนิ ขนาด การลดั วงจรหรอื การมีกระแสรวั่ ลงดนิ ไม่ถือเปน็ โหลดเกิน1.67 แผงย่อย (Panelboard) หมายถึง แผงเดี่ยวหรือกลุ่มของแผงเดี่ยวที่ออกแบบให้ประกอบรวมกันเป็นแผงเดียวกัน ประกอบด้วย บัส อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินอัตโนมัติและมีหรือไม่มีสวิตช์สาหรับควบคุมแสงสว่าง ความร้อนหรือวงจรไฟฟ้ากาลัง แผงย่อยเป็นแผงท่ีออกแบบให้ติดตั้งไว้ในตู้หรือกล่องคัตเอาทต์ที่ติดบนผนังซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทางด้านหน้าเทา่ นัน้1.68 การเดินสายภายใน (Premises Wiring (System)) หมายถึง การเดินสายท้ังภายในและภายนอกอาคารซ่ึงประกอบด้วยสายวงจรไฟฟ้ากาลัง แสงสว่าง ควบคุมและสัญญาณรวมทั้งอปุ กรณแ์ ละเคร่ืองประกอบการเดินสาย ทั้งแบบเดินสายแบบติดต้ังถาวรและชั่วคราว ซึ่ง

บทท่ี 1 นิยามและข้อกาหนดทว่ั ไป 1-11เป็นส่วนท่ีต่อจากจุดจ่ายจากสายของการไฟฟ้าฯ (ส่วนหลังเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ)ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นหรือจุดจ่ายไฟของแหล่งกาเนิดจากระบบที่มีตัวจ่ายแยกต่างหาก การเดินสายน้ีไม่รวมถึงการเดินสายภายในเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ดวงโคม มอเตอร์ เคร่ืองควบคุม ศูนย์ควบคุมมอเตอร์ และบริภัณฑ์ท่ีคลา้ ยกัน1.69 บุคคลที่มีคุณสมบัติหรือบุคคลที่มีหน้าที่เก่ียวข้อง (Qualified Person) หมายถึงบคุ คลท่ีมคี วามร้เู กย่ี วกับโครงสร้าง และการใช้งานของบริภัณฑ์ รวมทัง้ อันตรายที่ อาจเกดิ ข้ึน1.70 ช่องเดินสาย (Raceway) หมายถึง ช่องปิดซ่ึงออกแบบเฉพาะสาหรับการเดินสายไฟฟ้าหรือตวั นาหรือทาหนา้ ท่อี น่ื ตามทมี่ าตรฐานนีอ้ นญุ าตช่องเดินสายอาจเป็นโลหะหรือวัสดุฉนวน รวมทั้งท่อโลหะหนา ท่ออโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง ท่อโลหะอ่อนกันของเหลว ท่อโลหะอ่อนบาง ท่อโลหะอ่อนหนา ท่ออโลหะอ่อน ท่อโลหะบาง ช่องเดินสายใต้พ้ืนชอ่ งเดินสายใตพ้ ้นื คอนกรตี โปรง่ ชอ่ งเดนิ สายใตพ้ น้ื โลหะโปร่ง ช่องเดินสายบนพื้น รางเดินสาย เคเบิลบัส และทางเดนิ บสั1.71 ทนฝน (Rainproof) หมายถึง การสร้าง การป้องกัน หรือกระทาเพื่อไม่ให้ฝนมีผลต่อการทางานของอปุ กรณภ์ ายใตส้ ภาวะการทดสอบที่กาหนด1.72 กันฝน (Raintight) หมายถึง การสร้างหรือการป้องกันไม่ให้น้าฝนเข้าไปได้ ภายใต้สภาวะการทดสอบท่ีกาหนด1.73 เตา้ รบั (Receptacle) หมายถงึ อุปกรณ์หน้าสัมผัสซ่ึงติดต้ังที่จุดจ่ายไฟ ใช้สาหรับการต่อกับเต้าเสียบ เต้ารับทางเดียวคืออุปกรณ์หน้าสัมผัสท่ีไม่มีอุปกรณ์หน้าสัมผัสอื่นอยู่ในโครงเดยี วกนั เต้ารับหลายทางคอื อปุ กรณ์หนา้ สัมผสั ตั้งแต่ 2 ชุดขน้ึ ไปท่อี ยใู่ นโครงเดียวกนั1.74 จดุ จ่ายไฟชนิดเต้ารับ (Receptacle Outlet) หมายถึง จุดจ่ายไฟที่ติดตั้งเต้ารับต้ังแต่1 ชุดขึ้นไป1.75 วงจรควบคุมจากระยะไกล (Remote-Control Circuit) หมายถึง วงจรที่ควบคุมวงจรอื่นๆ ดว้ ยรเี ลยห์ รอื อุปกรณอ์ นื่ ทีเ่ ทียบเทา่1.76 บริภัณฑ์ปิดผนึกได้ (Sealable Equipment) หมายถึง บริภัณฑ์ที่ถูกห่อหุ้มโดยโครง-สร้างหรือตู้ซ่ึงปิดผนึกหรือปิดกั้นจนไม่สามารถเข้าถึงส่วนที่มีไฟฟ้าได้ ถ้าไม่เปิดเคร่ืองห่อหุ้มบริภัณฑน์ อี้ าจใชง้ านโดยเปดิ หรอื ไมเ่ ปิดเครื่องห่อหุ้มกอ่ นก็ได้

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-12 บทท่ี 1 นยิ ามและข้อกาหนดทั่วไป1.77 ระบบที่มีตัวจ่ายแยกต่างหาก (Separately Derived System) หมายถึง ระบบการเดินสายภายในซึ่งจา่ ยไฟฟา้ โดยเครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟา้ หรือขดลวดคอน-เวอร์เตอร์และไม่มีการต่อถงึ กนั ทางไฟฟา้ โดยตรง รวมทัง้ ระบบสายดนิ กบั สายจา่ ยไฟฟ้าจากระบบอื่น1.78 ระบบประธาน (Service) หมายถึง บริภัณฑ์และตัวนาสาหรับจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ ไปยังระบบสายภายใน1.79 ตัวนาประธาน (Service Conductors) หรือสายเมน หมายถึง ตัวนาที่ต่อระหว่างเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าของการไฟฟา้ ฯ กับบรภิ ณั ฑ์ประธาน (ทง้ั ระบบแรงสูงและแรงต่า)ตัวนาประธานเข้าอาคารระบบสายอากาศ (Service-Entrance Conductors, OverheadSystem) หมายถึง ตัวนาประธานท่ีต่อระหว่างบริภัณฑ์ประธานกับเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ ท่ีเปน็ ระบบสายอากาศตัวนาประธานเข้าอาคารระบบสายใต้ดิน (Service-Entrance Conductor, UndergroundSystem) หมายถึง ตัวนาประธานท่ีต่อระหว่างบริภัณฑ์ประธานกับเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ ท่เี ป็นระบบสายใตด้ นิ1.80 สายจ่ายระบบประธานอากาศ (Service Drop) หมายถึง ตัวนาประธานที่เป็นสายอากาศจากเสาไฟฟ้าหรือจุดจับยึดถึงตัวนาประธานเข้าอาคารซ่ึงติดต้ังที่เสา ตัวอาคาร หรือโครงสรา้ ง1.81 บริภัณฑ์ประธาน (Service Equipment) หรือเมนสวิตช์ หมายถึง บริภัณฑ์จาเป็นโดยปกติประกอบด้วยเซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือสวิตช์และฟิวส์ และเครื่องประกอบต่างๆ ต้ังอยู่ใกล้กับจุดทางเข้าของตัวนาประธานเข้าอาคาร โดยมีจุดประสงค์เพ่ือควบคุมและตัดวงจรท้งั หมดของระบบจ่ายไฟ1.82 ตู้แสดงหน้าร้าน (Show Window) หมายถึง ตู้กระจกหน้าร้าน ซ่ึงออกแบบสาหรับใช้แสดงสินคา้ หรือสิง่ โฆษณา ดา้ นหลังของตจู้ ะปดิ ทงั้ หมด ปิดบางส่วน หรอื เปิดทงั้ หมดกไ็ ด้1.83 วงจรสัญญาณ (Signaling Circuit) หมายถงึ วงจรไฟฟา้ ที่ทาให้บริภัณฑ์สญั ญาณทางาน1.84 แผงสวิตช์ (Switchboard) หมายถึง แผงเดี่ยวขนาดใหญ่หรือหลายแผงประกอบเข้าด้วยกัน เพ่ือใช้ติดต้ังสวิตช์ อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน อุปกรณ์ป้องกันอ่ืนๆ บัส และเคร่ืองวัดต่างๆ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง หรือทั้งสองด้าน โดยทั่วไปแผงสวิตช์เข้าถึงได้ท้ังทางด้านหน้าและด้านหลงั และไมม่ ีจดุ ประสงค์ให้ตดิ ตั้งในตู้ (ดคู าว่า “แผงยอ่ ย”)

บทท่ี 1 นิยามและขอ้ กาหนดทวั่ ไป 1-13ชุดประกอบสาเร็จควบคุมไฟฟ้าแรงดันต่า (Low-voltage switchgear and controlgearใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นassembly) หมายถึง การรวมกันของอุปกรณ์ปิดเปิดตั้งแต่ 1 อุปกรณ์ขึ้นไป รวมกับบริภัณฑ์การควบคุม บริภัณฑ์การวัด บริภัณฑ์สัญญาณ บริภัณฑ์ป้องกัน บริภัณฑ์คุมค่า และบริภัณฑ์อน่ื ๆ โดยผู้ผลิตทาหนา้ ทีป่ ระกอบสว่ นประกอบต่าง ๆ ดงั กล่าวอยา่ งสมบรู ณ์กบั ส่วนไฟฟ้าท่ีอยู่ภายใน ส่วนประกอบทางกล และส่วนโครงสร้าง1.85 สวิตช์ (Switch)สวิตช์ลัดผ่านแยกวงจร (Bypass Isolation Switch) หมายถึง สวิตช์ทางานด้วยมือสาหรับใชร้ ่วมกับสวิตช์ถ่ายโอน เพื่อเช่ือมต่อตัวนาสาหรับโหลดเข้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้าโดยตรงและตัดการใช้งานของสวติ ช์ถา่ ยโอนออกสวิตช์ใช้งานทั่วไป (General-Use Switch) หมายถึง สวิตช์ที่มีจุดประสงค์ให้ใช้ใน วงจรจาหน่ายและวงจรย่อยทั่วไป กาหนดขนาดเป็นแอมแปร์ และสามารถตัดวงจรตามพิกัดกระแสและแรงดันสวิตชธ์ รรมดาใช้งานท่ัวไป (General-Use Snap Switch) หมายถึง รูปแบบหน่ึงของสวิตช์ใช้งานท่ัวไปท่ีสร้างให้สามารถติดตั้งเสมอพ้ืนผิวในกล่องอุปกรณ์ หรือบนฝากล่องจุดจ่ายไฟหรือการใช้อ่นื ๆทเ่ี กี่ยวข้องกบั ระบบเดินสาย ซงึ่ เปน็ ที่ยอมรบั ในมาตรฐานนี้สวิตช์แยกวงจร (Isolating Switch) หมายถึง สวิตช์ท่ีใช้สาหรับแยกวงจรไฟฟ้าออกจากแหล่งจ่ายไฟฟา้ โดยไม่มพี กิ ดั ตัดวงจรและใชง้ านภายหลังจากปลดวงจรดว้ ยวิธีอนื่ แลว้สวิตช์วงจรมอเตอร์ (Motor-Circuit Switch) หมายถึง สวิตช์ที่มีพิกัดกาหนดขนาดเป็นแรงม้า สามารถตัดวงจรท่ีมีกระแสโหลดเกินสูงสุดของมอเตอร์ที่มีพิกัดแรงม้าเข้ากับสวิตช์ ท่ีแรงดนั พิกดัศูนย์การควบคุมมอเตอร์ (Motor Control Center) หมายถึง ชุดประกอบท่ีประกอบด้วยกลอ่ งหุม้ ตั้งแต่ 1 สว่ นขึ้นไป โดยมีบัสกาลงั ไฟฟา้ ร่วมกัน และภายในมีหนว่ ยควบคมุ มอเตอรเ์ ป็นสาคัญสวิตช์ถ่ายโอน (Transfer Switch) หมายถึง สวิตช์สาหรับถ่ายโอน ตัวนาท่ีต่อกับแหล่งจ่ายไฟฟ้าหน่งึ ไปยงั แหลง่ จ่ายไฟฟ้าอื่น เพอ่ื จ่ายโหลดใหก้ บั ตัวนาที่ต่ออยู่นนั้สวติ ช์ถ่ายโอนอาจเปน็ แบบอตั โนมตั ิหรอื ไมก่ ไ็ ด้

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-14 บทที่ 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดทวั่ ไป1.86 มีการป้องกันความร้อนเกิน (Thermally Protected) เมื่อใช้กับมอเตอร์ หมายถึงเม่ือปรากฏคาว่า “มกี ารป้องกนั ความรอ้ นเกิน” บนแผ่นป้ายประจาเคร่ือง แสดงว่ามอเตอร์นั้นมีเครือ่ งป้องกันความร้อนเกิน1.87 เครื่องป้องกันความร้อนเกิน (Thermal Protector) เมื่อใช้กับมอเตอร์ หมายถึงอปุ กรณ์ป้องกนั ท่ีประกอบเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมอเตอร์ หรือมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ และเม่ือใช้งานอย่างถกู ต้องแลว้ จะป้องกนั มอเตอรไ์ หม้เพราะการเกิดความรอ้ นเกินเน่ืองจากโหลดเกินและความลม้ เหลวในการเร่มิ เดนิ เคร่อื งหมายเหตุ เคร่อื งป้องกันความรอ้ นเกินอาจประกอบด้วยอุปกรณ์ตรวจจับมากกว่า 1 ตัว ประกอบเข้าเป็นส่วนหนง่ึ ของมอเตอร์ และอปุ กรณค์ วบคมุ ภายนอก1.88 บรภิ ณั ฑใ์ ช้สอย (Utilization Equipment) หมายถึง บริภัณฑ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าสาหรับงานอเิ ล็กทรอนิกส์ ทางกล เคมี ความร้อน แสงสวา่ ง หรือจดุ ประสงคท์ ค่ี ลา้ ยกัน1.89 ระบายอากาศ (Ventilated) หมายถงึ การจดั ให้มีการหมุนเวียนของอากาศอย่างเพียงพอเพ่อื ถ่ายเทความร้อน ควนั หรือไอ ทีม่ มี ากเกนิ ออกไป1.90 ของเหลวระเหยติดไฟ (Volatile Flammable Liquid) หมายถึง ของเหลวติดไฟท่ีมีจุดวาบไฟต่ากว่า 38 องศาเซลเซียส หรือของเหลวติดไฟที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจุดวาบไฟของตัวเองหรือของเหลวท่ีไหม้ไฟได้ ประเภทที่ 2 ที่มีความดันไอไม่เกิน 276 กิโลพาสคัล (40 ปอนด์ ต่อตารางน้ิวสัมบูรณ์) ท่ี 38 องศาเซลเซียส ซ่งึ มอี ณุ หภมู สิ งู กวา่ จุดวาบไฟของตัวเอง1.91 แรงดนั (Voltage) ของวงจร หมายถึง ค่ารากเฉลี่ยกาลังสองของความต่างศักย์สูงสุดระหว่างตัวนา 2 สาย ในวงจรทเ่ี กีย่ วข้องกัน1.92 แรงดนั ที่ระบุ (Voltage, Nominal) หมายถงึค่าตัวเลขแรงดันไฟฟ้า ท่ีใช้เรียกระบบแรงดันไฟฟ้า ในวงจรหรือระบบไฟฟ้าหน่ึง ๆ เพื่อบอกระดับของแรงดนั ไฟฟา้ น้นั ๆ แรงดนั ไฟฟ้าระบุน้ี จะใชค้ ่าเดยี วกันตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนไหนของระบบ หรือ ของวงจรไฟฟ้านนั้ ๆ เพอ่ื ใชร้ ะบรุ ะบบแรงดันไฟฟ้าและใชอ้ า้ งอิงในการออกแบบและคานวณค่าต่างๆ ทางไฟฟา้ ค่าของแรงดันไฟฟ้าระบุ อาจมีค่าแตกต่างกัน ตามมาตรฐานท่ีใช้อ้างอิงของแต่ละประเทศ หรอื ทมี่ กี ารเรยี กใชก้ นั มาตัง้ แต่อดีต มาตรฐาน IEC จึงได้จัดแบ่งกลุ่ม เพ่ือให้สะดวกในการเรียกแรงดันไฟฟ้าระบุท่ีมีค่าใกล้เคียงกัน ให้มีค่าแรงดันไฟฟ้าระบุเพียงค่าเดียว เช่น

บทท่ี 1 นิยามและขอ้ กาหนดทั่วไป 1-15แรงดันไฟฟ้าระบุ 220/380 โวลต์ และ 240/415 โวลต์ ให้เหลือเพียงค่าเดียวคือ 230/400 โวลต์ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นเป็นต้น สาหรับประเทศไทย ระบบไฟฟา้ แรงต่า ชนิด 3 เฟส 4 สาย เปน็ 230/400 โวลต์แรงดันไฟฟ้าพิกัด (voltage,rated) หมายถึง แรงดันไฟฟ้าของอุปกรณ์ หรือ ข องเครอื่ งใช้ไฟฟ้า ที่ผู้ผลิตฯ กาหนดขึ้น เพ่ือให้การทางานของอุปกรณ์ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นไปตามคุณลักษณะทกี่ าหนดแรงดันบริการ (Service voltage) หมายถึงแรงดันไฟฟ้าท่ีการไฟฟ้าฯ จ่ายหรือให้บริการกับผู้ใช้ไฟฟ้า ณ ตาแหน่งที่สายไฟส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้าบรรจบกับสายไฟส่วนของการไฟฟ้าฯโดยทวั่ ไปมักเป็นแรงดันไฟฟ้าซงึ่ วดั ที่จุดต่อหรอื หนา้ เครอื่ งวดั หน่วยไฟฟา้ )แรงดันใช้ประโยชน์ (Utilization voltage) หมายถึง แรงดันไฟฟ้าที่ตาแหน่งของเต้ารับไฟฟ้าหรอื ตาแหนง่ ทีเ่ ครือ่ งใช้ไฟฟ้า หรือ ทบ่ี ริภณั ฑ์ไฟฟา้ ตอ่ อยู่แรงดันต่าพิเศษ (Extra low voltage, ELV) หมายถึง แรงดันไฟฟ้ากระแสสลับท่ีมีค่าไม่เกิน50 โวลต์ หรือ แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง (ทไ่ี มม่ รี ิ้วคล่นื ) ทีม่ คี า่ ไม่เกิน 120 โวลต์1.93 แรงดันเทียบกับดิน (Voltage to Ground) สาหรับวงจรท่ีมีการต่อลงดิน หมายถึงแรงดันระหว่างตัวนาท่ีกาหนด กับจุดหรือตัวนาของวงจรท่ีต่อลงดิน สาหรับวงจรที่ไม่ต่อลงดินหมายถึง แรงดันสงู สดุ ระหว่างตัวนาทกี่ าหนดกับตวั นาอนื่ ในวงจร1.94 กันนา้ (Watertight) หมายถงึ การสร้างหรือการป้องกันท่ีไม่ให้ความชื้นเข้าไปในเครื่องห่อห้มุ ได้ ภายใต้สภาวะการทดสอบทก่ี าหนด1.95 ทนสภาพอากาศ (Weatherproof) หมายถึง การสร้างหรือการป้องกันซึ่งเมื่ออยู่ในสภาวะเปิดโลง่ ต่อสภาพอากาศแลว้ จะไม่มผี ลต่อการทางานของส่งิ น้นั1.96 รางเดินสาย (Wireway) หมายถึง ช่องเดินสาย (raceway) ชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นรางทาจากแผ่นโลหะหรอื อโลหะชนิดตา้ นเปลวเพลิงพับมฝี าปิด ตดิ บานพับหรือถอดออกได้ เพื่อใช้สาหรับเดินสายไฟฟ้า อาจมีช่องระบายอากาศกไ็ ด้ การติดต้งั ตอ้ งใชว้ ธิ แี ขวนหรอื มที ร่ี องรับ1.97 อาคารอาคารสงู หมายถึง อาคารท่บี คุ คลอาจเขา้ อยูห่ รอื เขา้ ใช้สอยได้ โดยมีความสูงตั้งแต่ 23 เมตรข้ึนไป การวัดความสูงของอาคารให้วัดจากระดับพ้ืนดินที่ก่อสร้างถึงพ้ืนดาด-ฟ้า สาหรับอาคารทรงจว่ั หรือปน้ั หยาใหว้ ัดจากระดับพน้ื ดนิ ทก่ี ่อสรา้ งถึงยอดผนังของชนั้ สูงสดุ

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-16 บทที่ 1 นิยามและขอ้ กาหนดทั่วไปอาคารขนาดใหญ่ หมายถึง อาคารที่สร้างข้ึนเพื่อใช้อาคารหรือส่วนใดส่วนหน่ึงของอาคารเป็นท่ีประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภท โดยมีความสูงจากระดับถนนต้ังแต่ 15เมตรข้ึนไป และมีพ้ืนท่ีรวมกันทุกช้ันในหลังเดียวกันเกิน 1,000 ตารางเมตร หรือมีพื้นที่รวมกันทุกช้นั หรือชัน้ หนงึ่ ชนั้ ใดในหลงั เดียวกันเกนิ 2,000 ตารางเมตรอาคารขนาดใหญ่พิเศษ หมายถึง อาคารที่สร้างข้ึนเพ่ือใช้อาคารหรือส่วนใดส่วนหน่ึงของอาคารเปน็ ที่อย่อู าศยั หรอื ประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภท โดยมีพื้น-ท่ีรวมกันทุกช้ันหรอื ชนั้ หนงึ่ ชนั้ ใดในหลังเดยี วกันต้งั แต่ 10,000 ตารางเมตรขน้ึ ไประบบไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ (Solar Photovoltaic System) หมายถึง ส่วนประกอบทั้งหมดรวมกับระบบยอ่ ย ทาหน้าที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าที่เหมาะสมกับโหลดท่ีจะใชง้ านแหล่งจ่ายกาลังไม่หยุดชะงัก (Uninterruptible Power Supply) หมายถึง แหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้าที่ใช้เพื่อจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสสลับให้แก่โหลดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เม่ือเกิดเหตกุ ารณ์ไฟฟา้ ขัดขอ้ งตอน ข. นิยามทใี่ ชส้ าหรบั การติดต้ังระบบไฟฟา้ แรงดนั ที่ระบเุ กิน 1,000 โวลต์ ขึน้ ไป1.98 ฟิวส์ (Fuse) หมายถึง อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินซึ่งมีส่วนที่เปิดวงจรหลอมละลายด้วยความร้อนทเี่ กดิ จากมกี ระแสไหลผา่ นเกินกาหนดหมายเหตุ ฟิวส์ประกอบด้วยทุกส่วนที่รวมกันเพื่อทาหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น อาจเป็นหรือไม่เป็นอุปกรณ์ท่ีสมบรู ณส์ าหรบั ตอ่ เขา้ กับวงจรไฟฟา้ตัวฟิวส์แบบขับก๊าซ (Expulsion Fuse Unit or Expulsion Fuse) หมายถึง ตัวฟิวส์ ที่มีการพุ่งระบายของก๊าซ ซ่ึงเกิดจากอาร์กและสายของตัวยึดฟิวส์ ซ่ึงอาจเกิดขึ้นเองหรือใช้สปริงช่วยเป็นตวั ดับอารก์ตัวฟิวส์กาลัง (Power Fuse Unit) หมายถึง ตัวฟิวส์ที่อาจมีหรือไม่มีการพุ่งระบาย หรือการควบคุมการพุ่งระบายของก๊าซ การดับอาร์กทาได้โดยให้อาร์กผ่านวัสดุแข็ง วัสดุเป็นเมล็ด หรือของเหลว ซ่งึ อาจเกดิ ข้นึ เองหรือใช้สปริงช่วย

บทที่ 1 นิยามและข้อกาหนดท่ัวไป 1-17ฟิวส์กาลังแบบพุ่งระบาย (Vented Power Fuse) หมายถึง ฟิวส์ท่ีออกแบบให้มีการพุ่งใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นระบายก๊าซ ของเหลว หรืออนุภาคแขง็ ออกสู่บรรยากาศโดยรอบ เมื่อฟวิ สต์ ดั วงจรฟวิ ส์กาลังแบบไม่พุ่งระบาย (Nonvented Power Fuse) หมายถึง ฟิวส์ที่ไม่ได้ออก แบบให้มกี ารพุง่ ระบายของก๊าซ ของเหลว หรืออนุภาคแขง็ ออกสู่บรรยากาศโดยรอบเมอื่ ฟิวส์ตัดวงจรฟิวสก์ าลงั แบบควบคมุ การพ่งุ ระบาย (Controlled Vented Power Fuse) หมายถงึ ฟวิ ส์ซ่ึงเมือ่ ตัดวงจรจะมีการควบคมุ ไม่ใหม้ อี นภุ าคแขง็ พงุ่ ออกสู่บรรยากาศโดยรอบหมายเหตุ ฟิวส์ถกู ออกแบบเพ่อื ใหก้ ๊าซท่ีเกิดข้ึนไม่ทาให้ฉนวนในส่วนท่ีอยู่รอบตัวนาหลอมละลายลุกไหม้หรือเสียหาย ทั้งนี้ระยะห่างระหว่างช่องระบายก๊าซและฉนวนหรือส่วนที่เป็นตัวนาต้องเป็นไปตามคา แนะนาของบรษิ ทั ผผู้ ลิตฟวิ ส์ควบ (Multiple Fuse) หมายถึง ชุดประกอบสาเร็จที่มฟี ิวสเ์ ดยี่ วตั้งแต่ 2 อันขึน้ ไป1.99 อุปกรณ์สวิตช์ (Switching Device) หมายถึง อุปกรณ์ท่ีออกแบบเพ่ือสับ-ปลดวงจรซึ่งอาจจะเปน็ วงจรเดีย่ วหรือหลายวงจรกไ็ ด้ ได้แก่เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) หมายถึง อุปกรณ์สวิตช์ซึ่งมีคุณสมบัติในสภาวะปกติสามารถนากระแสและสับ-ปลดวงจร ตามพิกัดได้โดยปลอดภัย และในสภาวะวงจรผิดปกติ เช่น เกิดการลัดวงจรต้องสามารถทนกระแสและตัดกระแสลัด วงจรได้ตามทก่ี าหนดคัตเอาต์ (Cutout) หมายถึง ชุดประกอบสาเร็จของท่ีรองรับฟิวส์ ซ่ึงอาจมีตัวยึดฟิวส์ ตัวรับฟิวส์ หรือใบมีดปลดวงจรอย่างใดอย่างหน่ึง ตัวยึดฟิวส์หรือตัวรับฟิวส์ อาจมีส่วน ประกอบนากระแส (ไส้ฟิวส์) รวมอยู่ด้วย หรืออาจทาหน้าท่ีเป็นใบมีดปลดวงจรโดยร่วม กับส่วนท่ีไม่หลอมละลายสวิตช์ปลดวงจร (Disconnecting Switch, Isolating Switch, Disconnector or Isolator)หมายถึง อุปกรณ์สวิตช์ทางกลซึ่งออกแบบให้ใช้สาหรับปลดวงจรหรือบริภัณฑ์ออกจากแหล่งจา่ ยไฟเคร่ืองปลดวงจร (Disconnecting Means) หมายถึง อุปกรณ์ กลุ่มของอุปกรณ์ หรือวิธีอื่นๆทีส่ ามารถปลดตัวนาออกจากแหล่งจ่ายไฟสวิตช์ตัดวงจร (Interrupter Switch) หมายถึง อุปกรณ์สวิตช์ซ่ึงออกแบบให้สามารถนากระแสและสับ-ปลดวงจรได้ตามคา่ กระแสที่กาหนด

ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น1-18 บทที่ 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดทว่ั ไปคัตเอาต์น้ามัน (Oil Cutout or Oil-Filled Cutout) หมายถึง คัตเอาต์ซ่ึงมีที่รองรับ ฟิวส์ ไส้ฟิวส์ หรือใบมีดปลดวงจร ท้ังหมดหรือบางส่วนติดต้ังในน้ามัน โดยหน้าสัมผัสและส่วนหลอมละลายของฟวิ ส์ จะจมอยูใ่ นนา้ มนั ทง้ั หมด เพื่อให้การดบั อาร์ก ซึง่ เกดิ จากการหลอมละลายของไสฟ้ ิวส์ หรือการเปิดหนา้ สัมผสั จะเกิดอยู่ในน้ามันสวิตช์น้ามัน (Oil Switch) หมายถึง สวิตช์ที่มีหน้าสัมผัสทางานในน้ามัน (หรือแอสคาเรล หรือของเหลวทเ่ี หมาะสมอ่นื )สวิตช์ลัดผ่านเรกูเลเตอร์ (Regulator Bypass Switch) หมายถึง อุปกรณ์เฉพาะ หรือกลุ่มของอปุ กรณท์ อี่ อกแบบให้ลดั ผา่ นเรกูเลเตอร์กับดักเสิร์จ (Surge Arrester or lightning arrester) หมายถึง อุปกรณ์ป้องกันสาหรับจากัดแรงดันเสิร์จโดยการดีสชาร์จ หรือสาหรับเบี่ยงกระแสเสิร์จ เพ่ือป้องกันเคร่ืองสาเร็จทางไฟฟ้าจากแรงดนั ช่ัวครู่ตอน ค. ข้อกาหนดทว่ั ไปสาหรับการตดิ ต้ังทางไฟฟ้า1.101 การต่อทางไฟฟ้า (Electrical Connection)การต่อสายตัวนา ต้องใช้อุปกรณ์ต่อสายและวิธีการต่อสายท่ีเหมาะสม โดยเฉพาะการต่อตัวนาท่ีเปน็ โลหะต่างชนิดกนั ตอ้ งใช้อุปกรณ์ต่อสายท่ีสามารถใชต้ อ่ ตัวนาตา่ งชนิดกนั ได้1.101.1 ขั้วต่อสาย (Terminals)การต่อตวั นาเข้ากบั ขว้ั ต่อสาย ต้องเป็นการต่อที่ดีและไม่ทาให้ตัวนาเสียหาย ขั้วต่อสายต้องเป็นแบบบีบ หรือแบบขันแน่นด้วยหมุดเกลียวหรือแป้นเกลียว ในกรณีที่สายขนาดไม่ใหญ่กว่า 6ตร.มม. อนุญาตให้ใช้สายพันรอบหมดุ เกลยี ว หรอื เดอื ย เกลยี ว (stud) ได้ แล้วขนั ให้แนน่1.101.2 การต่อสาย (Splices)ตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์สาหรบั การตอ่ สายทเี่ หมาะสมกับงาน หรือโดยการเช่ือมประสาน (brazing) การเช่ือม (welding) หรือการบัดกรี (soldering) ท่ีเหมาะสมกับสภาพการใช้งาน หากใช้วิธีการบัดกรตี ้องตอ่ ให้แนน่ ทัง้ ทางกลและทางไฟฟ้าเสียก่อนแล้วจึงบัดกรีทับรอยต่อ ปลายสายท่ีตัดทิ้งไว้ต้องมีการหุ้มฉนวนด้วยเทปหรืออุปกรณ์ท่ีทนแรงดันไฟฟ้าได้เทียบเท่ากับฉนวนของสาย และเหมาะสมกบั การใชง้ าน

บทที่ 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดทว่ั ไป 1-19หมายเหตุ อนุโลมให้ใช้วิธีต่อสายโดยตรงด้วยการพันเกลียวสาหรับสายแกนเดียวท่ีมีขนาดไม่ใหญ่กว่าใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น 2.5 ตร.มม.1.102 ท่ีวา่ งเพอื่ ปฏิบตั งิ านสาหรับบรภิ ณั ฑ์ไฟฟ้าต้องจัดให้มีที่ว่างและทางเข้าอย่างเพียงพอ เพ่ือปฏิบัติงานและบารุงรักษาบริภัณฑ์ไฟฟ้าได้โดยสะดวกและปลอดภยั ทง้ั นีท้ ่วี ่างดังกลา่ วห้ามใช้สาหรบั เกบ็ ของตอน ก. สาหรับระบบแรงตา่1.102.1 ทว่ี ่างเพื่อปฏบิ ัตงิ านที่ว่างเพื่อปฏิบัติงานสาหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้า ท่ีมีโอกาสตรวจสอบ ปรับแต่งหรือบารุงรักษาขณะมีไฟ ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 0.75 เมตรและไม่น้อยกว่าขนาดความกว้างของบริภัณฑ์ไฟฟ้าและความลึกต้องเป็นไปตามท่ีกาหนดในตารางที่ 1-1 และท่ีว่างเพื่อปฏิบัติงานต้องพอเพียงสาหรับการเปดิ ประตูตู้หรือฝาตู้ไดอ้ ยา่ งน้อย 90 องศาในทกุ กรณีคอนกรีต อิฐ ผนงั กระเบ้ือง ใหถ้ อื ว่าเป็นสว่ นทต่ี ่อลงดิน1.102.2 การวัดความลกึความลกึ ให้วัดจากส่วนทม่ี ไี ฟฟ้าและเปิดโลง่ อยู่ หรือวัดจากด้านหน้าของเคร่ืองห่อหุ้ม ถ้าส่วนที่มไี ฟฟ้ามกี ารห่อหุม้1.102.3 ทางเข้าที่ว่างเพอื่ ปฏิบตั ิงาน1.102.3.1 ต้องมีทางเข้าขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร และสูงไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร ที่จะเข้าไปถงึ ที่วา่ งเพ่ือปฏิบัติงานกบั บรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ ได้อย่างนอ้ ยหนง่ึ ทาง1.102.3.2 สาหรับแผงสวิตช์และแผงควบคุม ท่ีมีพิกัดกระแสตั้งแต่ 1,200 แอมแปรข์ ้นึ ไป และกว้างเกิน 1.80 เมตร ต้องมีทางเข้าท้ังสองข้างของแผงท่ีมีความกว้างไม่น้อยกว่า 0.60 เมตรและความสูงไมน่ อ้ ยกวา่ 2.00 เมตรข้อยกเว้นที่ 1 ถา้ ด้านหนา้ ของแผงสวติ ช์หรือแผงยอ่ ยเปน็ ทวี่ ่าง สามารถออกไปยังทางเข้าได้โดยตรงและไม่ มสี ่งิ กีดขวาง อนญุ าตให้มที างเขา้ ที่วา่ งเพ่อื ปฏบิ ตั ิงานทางเดียวได้ขอ้ ยกเวน้ ที่ 2 ในกรณีที่วา่ งเพอื่ ปฏบิ ตั งิ านมคี วามลึกเป็น 2 เทา่ ทก่ี าหนดในข้อ 1.102.1 มีทางเข้าที่ว่างเพื่อ ปฏบิ ัติงานทางเดียวได้ ทางเข้าต้องอยู่ห่างจากแผงสวิตช์หรือแผงย่อยไม่น้อยกว่าท่ีกาหนด ในตารางที่ 1-1 ดว้ ย

1-20 บทท่ี 1 นิยามและข้อกาหนดทั่วไป ตารางท่ี 1-1ความลึก (Depth) ต่าสุดของที่ว่างเพือ่ ปฏบิ ัติงานกับบรภิ ัณฑ์ไฟฟ้า ระบบแรงต่า แรงดนั ไฟฟา้ กรณที ่ี 1 ความลกึ ตา่ สุด (เมตร) กรณที ่ี 3วดั เทียบกบั ดนิ (โวลต์) 0.90 กรณีที่ 2 0.90 0.90 0.90 1.20 0-150 1.10 151-600ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้น กรณที ่ี 1 มีสว่ นที่มีไฟฟ้าและเปดิ โลง่ อยทู่ างด้านหนงึ่ ของท่ีวา่ งเพ่ือปฏิบตั งิ าน และอีกดา้ นหนงึ่ ของทีว่ ่างเพอ่ื ปฏบิ ัติงานไมม่ ีท้งั สว่ นท่ีมีไฟฟ้าและเปดิ โล่งและสว่ นทีต่ ่อลงดนิ หรือมีส่วนที่มีไฟฟ้าและเปิดโล่งอยู่ท้ังสองด้านของที่ว่างเพ่ือปฏิบัติงาน แต่ได้มีการ ก้นั ดว้ ยวัสดุทเ่ี หมาะสมเชน่ ไม้ หรอื วัสดฉุ นวนอนื่ สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนหรือบัสบาร์หุ้มฉนวนที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 300 โวลต์ ให้ถือว่า เปน็ สว่ นที่ไมม่ ไี ฟฟ้า กรณที ี่ 2 มีสว่ นท่มี ีไฟฟ้าและเปิดโลง่ อยู่ทางด้านหนึง่ ของที่ว่างเพื่อปฏิบัติงาน และอีกด้านหนึ่ง ของทว่ี ่างเพ่ือปฏบิ ัตงิ านเปน็ ส่วนทต่ี อ่ ลงดิน กรณที ี่ 3 มีสว่ นทมี่ ีไฟฟ้าและเปิดโล่งอยู่ท้ังสองด้านของที่ว่างเพ่ือปฏิบัติงาน (ไม่มีการก้ันตาม กรณที ี่ 1) โดยผ้ปู ฏบิ ตั ิงานจะอยรู่ ะหว่างน้ัน ข้อยกเวน้ ที่ 1 บรภิ ณั ฑ์ท่ีเข้าถึงเพื่อปฏิบัตงิ านได้จากด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านหลัง ไม่ต้องมีท่ีว่างเพื่อ ปฏบิ ตั งิ านดา้ นหลงั ของบรภิ ณั ฑก์ ไ็ ด้ ขอ้ ยกเวน้ ที่ 2 ส่วนที่มีไฟฟ้าและเปิดโล่ง มีแรงดันไม่เกิน 30 VAC. หรือ 60 VDC. และ สามารถเข้าถึงได้ ที่ว่างเพ่ือปฏิบัติงานอาจเล็กกว่าท่ีกาหนดได้ แต่ต้องได้รับ ความเหน็ ชอบจากการไฟฟ้าฯ กอ่ น ขอ้ ยกเว้นที่ 3 บริภัณฑท์ ี่เขา้ ถงึ เพื่อปฏิบัติงานจากด้านอ่ืนท่ีไม่ใช่ด้านหลัง ไม่ต้องมีที่ว่างเพ่ือ ปฏิบตั งิ านดา้ นหลงั ของบริภณั ฑ์กไ็ ด้ ในท่ีซ่ึงต้องเข้าถึงด้านหลังเพ่ือทางานใน ส่วนท่ีได้ปลดวงจรไฟฟา้ ออกแล้ว ต้องมที ีวา่ งเพอื่ ปฏบิ ัติงานในแนวนอนไม่น้อย- กวา่ 0.75 เมตร ตลอดแนวของบรภิ ณั ฑ์1.102.4 แสงสวา่ งเมนสวติ ช์ แผงสวิตชแ์ ละแผงย่อย หรือเครื่องควบคุมมอเตอร์ เม่ือติดต้ังอยู่ในอาคาร ต้องมีแสงสว่างบริเวณที่ว่างเพื่อปฏิบัติงานอย่างเพียงพอที่จะปฏิบัติงานได้ทันที โดยที่ความส่องสว่างเฉลย่ี ไมน่ ้อยกว่า 200 ลักซ์ ยกเวน้ เมนสวิตช์หรอื แผงย่อย (เด่ียวหรือกลุ่ม) ในสถานที่อยู่อาศัยมีขนาดรวมกันไมเ่ กนิ 100 แอมแปร์

บทท่ี 1 นยิ ามและขอ้ กาหนดท่วั ไป 1-211.102.5 ท่วี ่างเหนือพื้นที่เพอ่ื ปฏิบัตงิ าน (Headroom)ใ ้ชเ ่พือการศึกษาเ ่ทา ัน้นบรเิ วณท่วี ่างเพ่อื ปฏบิ ัติงานสาหรับเมนสวิตช์ แผงสวิตชแ์ ละแผงยอ่ ย หรือเครื่องควบคุมมอเตอร์ต้องมีความสงู ไมน่ อ้ ยกว่า 2.00 เมตร และสว่ นบนของแผงสวติ ช์ต้องอยู่ห่างจากเพดานติดไฟได้ไม่น้อยกว่า 0.90 เมตร หากเป็นเพดานไม่ติดไฟ หรือมีแผ่นก้ันท่ีไม่ติดไฟระหว่างแผงสวิตช์กับเพดาน ระยะหา่ งระหว่างส่วนบนของแผงสวติ ช์และเพดานตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 0.60 เมตร ยกเว้น เมนสวิตช์หรือแผงยอ่ ย ในสถานท่อี ยอู่ าศัยมขี นาดรวมกันไม่เกิน 200 แอมแปร์ตอน ข. สาหรบั ระบบแรงสูง1.102.6 ท่ีวา่ งเพอ่ื ปฏิบัตงิ านต้องมีท่ีว่างเพ่ือปฏิบัติงานอย่างเพียงพอที่จะปฏิบัติงานได้สะดวกและปลอดภัยในการบารุงรักษาบรภิ ัณฑ์ ในท่ซี งึ่ มสี ่วนทีม่ ีไฟฟ้าและเปิดโลง่ อยู่ที่ว่างเพื่อปฏิบัติงานต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร กว้างไม่น้อยกว่า 0.90 เมตร และความลึกต้องเป็นไปตามท่ีกาหนดในตารางที่ 1-2 และที่ว่างเพื่อปฏิบัติงานต้องพอเพียงสาหรับการเปิดประตตู หู้ รอื ฝาตไู้ ด้อยา่ งน้อย 90 องศา ในทกุ กรณีคอนกรีต อิฐ ผนงั กระเบอื้ ง ให้ถอื ว่าเป็นสว่ นที่ต่อลงดนิ1.102.7 การวัดความลึกความลึกให้วดั จากส่วนทีม่ ไี ฟฟ้าและเปดิ โลง่ อยู่ หรอื วดั จากด้านหน้าของเคร่อื งห่อห้มุ1.102.8 ทางเข้าถงึ ทว่ี า่ งเพ่ือปฏบิ ตั งิ านทางเข้าถงึ ทวี่ ่างเพื่อปฏิบตั งิ าน ต้องมีอย่างนอ้ ย 1 ทาง ท่ีมคี วามกวา้ งไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร และความสงู ไมน่ อ้ ยกว่า 2.00 เมตร1.102.8.1 เมื่อมีตัวนาเปลือยไม่ว่าระดับแรงดันใด หรือตัวนาหุ้มฉนวนที่มีแรงดันมากกว่า1,000 โวลต์ อยใู่ กล้เคยี งกับทางเขา้ ต้องมีการก้นั ตามขอ้ 1.1031.102.8.2 ต้องมีบันไดถาวรที่เหมาะสมในการเข้าไปยังที่ว่างเพ่ือปฏิบัติงานในกรณีท่ีบริภัณฑ์ติดตงั้ แบบยกพื้น ชั้นลอย หรือในลกั ษณะเชน่ เดยี วกนั

[Update] คอร์ดเพลง นิทานพันดาว – กัน นภัทร | เล นิ น กราด – Australia.xemloibaihat

เสี้ยวนาที F ที่ใกล้กับเธอโลกนี้ก็ C/E เปลี่ยนแค่มีเธ Dm ออยู่เคียงต้องการแค่เพีย Am งเท่านั้นไม่อาจหา A# เหตุผลข้อไหน ไม่มี Am สิ่งใดยืนยั Dm นทุกเรื่ Gm องระหว่างเรานั้ C นมันคื F ออะไร C

เธอ F ไม่เหมือนกับคนที่เคยฝัน C/E ใฝ่และตัวฉั Dm นก็คงไม่ใช่ ใครคนนั้ Am นแต่เพียงได้พ A# บเหมือนเรานั้นเคย..เค Am ยพบเจอในฝันหัวใจ Gm ฉันเต้นไม่เหมือนเดิมเมื่อใกล้ C เธอ

ดังนิทาFนที่เล่ากี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิมนั่นคือฉันรักเธอ รักเธอ ไม่เคยเปลี่ยน Fผัน..ไป..หากดาวได้ยินคำอธิษฐาน..ของหัวใจ..กี่พันครั้งก็ยังจะขอ ให้ดวงใจ..ฉันอยู่ใกล้เธอ..  

| F |  ||  |  |
|  |  ||  |  |

| F |  ||  |  |
|  |   ||   | F  |

|  |

| F |  ||  |  F |

หากดาวได้ยินคำอธิษฐาน..ของหัวใจ..กี่พันครั้งก็ยังจะขอ ให้ดวงใจ..ฉันอยู่ใกล้เธอ..

| F |  ||  |  || F |


ยุทธการปลดแอก เลนินกราด : Soviet Campaign SS4 #1


วันนี้เรามาเริ่มสงครามใหม่กับ กองทัพแดง กันหน่อยดีกว่านะ ว่าดูกันครับว่า ภารกิจแรกจะเป็นยังไง พร้อมแล้ว ไปดูกัน
เข้ามารับชมผลงานใหม่ๆได้ที่นี่เลย ^^
suddenstrike4
https://goo.gl/kcXwev
=============================
เพจ Facebook
https://goo.gl/Xc4y3k
ฝากกดติดตาม และ กด ถูกใจ ไว้ด้วยนะฮาฟ
Ringingz

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ยุทธการปลดแอก เลนินกราด : Soviet Campaign SS4 #1

Vladimir Lenin, Russian revolutionary, documentary footages (HD1080).


Страница автора в контакте https://vk.com/niko999999
06.02.2017

Vladimir Lenin, Russian revolutionary, documentary footages (HD1080).

หนังสารคดี THE WORLD WAR 1 – 2 | อธิบายสงครามโลกครั้งที่ 1 – 2 จบครบทุกตอน


ขอบคุณที่รับชม มหากาฬสงครามโลก
หากอยากดูตัวเต็มสามารถเสิร์ชได้เพียงใช้คำว่า The World War มหากาฬสงครามโลก

แก้ไขเพิ่มเติม
ขอบคุณ Source จาก :
Thaipbs
History Channel

หนังสารคดี THE WORLD WAR 1 - 2 | อธิบายสงครามโลกครั้งที่  1 - 2 จบครบทุกตอน

ประวัติ : วลาดิมีร์ เลนิน by CHERRYMAN


ประวัติ : วลาดิมีร์ เลนิน by CHERRYMAN

คอมมิวนิสต์: แนวคิดสังคมนิยม ที่สังคมไม่นิยม


เวลาพูดถึงคอมมิวนิสต์ เราจะนึกถึงอะไร?
ทฤษฎีแนวคิดที่ล้าหลังแบบไดโนเสาร์
กลุ่มคนเสื้อเขียว หมวกแดง จับปืน อยู่ในป่า
การปฏิวัติวัฒนธรรมที่กวาดล้างคนเห็นต่างอย่างในประเทศจีน

และหลายคนอาจะมองว่าแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์มันน่ากลัว อันตรายแบบระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ ที่เกิดขึ้นในประเทศ จีน คิวบา หรือรัสเซีย หรืออย่างในไทยก็เช่นกัน ที่แนวคิดแบบสังคมนิยมถูกทำให้กลายเป็น “ผีคอมมิวนิสต์” เป็นแนวคิดที่ชั่วร้าย ล้มล้างการปกครอง ทำลายชาติบ้านเมือง จนกลายเป็นการสังหารหมู่นักศึกษาและประชาชน ในวันที่ 6 ตุลา
แล้วมันเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือ?
SHIFTER จึงอยากขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจความหมายของคอมมิวนิสต์ ว่ามันน่ากลัวแบบที่หลายคนคิดหรือเปล่า? จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่?
สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ Communist Communism Marxist Marxism
KarlMarx Shifter Independenttogether

คอมมิวนิสต์: แนวคิดสังคมนิยม ที่สังคมไม่นิยม

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่Wiki

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เล นิ น กราด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *