[NEW] 20 หนังเวทมนต์ ที่คุณไม่ควรพลาด ต้องหามาดู! | ทิโมธี ฮอว์คิง – Australia.xemloibaihat

ทิโมธี ฮอว์คิง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

วันนี้เราจะมาแนะนำ หนังเวทมนต์ แม่มด พ่อมด พลังเหนือมนุษย์ ที่คุณไม่ควรพลาด ต้องหามาดูให้ได้ซักครั้ง มาดูกันมามีหนังเรื่องไหนบ้างที่ควรดู

Table of Contents

THE WIZARD OF OZ (1939)

เดอะวิซาร์ดออฟออซ (The Wizard of Oz) เป็นภาพยนตร์อเมริกันในปี ค.ศ. 1939 แนวดนตรีจินตนิมิต สร้างโดยเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติสาสตร์วงการภาพยนตร์[5] เป็นที่รู้จักมากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดางานที่ดัดแปลงจากผลงานหนังสือเยาวชนของลีแมน แฟรงก์ บอมเรื่อง พ่อมดมหัศจรรย์แห่งเมืองออซ ภาพยนตร์นำแสดงโดยจูดี การ์แลนด์ รับบทโดโรที เกล, ร่วมด้วยเรย์ โบลเกอร์, แจ็ก เฮเลย์, เบิร์ต ลาร์, แฟรงก์ มอร์แกน, บิลลี เบิร์ก และมาร์กาเรต แฮมิลตันเป็นที่รู้จักในการใช้เทคนิคคัลเลอร์, การดำเนินเรื่องแบบจินตนิมิต, การใช้สกอร์เพลง และตัวละครที่น่าจดจำ ยังเป็นสัญรูปในวัฒนธรรมสมัยนิยมอเมริกัน ภาพยนตร์ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 6 รางวัล รวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่พ่ายให้เรื่อง วิมานลอย ได้รับรางวัลสาขาเพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยมจากเพลง “Over the Rainbow” และเพลงสกอร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม โดยเฮอร์เบิร์ต สโตทาร์ต ขณะที่ภาพยนตร์ถือว่าได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งออกฉายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 แต่ก็ไม่ได้ทำกำไรมากนักให้กับเอ็มจีเอ็ม ทำรายได้เพียง $3,017,000 จากงบประมาณ $2,777,000 และยังถือเป็นงานสร้างที่มากที่สุดของค่ายเอ็มจีเอ็ม จนถึงปัจจุบันนี้

  • แนว: Adventure, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Judy Garland, Frank Morgan, Ray Bolger
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 42 นาที
  • IMDb: 8.0/10

THE JUNGLE BOOK (2016)

เรื่องราวการผจญภัยของ เมาคลี (นีล เศรษฐี) เด็กน้อยที่ถูกเลี้ยงโดยครอบครัวของหมาป่า แต่ เมาคลี พบว่าเขาไม่เป็นที่ต้อนรับในป่าแห่งนี้อีกต่อไป เมื่อ แชร์คาน (พากย์เสียงโดย ไอดริส เอลบา) เสือร้ายผู้น่าเกรงขามที่มีแผลเป็นจากฝีมือมนุษย์ ให้คำมั่นว่าจะกำจัดทุกสิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นภัยคุกคาม หลังจากถูกขับไล่จากบ้านเพียงหลังเดียวที่เขามี เมาคลี จึงออกเดินทางเพื่อค้นหาตัวเองในการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ โดยได้รับการชี้แนะจากคู่หูที่กลายมาเป็นอาจารย์ บาเคียร่า (พากย์เสียงโดย เบน คิงส์ลีย์) และหมีผู้มีจิตวิญญาณอิสระ บาลู (พากย์เสียงโดย บิล เมอร์เรย์) ระหว่างทาง เมาคลี ได้เผชิญหน้ากับเหล่าสัตว์ป่าที่ไม่ได้ให้ความสนใจในจิตใจของเขา รวมถึง คา (พากย์เสียงโดย สการ์เลตต์ โจแฮนสัน) งูเหลือมที่มีเสียงอันเย้ายวนและจ้องสะกดจิตเด็กน้อยคนนี้ และ คิง ลูอี้ (พากย์เสียงโดย คริสโตเฟอร์ วอลเคน) ผู้ปากหวาน ที่พยายามจะบังคับ เมาคลี ให้เปิดเผยความลับของพลังอันอัตรายและอธิบายไม่ได้ของดอกไม้แดงหรือที่เราเรียกกันว่า “ไฟ”

  • แนว: Adventure, Drama, Family
  • นักแสดงนำ: Neel Sethi, Bill Murray, Ben Kingsley
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที
  • IMDb: 7.4/10

HARRY POTTER AND THE DEATHLY HALLOWS – PART 2 (2011)

หลังจากที่พวก แฮร์รี่ ออกเดินทางตามหา ฮอร์ครักซ์ ชิ้นส่วนวิญญาณของ โวลเดอมอร์ ที่มีทั้งหมด 7 ชิ้น และสามารถค้นพบและทำลายลงได้ โดยยังเหลือ ฮอร์ครักซ์ ที่ยังไม่ถูกทำลายอยู่ 4 ชิ้น แต่สุดท้ายพวกแฮร์รี่กลับถูกผู้เสพความตายจับแต่ก็สามารถเอาหนีรอดมาได้ โดยการสละชีวิตของ ด๊อบบี้ แฮร์รี่ล่วงรู้ถึงนัยยะสำคัญเกี่ยวกับฮอร์ครักซ์อีกชิ้นหนึ่งที่เขาคาดว่าถูกซ่อนไว้ในธนาคารกริงกอตส์ ธนาคารที่มีด่านป้องกันแน่นหนาที่สุด พวกแฮร์รี่จึงวางแผนบุกเข้าไปเพื่อขโมยฮอร์ครักซ์ ในขณะเดียวกันโวลเดอมอร์ล่วงรู้ว่าพวกแฮร์รี่กำลังตามล่าหาฮอร์ครักซ์อยู่ จึงยกกองทัพเหล่าผู้เสพความตายเข้าปิดล้อมฮอกวอตส์ ที่ที่เขาซ่อนฮอร์ครักซ์อีกชิ้นไว้ เพื่อดักรอแฮร์รี่ และครั้งนี้ไม่มีทางที่แฮร์รี่จะถอยอีกต่อไป เขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์ พร้อมด้วยกองทัพแห่งฮอกวอตส์และเหล่าผู้เสพความตาย ศึกครั้งนี้จึงเป็นศึกสุดท้ายที่มีโลกเวทมนตร์และโลกมนุษย์เป็นเดิมพัน

  • แนว: Adventure, Drama, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Daniel Radcliffe, Emma Watson, Rupert Grint
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 10 นาที
  • IMDb: 8.1/10

THE LORD OF THE RINGS: THE TWO TOWERS (2002)

โฟรโด แบ็กกิ้นส์ (เอไลจาห์ วู้ด) และแซมไวส์ แกมจี (ฌอง แอสติน) พบว่า ในขณะที่พวกเขาหลงทางอยู่ที่เนินเขาแห่ง อีมีน มิวล์ พวกเขาถูกติดตามจาก กอลลั่ม (เสียงพากย์โดย แอนดี้ เซอร์คิส) สัตว์ประหลาดลึกลับที่มีความเกี่ยวข้องกับแหวน กอลลั่มสัญญาที่จะพาสองฮอบบิท ไปสู่ประตูแห่งมอร์ดอร์ โดยมีเงื่อนไขว่า ทั้งสองจะต้องปล่อยตัวเขา แซมรู้สึกถึงความไม่น่าไว้วางใจ ของผู้ร่วมเดินทางใหม่ ในขณะที่โฟรโดกลับเวทนากอลลั่ม ผู้ที่มีเคยเผชิญชะตาชีวิต ดังเช่นเขาในขณะนี้

ณ ดินแดนมัฌชิมโลก อารากอร์น (วิกโก้ มอร์เทนเซ่น), เลโกลัส (ออร์แลนโด บลูม) กับ กิมลี (จอห์น รีส-เดวี่) ระหว่างการเดินทางสู่อาณาจักร โรฮาน ทั้งสามได้พบกับกองทัพโรแฮนบนอานม้า อารากอร์นได้ทราบข่าวจาก เอโอเมอร์ (คาร์ล เออร์แบน) ว่ากษัตริย์แห่งโรแฮน นามว่า เธโอเดน (เบอร์นาร์ด ฮิลล์) ได้ต้องมนต์ของซารูมาน และถูกหักหลังโดยที่ปรึกษาคนสนิทนามว่า เวิร์มทังก์ (แบรด ดูริฟ) เอโอวิน (มิรันดา ออตโต้) หลานสาวแห่งกษัตริย์เธโอเดน เธอเป็นคนที่เข้มแข็ง และหลงใหลในตัวอารากอร์นอยู่ไม่น้อย แต่แม้อารากอร์นจะรู้สึกพึงพอใจในตัวเอโอวิน แต่หัวใจของอารากอร์นกลับอยู่ที่ริเวนเดล เมืองที่เขาเคยมีสัญญาใจกับ อาร์เวน (ลิฟ ไทเลอร์)

แกนดาล์ฟกลับมาอีกครั้ง ในชุดคลุมกายขาวบริสุทธิ์ ไม่ใช่แกนดาล์ฟ เดอะเกรย์อีกต่อไปแล้ว แต่เป็น แกนดาล์ฟ เดอะไวท์ แทน มันชัดเจนว่าพลังของเขาฟื้นคืนมาใหม่อีกครั้ง เขากลับมาพร้อมกับจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เช่นเดียวกับซามูไร นอกจากนี้ เขายังมีความมุ่งมั่นต่อหน้าที่อีกด้วย ซึ่งมันได้นำความเป็นผู้นำ กลับมาสู่กลุ่มพันธมิตรอีกครั้ง

ขณะที่ เมอร์รี่ (โดมินิค โมเนแกน) และ พิพพิน (บิลลี่ บอยด์) สองฮ้อบบิทที่ถูกพวกอุรุกไฮลักพาตัวไป เพราะคิดว่าทั้งสองคือผู้ถือแหวน หากพวกอุรุกไฮพาแมร์รี่และพิพพิน ไปส่งให้กับ ซารูแมน เดอะไวท์ (คริสโตเฟอร์ ลี) ได้ เขาก็จะต้องพบว่า พวกเขาไม่ได้ครอบครองแหวน และเมื่อนั้น ทั้งสองก็จะต้องถูกฆ่า เเมร์รี่และพิพพิน ได้รับการช่วยเหลือ ให้รอดพ้นจากความตาย โดยต้นไม้ยักษ์เดินได้ที่มีชื่อว่า ทรีเบียร์ด

ขณะที่โฟรโดและแซม กำลังหาทางเดินข้ามไปยังดินแดนของศัตรู กองกำลังอันชั่วร้าย ก็วางแผนที่จะเข้ายึดครองมิดเดิ้ลเอิร์ธ โดย ซารูแมน พ่อมดผู้มีจิตใจอำมหิต ได้สร้างกองทัพ อุรุกไฮ ขึ้นมา กองทัพดังกล่าวเป็นเผ่าพันธุ์ออร์ค ที่มีความแข็งแกร่งและดุร้ายกว่า ซารูมานได้จับมือกับ ดาร์คลอร์ดเซารอน (ซาลา เบเกอร์) ซึ่งก็มีกองทัพของตัวเองเช่นกัน ภารกิจของซารูมาน คือส่งกองทัพอุรุกไฮของเขา เข้าบดขยี้อาณาจักรโรแฮนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ หากเมืองโรแฮนถูกทำลาย ดาร์คลอร์ดเซารอน ก็สามารถส่งกองทัพ เข้าตีจุดที่ยังมีการต่อต้าน อย่างบางเบาจากเหล่ามนุษย์ได้ นั่นก็คือ กอนดอร์

บนเส้นขนานของการเดินทาง ที่เหล่าพันธมิตรต้องเผชิญหน้า กับเหล่ากองทัพศัตรูเหนือจินตนาการ เล่ห์กลอันแยบยล รวมทั้งความมหัศจรรย์ของต้นไม้โบราณ และ พลังกองทัพอันแข็งแกร่ง ด้วยกันทั้งหมด พวกเขาต้องลุกขึ้นเผชิญหน้ากับการต่อสู้ และดุลย์แห่งอำนาจ ได้เกิดการผลัดเปลี่ยนไปทั่วดินแดนมัฌชิมโลก สองหอคอยอันประกอบด้วย บาราด ดูร์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ ดาร์คลอร์ดเซารอน และ ออร์ธังค์ ป้อมปราการของพ่อมดซารูมาน ที่สร้างกองทัพนับหมื่น เพื่อสงครามกับทุกชนเผ่า โดยมีจุดประสงค์ เพื่อล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติ

  • แนว: Action, Adventure, Drama
  • นักแสดงนำ: Elijah Wood, Ian McKellen, Viggo Mortensen
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 59 นาที
  • IMDb: 8.7/10

THE LORD OF THE RINGS: THE RETURN OF THE KING (2003)

การเดินทางของเหล่าพันธมิตรผู้กล้าแห่งวงแหวน กำลังจะถึงคราวสิ้นสุด พร้อมกับกองกำลังทมิฬแห่งดาร์คลอร์ดเซารอน ที่ตราทัพเข้าสู่ที่มั่นสุดท้าย ไมนาสติริธ ไม่มีครั้งใดที่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ จะต้องการการกลับมาของราชันย์มากกว่าครั้งนี้ แต่ความสงสัยในโชตชะตาของ อารากอร์น กลับเป็นสิ่งที่กีดกั้นหนทางสู่ราชบัลลังก์

แกนดาล์ฟ (เอียน แมคเคลเลน) ได้พยายามรวบรวมไพร่พล และกองทัพที่แตกสลายขึ้นอีกครั้ง โดยร่วมกับทัพนักรบผู้กล้าของกษัตริย์ ธีโอเดน แห่งโรแฮน (เบอร์นาร์ด ฮิลล์) ทว่าความหาญกล้า และจงรักภักดีจะมากมายสักเพียงไร ก็มิอาจจะต้านทานทัพศัตรูร้าย ที่พรั่งพรูเข้าสู่อาณาจักรในครั้งนี้ได้ และยิ่งหนทางที่ใกล้เข้าสู่ Mount Doom มากขึ้นเท่าใด โฟรโด (อีไลจาห์ วู้ด) และ แซม (ฌอน แอสติน) ก็ยิ่งตกอยู่ในความลำบากมากขึ้นเท่านั้น อำนาจแห่งแหวนเริ่มส่งผลต่อทุกย่างก้าวที่เดินไป กัดกร่อนความเป็นตัวตนที่แท้จริงของโฟรโด ในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของแซมอีกด้วย

ทุกชัยชนะที่ได้มาล้วนแลกด้วยการเสียสละ และแม้ว่าการสูญเสียจะยิ่งใหญ่สักเพียงใด เหล่ากองทัพแห่งพันธมิตร ก็ยังคงเดินหน้าสู่สมรภูมิครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีปณิธานร่วมกัน ในการทำให้ ดาร์คลอร์ดเซารอน ไขว้เขว และสร้างโอกาสให้แก่โฟรโด ได้ทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้สิ้นสุดลง และท่ามกลางการเดินทางฝ่าดินแดนฝ่ายศัตรูที่สุดแสนอันตราย โฟรโดจำต้องเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทางทั้งสอง นั่นคือ แซม และกอลลั่ม (เสียงพากย์โดย แอนดี้ เซอร์คิส) มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน วงแหวนก็ยังคงทดสอบความสวามิภักดิ์ และมนุษยธรรมของเหล่าผู้กล้าแห่งตำนานต่อไป

  • แนว: Action, Adventure, Drama
  • นักแสดงนำ: Elijah Wood, Viggo Mortensen, Ian McKellen
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 21 นาที
  • IMDb: 8.9/10

ENCHANTED (2007)

สำหรับจีเซลล์คนงาม (เอมี่ อดัมส์) ชีวิตคือเทพนิยาย…แบบตรงตัวเลยนะ เธอมีทุกสิ่งพร้อมสรรพสำหรับการเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยาย รูปร่างหน้าตางดงาม หัวใจบริสุทธิ์ เสียงร้องเพลงที่หวานซึ้ง และความสามารถในการสื่อสารกับสัตว์ได้ สิ่งดีงามทั้งหลายทั้งปวงที่เราจะคาดหวังได้จากโลกแอนดาลาเซียของเธอ…ซึ่งบังเอิญว่าเป็นโลกอนิเมชัน ความฝันของจีเซลล์ที่จะได้พบเจ้าชายรูปหล่อในฝันและได้ร่วม จุมพิตแห่งรักแท้ ด้วยกันกลายเป็นจริงเมื่อเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด (เจมส์ มาร์สเดน) ได้ยินเสียงร้องเพลงโซปราโนที่จับจิตของเธอและเร่งรุดมาอยู่ข้างกายเธอในทันใด

ในวันถัดมา ระหว่างที่เธอจะมุ่งหน้าไปเข้าพิธีสมรสกับเอ็ดเวิร์ด จีเซลล์กลับต้องมนต์สะกดของราชินีนาริสซา (ซูซาน ซาแรนดอน) ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เด็กสาวคนนี้แย่งชิงบัลลังก์ไปจากเธอได้ จีเซลล์ถูกส่งตัวไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากอาณาจักรเทพนิยายแห่งนี้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้…เธอไม่ได้เป็นตัวละครอนิเมชันในดินแดนงดงามที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงอีกต่อไปแล้ว แต่เธอกลับถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นหญิงสาวที่มีเลือดเนื้อและถูกส่งไปยังสถานที่ที่ไร้ซึ่งเวทมนตร์ นั่นคือแมนฮัตตันยุคปัจจุบัน

ผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอในดินแดนแปลกต่างนี้ เจ้าหญิงตกกระป๋องได้ผูกมิตรกับทนายความหย่าร้างที่ไม่เชื่อเรื่องไร้สาระ โรเบิร์ต (แพทริค เดมป์ซีย์) และลูกสาวตัวน้อยของเขา มอร์แกน (เรเชล โควีย์) เมื่อเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ไม่ได้เป็นตัวละครอนิเมชันอีกต่อไปแล้ว และคนรับใช้ของเขา นาธาเนียล (ทิโมธี สปอลล์) พร้อมทั้งชิปมังค์และเพื่อนสนิทของจีเซลล์ มาถึงยังนิวยอร์ก เธอก็ได้สัมผัสถึงโลกทั้งสองที่มาปะทะกัน และพบว่าตัวเองเกิดความสงสัยว่า มุมมองแบบเทพนิยายที่เธอมีต่อความรัก ซึ่งจบลงด้วยคำว่า มีความสุขชั่วกาลนาน จะยังคงใช้ได้รึเปล่าในโลกของเรา

  • แนว: Comedy, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Amy Adams, Susan Sarandon, James Marsden
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 47 นาที
  • IMDb: 7.0/10

THE LORD OF THE RINGS: THE FELLOWSHIP OF THE RING (2001)

โฟรโด แบ็กกิ้นส์ (เอไลจาห์ วู้ด) เป็นฮอบบิทหนุ่ม ที่มีอายุราว ๆ ยี่สิบปี เขามีผมสีน้ำตาลเป็นลอน และมีใบหน้าที่ชาญฉลาดและมีเสน่ห์ เหมือนกับฮอบบิทโดยทั่วไปในเมืองไชร์ รูปร่างของเขาค่อนข้างแคระแกรน เมื่อเทียบกับมาตรฐานของพวกเรา ความสูงของเขาประมาณสามฟุตหกเท่านั้น สิ่งเดียวที่เขาไม่เหมือนกับเพื่อนของเขา แซมไวส์ แกมจี (ฌอง แอสติน) ผู้รักสงบก็คือ โฟรโด ปรารถนาอยู่ตลอดเวลาว่าสักวันหนึ่งเขาจะออกจากบ้านเกิดของเขา ซึ่งเป็นหุบเขาที่สุขสงบไปสู่โลกกว้างที่เต็มไปด้วยภูเขา หุบเขา ทุ่งหญ้า แม่น้ำ ซึ่งครอบคลุมมัชฌิมโลก ทั้งหมด ด้วยความที่เขามีความคิดที่ประหลาดเช่นนี้นี่เอง จึงทำให้โฟรโดแตกต่างจากฮอบบิทโดยทั่วไป

วันหนึ่ง โฟรโด ได้ให้การต้อนรับการมาถึงของ แกนดาล์ฟ (เอียน แมคเคลเลน) ซึ่งเป็นพ่อมดที่มีอำนาจมากที่สุดในมัชฌิมโลก ภายหลังจากงานวันเกิดฉลองครบรอง 111 ปีของ บิลโบ แบ็กกิ้นส์ (เอียน โฮล์ม) ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของ โฟรโด เขาต้องมีอันต้องประหลาดใจ เมื่อได้ยินคำพูดของ แกนดาล์ฟ ที่ว่าชายชราได้ออกไปจากเมืองไชร์แล้ว และได้ทิ้งสมบัติทุกชิ้นให้แก่ โฟรโด ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็รวมถึงแหวนธรรมดาวงหนึ่ง

แกนดาล์ฟ ตระหนักดีว่าแหวนวงนี้ไม่ธรรมดาและได้กล่าวกับ โฟรโด ว่า “จงเก็บเป็นความลับ และจงรักษาให้ปลอดภัย” ซึ่งในเวลาเดียวกัน แกนดาล์ฟ เองก็พยายามศึกษาแหวนวงนี้ไปด้วย หลังจากนั้น โฟรโด ก็ได้กลับไปพักผ่อนร่วมสนุกสนานเฮฮากับเพื่อน ๆ ฮอบบิท ด้วยกันก่อนที่จะกลับมาถึงบ้าน พบว่า แกนดาล์ฟ ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง ด้วยลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แกนดาล์ฟ บอกกับ โฟรโด ว่าแหวนวงนี้ไม่ธรรมดา แต่เป็นอาวุธของอำนาจชั่วร้ายและปิศาจที่น่ากลัว เพราะแหวนวงนี้หลอมขึ้นโดย ดาร์คลอร์ดเซารอน (ซาลา เบเกอร์) และเป็นแหล่งพลังชีวิตของมัน กล่าวกันว่าแหวนวงนี้จะทำให้มันมีอำนาจมากพอ ที่จะพลิกชะตาของโลกให้กลับไปสู่ยุคมืดครั้งที่สองได้

ด้วยความรีบเร่ง แกนดาล์ฟ ได้บอกให้ โฟรโด และ แซม นำแหวนวงนี้ไปเก็บไว้ที่เอลวิช อันเป็นที่ซ่อนแห่งริเวนเดล โดยในขณะเดียวกัน แกนดาล์ฟ เองก็พยายามขอความช่วยเหลือจากอาจารย์เก่าของเขา ผู้มีนามว่าพ่อมดซารูมาน (คริสโตเฟอร์ ลี)

ก่อนที่ฮอบบิทหนุ่มทั้งสองจะเดินทางออกจากเมืองไชร์ ทั้ง โฟรโด และ แซม ได้พบกับ เมอร์รี่ (โดมินิค โมนาแฮน) และ พิพพิน (บิลลี บอยด์) เพื่อนวัยเยาว์ของพวกเขา ซึ่งขอร่วมเดินทางตามไปด้วย แล้วไม่นานนักพวกเขาก็ต้องพบกับปิศาจเป็นครั้งแรก มันเป็นพวกริงก์เรท ซึ่งเป็นสมุนของดาร์คลอร์ด อย่างไรก็ตามโชคดีพวกฮอบบิทสามารถหลุดพ้นจากการไล่ล่าของพวกมันมาได้ แต่หนีได้ไม่เท่าไหร่พวกเขาก็ต้องพบกับเรทอีกกลุ่มหนึ่ง พวกมันเป็นสมุนรับใช้ทั้งเก้าของ เซารอน รูปร่างของมันคล้ายผี และมีชีวิตอย่างถาวรในโลกที่สุกสกาวแห่งดวงตาของ เซารอน

ในขณะเดียวกัน แกนดาล์ฟ ได้มาถึงไอเซนการ์ด อันเป็นที่มั่นของ พ่อมดซารูมาน ที่นั่นเขาพบว่าเพื่อนเก่าของเขารวมถึงอาจารย์ของเขาตกเป็นทาสของปิศาจร้ายเสียแล้ว ระหว่างที่ แกนดาล์ฟ ถูกจองจำในหอคอยออร์แทงค์ของซารูมาน โฟรโด แซม เมอร์รี่ และ พิพพิน ก็พาตัวเองเข้าไปหลบซ่อนในเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า บรี อย่างปลอดภัย ที่โรงเตี๊ยม Prancing Pony พวกเขาได้พบกับชายลึกลับที่มีชื่อว่า สไตรเดอร์ เขาได้บอกกับฮอบบิทว่าพวกเขาควรเดินทางออกจากเมืองบรีให้เร็วที่สุด พร้อมกันนั้นได้เสนอตัวที่จะพาพวกเขาไปยังริเวนเดล

ระหว่างทาง สไตรเดอร์ พยายามที่เลี่ยงใช้เส้นทางถนน โดยเขานำพวกฮอบบิทเดินทางไปตามเส้นทางอันตรายแทน แม้ว่าจะคอยระวังอยู่ตลอดเวลา แต่สไตรเดอร์ก็พลัดหลงกับพวกฮอบบิทครั้งหนึ่งระหว่างอยู่บนยอดสุงสุดของ Weathertop ทิ้งให้พวกเขาต้องอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของหอคอยที่ถูกละทิ้ง เป็นโอกาสให้พวกริงก์แรทโผล่มาทำร้าย โฟรโด และพรรคพวกทันที อย่างไรก็ตามโชคดีที่ สไตรเดอร์ ตามมาเจอพอดี พวกริงก์แรทจึงหายตัวไป ผลจากการโจมตีครั้งนั้นทำให้ โฟรโด บาดเจ็บสาหัส

ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ในหอคอยซารูมาน แกนดาล์ฟ ได้ขอความช่วยเหลือจากกวาเฮียร์ ผู้ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งอินทรีย์ให้พาหนีก่อนที่ ซารูมาน จะทำอันตรายต่อเขามากกว่านี้ เช้าวันต่อมา โฟรโด พบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองริเวนเดล โดยมี แกนดาล์ฟ นั่งอยู่ข้างเตียงและมีสไตเดอร์นั่งอยู่ข้าง ๆ ทันใดนั้นเราได้ทราบความจริงอีกประการหนึ่งว่าสไตรเดอร์เป็นเพียงแค่นามแฝงเท่านั้น ชื่อจริงของเขาคือ อารากอร์น ผู้ซึ่งสืบสันตติวงศ์จากกษัตริย์โบราณ

ในช่วงเวลาเดียวกันผู้แทนจากดินแดนในโลกแถบกลาง ได้มาชุมนุมกันที่เมืองริเวนเดลเพื่อประชุมสภากัน โดยมีจุดประสงค์เพื่ออภิปรายถึงอนาคตของแหวน บทสรุปของการประชุมโดย ลอร์ดแห่งเอลฟส์ ออกมาว่าแหวนวงนี้จำต้องถูกทำลาย และการทำลายจะสัมฤทธ์ผลก็ต่อเมื่อแหวนวงนี้ถูกนำไปโยนลงในหุบเขามรณะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของอาณาจักรของดาร์คลอร์ด ที่มีชื่อว่า มอร์ดอร์ เท่านั้น

อย่างไรก็ตามภารกิจนี้มิได้กระทำกันง่าย ๆ เพราะกล่าวกันว่าผู้ใดก็ตามที่สัมผัสแหวน ต้องมีอันเป็นไปทุกราย อย่างไรก็ตามสำหรับพวกฮอบบิทซึ่งมีจิตใจที่อ่อนโยนแล้ว อำนาจชั่วร้ายแทบไม่สามารถทำร้ายพวกเขา เมื่อเป็นดังนั้นผู้ที่เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งจึงเป็นใครไม่ได้นอกจาก โฟรโด ในช่วงเวลาที่ โฟรโด อาสาที่จะนำแหวนไปยังอาณาจักรมอร์ดอร์นี่เอง ชายอีกแปดคนได้อาสาตามไปช่วยเขาด้วย บุคคลเหล่านี้ประกอบด้วย โบโรเมีย (ฌอน บีน) บุตรชายแห่งสจ๊วดแห่งกอนดอร์, เลโกลัส (ออร์แลนโด บลูม) เอล์ฟแห่งอาณาจักรเมิร์กวู้ด, กิมลิ (จอห์น รีส-เดวี่) ชายแคระ, แกนดาล์ฟ, พ่อมด, อารากอร์น และแน่นอน แซม, เมอร์รี่ และพิพพิน เอลดรอนให้สมญานามอาสาสมัครทั้งเก้าว่า พันธมิตรแห่งแหวน หรือ The Fellowship of the Ring

พันธมิตรทั้งหมดได้ออกจากริเวนเดลพร้อมกับ เซารอน และ ซารูมาน ระหว่างพวกเขาต้องผจญกับอันตรายมากมาย แต่ไม่มีภัยใดที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมที่รุนแรงเท่ากับที่เมืองคนแคระที่ชื่อ มอเรีย ที่นั่นพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับบาร์ล็อก อสูรร้ายแห่งไฟ และ แกนดาล์ฟ ได้แสดงวีรกรรมด้วยการยอมต่อสู้จนตัวตาย เพื่อให้พันธมิตรที่เหลือมีชีวิตรอดเพื่อดำเนินจุดมุ่งหมายต่อไป ผลจากการสูญเสีย แกนดาล์ฟ ทำให้พันธมิตรต้องเสียขวัญ โดยเฉพาะ โฟรโด เริ่มสงสัยแล้วว่าบางทีอานุภาพชั่วร้ายของแหวนเริ่มส่งผลเลวร้ายต่อเพื่อน ๆ ของเขาแล้ว แล้วก็เป็นจริงเมื่อ โบโรเมีย แห่งกอนดอร์ พยายามที่จะใช้กำลังแย่งแหวนจาก โฟรโด แต่ โฟรโด ก็หนีมาได้ พร้อมกับการตัดสินใจที่สร้างความแสลงใจแก่เขามาก ด้วยพันธะที่มีอยู่ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินทางไปยังอาณาจักรมอร์ดอร์แต่เพียงผู้เดียว

ในช่วงเวลานั้นเองเหล่าพันธะมิตรได้ถูกทำร้ายโดยอำนาจชั่วร้ายของ ซารูมาน ผลจากการโจมตีทำให้พันธมิตรต้องสูญเสีย โบโรเมีย ไปอีกคน เขาตายเพราะปกป้องชีวิตของ เมอร์รี่ กับ พิพพิน ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ตกเป็นเชลยของออร์ค

ระหว่างที่หนีการไล่ล่า แซม ได้พบกับ โฟรโด ซึ่งกำลังพายเรือข้ามทะเลสาบ เขาได้ขอให้ โฟรโด พาไปด้วย ส่วน อารากอร์น แทนที่จะออกเดินทางตาม โฟรโด และ แซม เขากับพรรคพวกที่เหลือกลับตัดสินใจตามไปช่วยเหลือ เมอร์รี่ และ พิพพิน เมื่อเป็นดังนี้ภารกิจในการนำแหวนไปทำลายจึงตกอยู่กับสองฮอบบิท โฟรโด กับ แซม เท่านั้น

  • แนว: Action, Adventure, Drama
  • นักแสดงนำ: Elijah Wood, Ian McKellen, Orlando Bloom
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 58 นาที
  • IMDb: 8.8/10

HARRY POTTER AND THE PRISONER OF AZKABAN (2004)

แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) กับเพื่อน ๆ รอน วีสลีย์ (รูเพิร์ท กรินท์) และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (เอ็มม่า วัตสัน) กลับมาเรียนในปีสาม ที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทย์มนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ที่ซึ่งเด็กวัยรุ่นทั้งสาม ถูกบังคับให้เผชิญกับความกลัวที่เร้นลับที่สุดของพวกเขา ในขณะที่ต้องรับมือกับนักโทษแหกคุกที่เป็นอันตราย และบรรดาผู้คุมวิญญานที่น่ากลัวพอ ๆ กัน ซึ่งถูกส่งไปที่นั่นเพื่อคุ้มกันพวกเขา

  • แนว: Adventure, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Daniel Radcliffe, Emma Watson, Rupert Grint
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 22 นาที
  • IMDb: 7.9/10

A MONSTER CALLS (2017)

เรื่องราวสุดลี้ลับอัศจรรย์ของเด็กชายวัย 13 ปี คอนเนอร์ โอมัลลีย์ (ลูอิส แม็คโดกัลล์) ที่พยายามรับมือกับการถูกเพื่อนกลั่นแกล้งในโรงเรียน และการช่วยเหลือ แม่ (เฟลิซิตี้ โจนส์) ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย กระทั่งค่ำคืนหนึ่งเขาได้พบกับ สัตว์ประหลาดต้นไม้ยักษ์ (เลียม นีสัน) ที่นำพาเข้าไปในดินแดนเหนือจินตนาการ สถานที่แห่งนั้นเขาจะได้พบกับการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละและการสูญเสียซึ่งจะทำให้เปลี่ยนแปลงโลกแห่งความจริงของเขาไปตลอดกาล

  • แนว: Adventure, Drama, Family
  • นักแสดงนำ: Lewis MacDougall, Sigourney Weaver, Felicity Jones
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 48 นาที
  • IMDb: 7.5/10

HARRY POTTER AND THE GOBLET OF FIRE (2005)

ความยุ่งยากกำลังรอ แฮร์รี่ พอตเตอร์ อยู่ข้างหน้า…จากการถูกคุกคามด้วยฝันร้าย ที่ทำให้แผลเป็นของเขาเจ็บยิ่งกว่าที่เคย แฮร์รี่ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) รู้สึกยิ่งกว่ายินดีที่จะได้หนีให้พ้น จากความฝันที่คอยกวนใจเขา ด้วยการไปชมการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพกับ รอน (รูเพิร์ท กรินท์) และ เฮอร์ไมโอนี่ (เอ็มม่า วัตสัน) ผู้เป็นเพื่อนรัก

  • แนว: Adventure, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Daniel Radcliffe, Emma Watson, Rupert Grint
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 37 นาที
  • IMDb: 7.7/10

LIFE OF PI (2012)

ภาพยนตร์สร้างขึ้นจากหนังสือขายดีแนวผจญภัยแนวแฟนตาซี ถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวอินเดีย ชื่อ พาย พาเทล ที่มีชีวิตรอดจากเหตุการณ์เรือล่ม โดยใช้ชีวิตอยู่ในเรือชูชีพเป็นเวลา 227 วัน กับบรรดาสิงสาราสัตว์นานาชนิด รวมถึงเสือเบงกอลตัวมหึมา พาย ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังกับเจ้าสัตว์ร้ายนี้โดยใช้ความรู้ ไหวพริบ และศรัทธาทั้งหมดเพื่อให้มีชีวิตรอด

  • แนว: Adventure, Drama, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Suraj Sharma, Irrfan Khan, Adil Hussain
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 7 นาที
  • IMDb: 7.9/10

PETE’S DRAGON (2016)

พีท (โอ๊คส์ เฟกลีย์) เด็กชายที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้ครอบครัวของเขาเสียชีวิต เขาตกอยู่ท่ามกลางอันตรายในป่าใหญ่ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากมังกรยักษ์สีเขียว ซึ่งนำเขาไปเลี้ยงดูเป็นเวลา 6 ปี ทั้งคู่ผูกพันกันทั้งในแบบเพื่ิอนและสัตว์เลี้ยง พีท ตั้งชื่อมังกรของเขาว่า “เอลเลียต” ตามชื่อสุนัขในหนังสือนิทานที่ติดตัวเขามา แต่วันหนึ่งเมื่อความเจริญเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้แหล่งที่อยู่ของทั้งสอง พีท และ เอลเลียต ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากคนตัดไม้ พีท ถูกนำตัวไปอยู่ในเมือง ขณะที่ เอลเลียต ถูกตามล่า ทั้งคู่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้หญิงและครอบครัวของเธอ เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง

  • แนว: Action, Adventure, Comedy
  • นักแสดงนำ: Bryce Dallas Howard, Robert Redford, Oakes Fegley
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 42 นาที
  • IMDb: 6.7/10

EDWARD SCISSORHANDS (1990)

ณ ปราสาทบนเนินเขาที่ห่างไกล ที่อาศัยของนักประดิษฐ์ผู้สร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตสุดมหัศจรรย์ เอ็ดเวิร์ด ผู้ที่เกือบจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เมื่อผู้สร้างเขาไปตายก่อนที่เขาจะสร้างมือให้กับเอ็ดเวิร์ดสำเร็จ แทนที่เอ็ดเวิร์ดจะมีมือที่สมบูรณ์ เขาต้องอาศัยอย่างโดดเดี่ยว จนกระทั่งเด็กสาวใจดี ชื่อ เพ็กก์ มาเจอเอ็ดเวิร์ดเข้า และพามาสัยอยู่ที่บ้าน ตอนแรกทุกคนที่ต้อนรับดี แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงตลอดกาล

  • แนว: Drama, Fantasy, Romance
  • นักแสดงนำ: Johnny Depp, Winona Ryder, Dianne Wiest
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 45 นาที
  • IMDb: 7.9/10

HARRY POTTER AND THE HALF-BLOOD PRINCE (2009)

ด้วยความความฮึกเหิมในการกลับมาของ ลอร์ด โวลเดอมอร์ เหล่าผู้เสพความตายกลับสร้างความโกลาหลทั้งในโลกของมักเกิ้ลและโลกแห่งเวทมนตร์ และ ฮอกวอตส์ก็ไม่ใช่สถานที่ ๆ ปลอดภัยอีกต่อไป แม้แฮร์รี่จะสงสัยว่าอันตรายอาจแฝงตัวอยู่ในปราสาทแห่งนี้ แต่ดัมเบิลดอร์ต้องการให้เขาเตรียมรับมือกับศึกครั้งสุดท้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาต้องให้แฮร์รี่ช่วยหากุญแจสำคัญที่จะเผยการป้องกันตัวของโวลเดอมอร์ ข้อมูลสำคัญที่มีคนรู้แค่เพียงอดีตอาจารย์วิชาปรุงยา ศาสตราจารย์ฮอเรซ ซลักฮอร์น ด้วยความตั้งใจนี้ ดัมเบิลดอร์จึงจัดให้อดีตเพื่อนร่วมงานของเขากลับมารับตำแหน่งเดิมด้วยข้อสัญญาว่าจะเพิ่มเงินเดือน ห้องทำงานที่ใหญ่ขึ้น…รวมทั้งโอกาสที่จะได้สอนแฮร์รี่ พอตเตอร์ผู้เลื่องชื่อ

  • แนว: Action, Adventure, Family
  • นักแสดงนำ: Daniel Radcliffe, Emma Watson, Rupert Grint
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 33 นาที
  • IMDb: 7.6/10

CINDERELLA (2015)

เรื่องราวของ “ซินเดอเรลล่า” ได้เดินตามรอยชีวิตของ เอลล่า (ลิลลี่ เจมส์) สาวน้อยที่พ่อผู้เป็นพ่อค้าของเธอได้แต่งง­านใหม่หลังจากการสูญเสียแม่ของเธอ ด้วยความที่อยากจะให้กำลังใจพ่ออันเป็นที่­รักของเธอ เอลล่า ให้การต้อนรับ แม่เลี้ยงคนใหม่ (เคท บลันเชตต์) และลูกเลี้ยงของเธอ อนาสตาเซีย (ฮอลลิเดย์ เกรนเจอร์) และ ดริสเซลล่า (โซฟี แมคชีร่า) สู่บ้านของเธอแต่เมื่อพ่อของ เอลล่า ได้ด่วน­จากไปอย่างกะทันหัน เธอพบว่าตัวเองได้ตกอยู่ภายใต้ความดูแลของ­ครอบครัวใหม่ที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและโหด­ร้าย สุดท้ายเธอได้กลายเป็นเพียงคนรับใช้สาวที่­ร่างกายเต็มไปด้วยขี้เถ้าและถูกเปลี่ยนชื่­อเป็น ซินเดอเรลล่า เอลล่า เริ่มหมดสิ้นความหวัง

แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนี้ เธอตั้งใจที่จะรักษาคำพูดสุดท้ายของแม่ ที่บอกให้เธอมี “ความกล้าหาญและจิตใจที่ดี” เธอจะไม่ยอมแพ้ต่อความสิ้นหวังหรือเหยียดห­ยามคนที่มารังแกเธอ และเมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน้าผู้มี­เสน่ห์ภาย ในป่า โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเขาคนนั้นคือ เจ้าชาย หรือแม้แต่กระทั่งเป็นคนในราชสำนัก เอลล่า รู้สึกเหมือนได้พบกับจิตใจอันดีงาม โชคชะตาของเธอกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อราชวัง­ได้ประกาศเชิญให้หญิงสาวทั่วราชอาณาจักรมา­เข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำ ความหวังของ เอลล่า ส่องประกายอีกครั้งกับกา­รที่จะได้พบกับ คิท เจ้าเสน่ห์ (ริชชาร์ด แมดเดน) แต่ แม่เลี้ยง ของเธอกลับไม่อนุญาตให้เธอไปร­่วมงานและทำลายชุดไปงานเลี้ยงของเธอเป็นเส­ี่ยง ๆ แต่ด้วยข้อดีของเทพนิยาย ความช่วยเหลือจึงมาทันเวลา เมื่อสตรีขอทานผู้ใจดี (เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์) ได้ก้าวเข้ามาพร้อมกับฟักทองและหนูอีกสองส­ามตัว ที่จะเปลี่ยนชีวิตของ ซินเดอเรลล่า ไปตลอดกา­ล

  • แนว: Drama, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Lily James, Cate Blanchett, Richard Madden
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 45 นาที
  • IMDb: Lily James, Cate Blanchett, Richard Madden

CHARLIE AND THE CHOCOLATE FACTORY (2005)

แทบทุกคืนในบ้านของพวกบัคเก็ต อาหารเย็นคือซุปกะหล่ำน้ำใสหนึ่งชาม ซึ่งเด็กน้อย ชาร์ลี (เฟรดดี้ ไฮมอร์) เต็มใจยิ่งที่จะแบ่งปันกับ แม่ (เฮเลน่า บอนแนม คาร์เตอร์) และ พ่อ (โนอาห์ เทย์เลอร์) และปู่ย่าตายายทั้งสองคู่ของเขา บ้านของพวกเขาเป็นบ้านเก่าโกโรโกโสหลังเล็กที่ใกล้จะพังเต็มที แต่เต็มไปด้วยความรัก สิ่งสุดท้ายที่ชาร์ลีเห็นจากหน้าต่างบ้าน คือโรงงานช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ของ วิลลี่ วองก้า (จอห์นนี่ เดปป์) และเขาจะม่อยหลับไป เพื่อฝันว่ามีอะไรอยู่ในนั้น

  • แนว: Adventure, Comedy, Family
  • นักแสดงนำ: Johnny Depp, Freddie Highmore, David Kelly
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที
  • IMDb: 6.6/10

BRIDGE TO TERABITHIA (2007)

เรื่องราวความมหัศจรรย์เริ่มจาก เจส และ เลสลี่ เด็กชายและหญิงที่จากไม่ชอบหน้ากลายมาเป็นเพื่อนรักกัน และทั้งคู่ได้ค้นพบดินแดนอันอัศจรรย์สุดคณานับ ดินแดนที่เรียกขานว่า Terabithia ที่ทีราบิเตีย ต้นไม้จะเดินได้…แมลงจะรบได้ ยักษ์จะปกป้อง อินทรีจะพิฆาต ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ แค่หลับตา แล้วเปิดใจให้กว้าง และในดินแดนทีราบิเตียนี้เอง ที่บังเกิดสิ่งไม่คาดคิดเกินกว่าที่ใครจะกล้าจินตนาการ

  • แนว: Drama, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Josh Hutcherson, AnnaSophia Robb, Zooey Deschanel
  • ความยาว : 1 ชั่วโมง 36 นาที
  • IMDb: 7.1/10

HARRY POTTER AND THE CHAMBER OF SECRETS (2002)

แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) มีวันปิดภาคฤดูร้อนที่ไม่สนุกนัก เขาไม่เพียงแต่ต้องทนอยู่กับป้าเพ็ตทูเนียจอมเผด็จการ (ฟีโอน่า ชอว์) และ ลุงเวอร์นอน เดอร์สลีย์ (ริชาร์ด กริฟฟิธส์) ที่หวาดกลัวต่อเวทมนตร์วิเศษของเขา แต่ดูราวกับว่าเพื่อนสนิททั้งสอง รอน วีสลีย์ (รูเพิร์ต กรินท์) และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (เอ็มม่า ว็อตสัน) พากันลืมเขาเสียสนิทอีกทั้งยังไม่เคยตอบจดหมายเขาแม้แต่ฉบับเดียว และแล้วจู่ๆ ก็มีด๊อบบี้ เอลฟ์ประจำบ้านมาปรากฎกายอย่างลึกลับในห้องนอนของแฮร์รี่ เพื่อเตือนเขาถึงอันตรายครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น หากว่าแฮร์รี่จะพยายามกลับไปที่โรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์

  • แนว: Adventure, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Daniel Radcliffe, Rupert Grint, Emma Watson
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 41 นาที
  • IMDb: 7.4/10

HARRY POTTER AND THE SORCERER’S STONE (2001)

ในขณะที่วันเกิดปีที่ 11 ของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) ใกล้จะมาถึง เขาหวังเล็ก ๆ ว่าจะมีเรื่องตื่นเต้น หรือของขวัญจากครอบครัวเดอร์สลีย์ ญาติใจร้ายที่รับเลี้ยงแฮร์รี่ หลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตลง และบังคับให้เขานอนอยู่ในห้องใต้บันได

  • แนว: Adventure, Family, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Daniel Radcliffe, Rupert Grint, Richard Harris
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 32 นาที
  • IMDb: 7.6/10

PIRATES OF THE CARIBBEAN: THE CURSE OF THE BLACK PEARL (2003)

สำหรับกัปตันผู้แสนเจ้าเล่ห์ แต่เสน่ห์ล้นอย่าง แจ็ค สแปร์โรว์ (จอห์นนี่ เดปป์) แล้ว ผืนน้ำใสแจ๋วของทะเลแคริบเบี้ยนนั้น ก็เป็นเช่นเดียวกับบรรดาทะเลหลวงทั้งหลายในโลก นั่นคือเปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นกว้างใหญ่ไพศาล ที่ซุกซ่อนไว้ซึ่งการผจญภัยและความลี้ลับ

  • แนว: Action, Adventure, Fantasy
  • นักแสดงนำ: Johnny Depp, Geoffrey Rush, Orlando Bloom
  • ความยาว : 2 ชั่วโมง 23 นาที
  • IMDb: 8.0/10

[Update] รวม 25 ภาค ‘James Bond’ ตำนานสายลับรหัส 007 ที่บู๊ระห่ำนานเกินครึ่งศตวรรษ | ทิโมธี ฮอว์คิง – Australia.xemloibaihat

     หากพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เชื่อว่าไม่น่าจะมีภาพยนตร์จอใหญ่ เรื่องไหนที่มีการสร้างต่อเนื่องยาวนานเกือบ 60 ปี โดยหนังแต่ละเรื่องต่างก็ได้รับความนิยมมาโดยตลอด อาจจะมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป หากแต่ไม่ใช่ความล้มเหลวแน่ๆ อย่างหนังชุดเจมส์ บอนด์ ที่ว่าด้วยการผจญภัยออกปฏิบัติการของสายลับที่ใช้รหัสประจำตัว 007 แห่งเอ็มไอซิกซ์ หรือหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ

     และในปีนี้ที่หนังเจมส์ บอนด์ เรื่องที่ 25 ออกฉาย เราขอย้อนกลับไปดูว่า เวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เจมส์ บอนด์ได้พาผู้ชมไปสัมผัสกับอะไรบ้าง โดยเราคัดมาเฉพาะหนังที่อำนวยการสร้างโดยอีออน โปรดักชันส์ ซึ่งถือเป็นหนังเจมส์ บอนด์อย่างเป็นทางการ

 

Dr. No (1962)

ผู้กำกับ: เทอเรนซ์ ยัง

เรื่องราว: บอนด์ถูกส่งไปสืบคดีฆาตกรรมเพื่อนร่วมงานที่จาไมกา ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับความล้มเหลวของโครงการอวกาศสหรัฐอเมริกา และพบว่า ดร. จูเลียส โน วางแผนการบางอย่างบนเกาะส่วนตัว 

ทุนสร้าง: 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 59.9 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: ถึงจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่หนังเรื่องแรกของเจมส์ บอนด์ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี มีฉากเปิดที่ดึงความสนใจและเพลงธีมที่ติดหู 

ทำไมต้องดู: เป็นหนังเรื่องแรกอย่างเป็นทางการของเจมส์ บอนด์ ที่สร้างมาตรฐานทั้งตัวละครบอนด์ และสาวบอนด์ให้หนังอีก24 เรื่องดำเนินรอยตาม

 

From Russia With Love

(1963)

ผู้กำกับ: เทอเรนซ์ ยัง 

เรื่องราว: บอนด์เดินทางไปที่ตุรกีเพื่อรับเครื่องถอดรหัสที่ชื่อเล็กเตอร์จากเจ้าหน้าที่สาวรัสเซีย แต่ก็ต้องเจอกับการตามล่าขององค์กรอาชญากรรมสเป็กเตอร์ ที่ต้องการเครื่องถอดรหัสและล้างแค้นให้กับ ดร. โน

ทุนสร้าง: 2 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 78.9 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: เป็นงานระทึกขวัญเกี่ยวกับสงครามเย็นที่คมคายและกระฉับกระเฉง มีฉากแอ็กชั่นที่น่าตื่นเต้นอยู่หลายฉาก และด้วยทุนสร้างที่มากขึ้นจึงทำให้บอนด์ได้เดินทางไปในที่ต่างๆ มากกว่าภาคก่อน จนกลายเป็นลายเซ็นของหนังชุดนี้ เช่นเดียวกับเดสมอนด์ เลเวลีน ที่เล่นเป็นคิวในหนังชุดนี้รวม 19 เรื่อง ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 1999

ทำไมต้องดู: นอกจากฉากต่อสู้ของบอนด์กับตัวร้ายบนรถไฟที่รับบทโดยโรเบิร์ต ชอว์ จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในฉากคลาสสิกของหนังชุดนี้แล้ว ความจริงจังเข้มข้นของหนังก็คือความโดดเด่นที่ห้ามพลาดเช่นกัน

 

Goldfinger

(1964)

ผู้กำกับ: กาย แฮมิลตัน

เรื่องราว: บอนด์ได้รับคำสั่งให้เกาะติดนายหน้าค้าทองนาม ออริค โกลด์ฟิงเกอร์ จนรู้ว่าเขามีแผนที่จะขโมยทองคำสำรองของสหรัฐอเมริกา จากคลังเก็บที่ฟอร์ตน็อกซ์

ทุนสร้าง: 3 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 124.9 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: งานที่กลายเป็นการหยั่งรากฝังใบในโลกภาพยนตร์ของหนังชุดนี้ ที่ส่งให้เรื่องราวของเจมส์ บอนด์ ถูกเล่าขานบนจอภาพยนตร์มาจนถึงปัจจุบัน และมีสารพัดสิ่งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนัง ไม่ว่าจะเป็นการสั่งเครื่องดื่มของบอนด์ หรือสารพัดของเล่นที่เขานำมาใช้

ทำไมต้องดู: นี่คือหนังบอนด์บล็อกบัสเตอร์เรื่องแรก ที่นอกจากจะเป็นแม่แบบให้กับหนังบอนด์นับจากนี้แล้ว ยังเป็นหนังบอนด์เรื่องแรกที่ได้รางวัลออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษด้านเสียงยอดเยี่ยมอีกด้วย

 

Thunderball

(1965)

ผู้กำกับ: เทอเรนซ์ ยัง 

เรื่องราว: เมื่อหัวรบนิวเคลียร์สองหัวถูกขโมยโดยสเป็กเตอร์ เพื่อใช้ในการข่มขู่ระดับโลก บอนด์จึงต้องเดินทางไปถึงบาฮามาส เพื่อหาทางนำกลับคืนก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายไปทั่วโลก

ทุนสร้าง: 9 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 141.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: ฉากแอ็กชั่นใต้น้ำคือความน่าตื่นตาตื่นใจของหนัง แม้จะถูกตำหนิเรื่องความยาวที่มากไปอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ให้การชื่นชมอย่างท่วมท้นสำหรับหนังในภาพรวม ที่ได้ชื่อว่าเป็นการทำงานในแบบอย่าไปซ่อมอะไร ถ้ามันไม่เสีย โดยมี Goldfinger เป็นต้นแบบ

ทำไมต้องดู: หลังการปรับค่าเงินตามอัตราเงินเฟ้อ นี่คือหนังบอนด์ที่ทำเงินมากที่สุด จนกระทั่ง Skyfall ออกฉายในปี 2012 รวมทั้งยังได้รางวัลออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษด้านภาพยอดเยี่ยม ถือเป็นการปิดฉากการกำกับหนังบอนด์ของเทอเรนซ์ ยัง ที่สวยงามมาก

 

You Only Live Twice

(1967)

ผู้กำกับ: ลิวอิส กิลเบิร์ต

เรื่องราว: บอนด์ถูกส่งมาสืบเรื่องยานอวกาศถูกขโมย และนักบินอวกาศถูกลักพาตัวที่ญี่ปุ่น แล้วพบว่าเอิร์นสต์ สตาฟโร โบลเฟลด์ คือผู้อยู่เบื้องหลังเพื่อที่จะหาทางให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม

ทุนสร้าง: 10.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 111.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: ด้วยสถานที่ที่ดูแปลกตา สเปเชียลเอฟเฟกต์ที่น่าประทับใจ และตัวร้ายที่เยี่ยมยอด ทำให้หนังซึ่งมีเนื้อเรื่องที่ดูสับสน และเต็มไปด้วยเรื่องราวเหลือเชื่อ กลายเป็นงานที่ดูสนุกขึ้นมาได้  

ทำไมต้องดู: เพราะผู้เขียนบทของหนังเรื่องนี้คือเจ้าของบทประพันธ์อย่าง James and the Giant Peach, Charlie and the Chocolate Factory, Matilda, Fantastic Mr. Fox และ The BFG ที่ชื่อโรอัลด์ ดาห์ล

 

On Her Majesty’s Secret Service

 (1969)

ผู้กำกับ: ปีเตอร์ อาร์. ฮันต์ 

เรื่องราว: บอนด์ออกตามล่าโบลเฟลด์ และได้พบกับเทรซี ดิ วิเซนโซ ก่อนจะแกะรอยไปเจอรังของโบลเฟลด์ที่ทำเป็นคลินิกบนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งมีแผนล้างสมองคนไข้เพื่อให้ไปปล่อยเชื้อโรคในส่วนต่างๆ ของโลก

ทุนสร้าง: 7 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 82 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: ได้ชื่อว่าเป็นงานที่ดัดแปลงจากต้นฉบับอย่างซื่อสัตย์อยู่นาน และผลลัพธ์ก็ออกมาไม่แย่ ตัวละครมีความเป็นมนุษย์ และเน้นเรื่องราวมากกว่าขายมุก รวมถึงของเล่นต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้นจากหนังเรื่องก่อนๆ หน้า ขณะที่งานด้านภาพก็น่าตื่นตา แล้วที่ลืมไม่ได้เลย ก็คือสาวบอนด์ที่มีเสน่ห์มากที่สุดคนหนึ่ง

ทำไมต้องดู: บอนด์ครั้งแรกและครั้งเดียวของจอร์จ เลเซนบี และเป็นครั้งเดียวที่บอนด์เข้าพิธีแต่งงาน ทั้งยังเป็นการกำกับหนังบอนด์หนเดียวของปีเตอร์ อาร์. ฮันต์ ด้วยเช่นกัน 

 

Diamonds are Forever

(1971)

ผู้กำกับ: กาย แฮมิลตัน

เรื่องราว: บอนด์ตามสืบการลักลอบขนเพชรซึ่งเริ่มต้นจากแอฟริกาไปยังฮอลแลนด์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา จนไปเจอเข้ากับดาวเทียมที่ถูกสร้างขึ้นโดย ดร. เม็ตซ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแสงเลเซอร์ และโบลเฟลด์ที่มีแผนร้ายในการใช้ดาวเทียมเพื่อปล่อยจรวดนิวเคลียร์ 

ทุนสร้าง: 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 116 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: แม้จะเป็นงานที่ให้ความบันเทิงได้เต็มที่ แต่หนังก็ไม่ต่างไปจากการลอกแบบหนังเรื่องก่อนๆ หน้า รวมทั้งพยายามใช้สูตรเดิมๆ มาปั้นหนัง ทั้งการดึงกาย แฮมิลตัน จาก Goldfinger มากำกับ แล้วให้เชอร์ลีย์ แบสซีย์ ร้องเพลงนำ แต่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นสูตรที่พ้นยุคไปแล้ว

ทำไมต้องดู: เพราะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายของอีออน โปรดักชันส์ที่ฌอน คอนเนอรี รับบทเจมส์ บอนด์

 

Live and Let Die

(1973)

ผู้กำกับ: กาย แฮมิลตัน 

เรื่องราว: สามเจ้าหน้าที่ของเอ็มไอซิกซ์ถูกฆาตกรรมในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง บอนด์จึงถูกส่งมาสืบสวนและพบว่าทั้งหมดต่างทำคดีที่สาวไปถึง ดร. คาแนนกา ผู้นำเผด็จการของเซนต์ โมนิก เกาะเล็กๆ บนทะเลแคริบเบียน ที่อีกบทบาทหนึ่งคือ มิสเตอร์บิ๊ก พ่อค้าเฮโรอีนและหัวหน้าแก๊งมาเฟียผู้เหี้ยมโหด ที่มีไร่ฝิ่นอยู่บนเกาะ

ทุนสร้าง: 7 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 161.8 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: ได้รับคำชมเรื่องฉากแอ็กชั่น และความกล้าที่จะออกจากโซนปลอดภัยของหนังบอนด์ รวมถึงโรเจอร์ มัวร์ ที่นำเอาความสดใสและอารมณ์ขันมามอบให้กับหนัง

ทำไมต้องดู: หนังบอนด์เรื่องแรกของโรเจอร์ มัวร์ ที่มีเพลงประกอบชื่อเดียวกัน กลายเป็นหนึ่งในเพลงนำของหนังบอนด์ที่ได้รับการจดจำมากที่สุด ซึ่งเป็นผลงานของพอล แม็กคาร์ตนีย์ แอนด์ เดอะ วิงส์

The Man with the Golden Gun

(1974)

ผู้กำกับ: กาย แฮมิลตัน

เรื่องราว: บอนด์ได้รับลูกกระสุนสีทองสลักเลข 007 ซึ่งบ่งบอกว่าเขาตกเป็นเป้าหมายของสคารามันกา มือสังหารเจ้าของปืนสีทอง ทำให้ต้องออกตามล่าตัวก่อนที่สคารามันกาจะเจอตัวเขาที่ยังไปเกี่ยวพันกับเครื่องควบคุมพลังงานจากแสงอาทิตย์

ทุนสร้าง: 7 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 97.6 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: เป็นหนังบอนด์คุณภาพระดับปานกลาง แต่กับตัวร้ายนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่น่าเกรงขามที่สุดของบอนด์แล้ว ยังบดบังรัศมีของบอนด์อีกต่างหาก 

ทำไมต้องดู: นี่คือหนังบอนด์เรื่องแรกที่ถ่ายทำในประเทศไทย และหนึ่งในภาพโปรโมตของหนังก็คือการดวลกันของสองตัวละครหลักที่มีเกาะตาปู จังหวัดพังงา เป็นฉากหลัง

 

The Spy Who Loved Me

(1977)

ผู้กำกับ: ลิวอิส กิลเบิร์ต 

เรื่องราว: เรือดำน้ำของกองทัพสหราชอาณาจักรและสหภาพโซเวียตหายไป บอนด์เลยต้องจับมือกับสายลับสาวของเคจีบี และพบว่าคาร์ล สตรอมเบิร์ก มหาเศรษฐี นักวิทยาศาสตร์ และ

พวกบ้าอำนาจคือคนที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ตัวเองจะได้สร้างแหล่งอารยธรรมใหม่

ทุนสร้าง: 14 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 185.4 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: หนังบอนด์ที่รับบทโดย โรเจอร์ มัวร์ ที่ได้รับคำชื่นชมมากที่สุด และในภาพรวมก็ยังแข็งแรงพอจะเป็นหนึ่งในหนังบอนด์ที่ดีที่สุด

ทำไมต้องดู: นอกจากคำวิจารณ์ที่ดี หนังยังเต็มไปด้วยสิ่งละอันพันละน้อยที่น่าจดจำ อย่างเช่น สไตล์ที่ฉับไว ตัวร้ายที่ร้ายกาจ ฉากแอ็กชั่น โดยเฉพาะฉากเปิดที่เป็นหนึ่งในฉากเปิดที่ดีที่สุดของบอนด์ และแน่นอนลูกสมุนของตัวร้ายอย่างจอว์ส ที่หลายคนชื่นชอบ

 

Moonraker

(1979)

ผู้กำกับ: ลิวอิส กิลเบิร์ต

เรื่องราว: บอนด์เข้าไปสืบเรื่องกระสวยอวกาศของแดร็กซ์ อินดัสทรีส์ที่ถูกจี้ และได้พบกับฮิวโก แดร็กซ์ เจ้าของบริษัท และเจ้าของแผนการร้ายที่ต้องการปล่อยสารพิษเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก เพื่อทำลายมวลมนุษยชาติ บอนด์จึงจับมือกับฮอลลี กูดเฮด ซีไอเอสาวที่ปลอมตัวเป็นนักวิทยาศาสตร์ของแดร็กซ์ อินดัสทรีส์ เพื่อยับยั้งแผนการร้ายนี้

ทุนสร้าง: 34 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 210.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: เป็นหนังบอนด์ที่ทำรายได้สูงที่สุดนานถึง 16 ปี ก่อนที่ GoldenEye จะมาทุบสถิติ แต่นักวิจารณ์ไม่รักหนังภาคนี้สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะพล็อตที่หลุดโลกจนกลายเป็นหนังไซ-ไฟ

ทำไมต้องดู: จะมีสักกี่ครั้งที่เราจะได้เห็นบอนด์ตะลุยอวกาศ

 

For Your Eyes Only

 

(1981)

ผู้กำกับ: จอห์น เกล็น

เรื่องราว: หลังเรือสอดแนมของสหราชอาณาจักรจมลง เซอร์ทิโมธี แฮฟล็อก ได้รับภารกิจกู้ระบบสื่อสารที่อยู่ภายในเรือ เพื่อหาเป้าหมายในการทำลายโดยอัตโนมัติให้ได้ก่อนที่เรือจะตกไปเป็นของรัสเซีย แต่เขาถูกฆ่า ทำให้บอนด์ต้องตามหาผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งนำเขาไปพบกับนักธุรกิจชาวกรีกอย่าง อริสโตเติล คริสทาทอส ที่แอบทำงานให้เคจีบีอย่างลับๆ 

ทุนสร้าง: 28 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 195.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: ได้ชื่อว่าเป็นงานที่พาหนังบอนด์กลับมาเข้าที่เข้าทาง หลังออกอวกาศไปกับ Moonraker

ทำไมต้องดู: นอกจากจะเคร่งขรึมจริงจังมากขึ้น ภารกิจของบอนด์ก็เป็นเรื่องเป็นราว แม้จะไม่หวือหวา แต่ก็มีความน่าสนใจ และยังเป็นการเปิดตัวในฐานะผู้กำกับครั้งแรกของจอห์น เกล็น อดีตคนตัดต่อที่ดีของหนังชุดนี้

 

Octopussy

 (1983)

ผู้กำกับ: จอห์น เกล็น

เรื่องราว: สายลับ 009 ถูกฆาตกรรมที่เบอร์ลินตะวันออก โดยในมือของเขามีไข่ฟาแบร์เฌ ที่มีลักษณะเดียวกันกับไข่ที่ถูกนำไปประมูลการสืบสวนของบอนด์ทำให้ได้พบกับแผนการของคามาล ข่าน เจ้าชาย

ชาวอัฟกันที่ถูกเนรเทศ ซึ่งได้จับมือกับออร์ลอฟ นายพลที่ทรยศประเทศตัวเอง และกำลังหาทางขยายเขตแดนของสหภาพโซเวียตไปยังยุโรป

ทุนสร้าง: 27.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 187.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: ได้รับคำชมในเรื่องของฉากแอ็กชั่น แต่ก็ถูกตำหนิว่าเป็นงานสูตรสำเร็จมากจนเกินไป และยังมีอะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางอยู่มากมายในหนังเรื่องนี้

ทำไมต้องดู: สมควรดูคู่กับ Never Say Never Again หนังบอนด์นอกสารบบของคอนเนอรี ที่ออกฉายชนโรงในปีเดียวกัน เพื่อที่จะพบว่านี่คือหนึ่งในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของหนังบอนด์

A View to Kill

(1985)

ผู้กำกับ: จอห์น เกล็น

เรื่องราว: บอนด์ตามเกาะติดพฤติกรรม

ของแม็กซ์ โซริน มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจเทคโนโลยี เพราะสงสัยว่าเขาน่าจะมีเบื้องหลังเกี่ยวพันกับเคจีบี เลยได้ไปพบเข้ากับแผนการทำลายซิลิคอน วัลเลย์ของโซริน เพื่อตัวเองจะได้ผูกขาดตลาดไมโครชิป

ทุนสร้าง: 30 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 152.4 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: หนังบอนด์ที่ว่ากันว่าไร้แก่นสารที่สุด แม้จะมีฉากดีๆ ที่หอไอเฟลกับสะพานโกลเดน เกต แต่ที่เหลือก็คืออารมณ์ขันประหลาดๆ กับความอ่อนล้าของหนัง แม้จะได้เกรซ โจนส์ มาเป็นเสน่ห์ของหนัง แต่ก็ยังไม่มากพอ 

ทำไมต้องดู: ไม่ใช่แค่เป็นงานอำลาของโรเจอร์ มัวร์ แต่ยังเป็นหนังบอนด์เรื่องสุดท้ายของโลอิส แม็กซ์เวลล์ ที่เล่นเป็นมิสมันนีย์เพนนี ตั้งแต่หนังเรื่อง Dr. No อีกด้วย

 

The Living Daylights

 

(1987)

ผู้กำกับ: จอห์น เกล็น

เรื่องราว: บอนด์ให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เคจีบีแปรพักตร์อย่างนายพลคอสคอฟ และได้รับคำสั่งให้จัดการกับหัวหน้าเคจีบีคนใหม่นายพลพุชกิน แต่ไปๆ มาๆ บอนด์กลับถูกซ้อนแผน เพราะคอสคอฟแอบจับมือกับพ่อค้าอาวุธชาวอเมริกันโกงเงินของเคจีบี เพื่อใช้ในธุรกิจยาเสพติด

ทุนสร้าง: 40 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 191.2 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: โทนของเรื่องที่หม่นขึ้น ทำให้หนังดูจริงจังและเหนือกว่าหนังสองเรื่องสุดท้ายของโรเจอร์ มัวร์ และยังถือเป็นการเปิดตัวที่ดีของทิโมธี ดัลตัน แม้จะขาดอารมณ์ขันไปบ้าง 

ทำไมต้องดู: ครั้งแรกของทิโมธี ดัลตัน ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของบอนด์ที่ซีเรียสมากกว่าเดิม และทำให้หนังตื่นเต้นมากขึ้น 

 

Licence to Kill

(1989)

ผู้กำกับ: จอห์น เกล็น

เรื่องราว: บอนด์กับเฟลิกซ์ ไลเตอร์ ร่วมกันจับตัวฟรานซ์ แซนเชส เจ้าพ่อยาเสพติด แต่ไม่สำเร็จ แถมไลเตอร์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและภรรยาของเขายังถูกฆ่าตาย ทำให้บอนด์ต้องตามล้างแค้น แม้เอ็มจะเรียกตัวกลับมา แต่บอนด์ก็ปฏิเสธ จนเขาถูกยกเลิกสิทธิพิเศษในฐานะสายลับเอ็มไอซิกซ์ กลายเป็นสายลับเถื่อน

ทุนสร้าง: 32 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 156.2 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: ความพยายามที่จะทำให้หนังบอนด์ซีเรียสมากขึ้น ทำให้ความบันเทิงในความหมายของคำว่า ‘สนุกสนาน’ ของหนังจมหายไปด้วย

ทำไมต้องดู: ครั้งสุดท้ายของดัลตัน หนังบอนด์ที่หม่นที่สุด และบอนด์ที่เคร่งเครียดที่สุด

 

Goldeneye

(1995)

ผู้กำกับ: มาร์ติน แคมป์เบล

เรื่องราว: ปี 1986 บอนด์กับเทรเวลแยน (สายลับ 006) ร่วมกันวางระเบิดฐานผลิตอาวุธเคมีของสหภาพโซเวียต แต่เทรเวลแยนถูกยิง ส่วนบอนด์หนีมาได้ขณะเกิดการระเบิด 9 ปีต่อมาบอนด์ต้องจัดการกับองค์กรก่อการร้ายที่ชื่อเจนัส ซึ่งมีแผนใช้โกลเดนอายซึ่งเป็นอาวุธดาวเทียมยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามายังโลก เพื่อทำลายระบบการเงินของสหราชอาณาจักร

ทุนสร้าง: 58 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 356.4 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: แม้จะไม่ใช่หนังบอนด์ที่ดีที่สุด และเป็นหนังเรื่องแรกที่ไม่ยึดติดกับเรื่องของเอียน เฟลมมิง แต่ก็มีความใกล้เคียงกับจิตวิญญาณของหนังชุดนี้มากกว่าหนังอีกหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะตัวร้าย ฉากแอ็กชั่น และพล็อตหนัง

ทำไมต้องดู: นอกจากจะเป็นหนังเรื่องแรกของเพียร์ซ บรอสแนนแล้ว ยังเป็นหนังบอนด์ที่ดีที่สุดของนักแสดงรายนี้อีกด้วย 

 

Tomorrow Never Dies

(1997)

ผู้กำกับ: โรเจอร์ สปอตติสวูด

เรื่องราว: เรือรบสหราชอาณาจักรจมในน่านน้ำของจีนและจรวดมิสไซล์ถูกขโมยไป ก่อนถูกนำไปใช้ยิงเครื่องบินขับไล่ของจีนตก บอนด์เข้ามาสืบสวนเหตุการณ์นี้ และพบว่าเอลเลียต คาร์เวอร์ เจ้าพ่อสื่อคือผู้อยู่เบื้องหลัง และเขาต้องการให้เกิดสงครามเพื่อเพิ่มเรตติ้งรายการ

ทุนสร้าง: 110 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 339.5 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: ครั้งแรกของบรอสแนนในบทบอนด์ที่ออกมาดีมากๆ แต่กับการสานต่อกลับไม่สามารถรักษามาตรฐานเดิมเอาไว้ได้ ตัวร้ายก็มาตามสูตรเดิมๆ คือคนบ้าที่อยากครองโลก ยังดีที่ฉากแอ็กชั่นของหนังสามารถสร้างความตื่นเต้นได้สำเร็จ

ทำไมต้องดู: อีกครั้งสำหรับประเทศไทย ในการเป็นสถานที่ถ่ายทำของหนังบอนด์ 

 

The World is not Enough

(1999)

ผู้กำกับ: ไมเคิล แอ็ปเทด

เรื่องราว: เงินที่บอนด์เอามาคืนให้เซอร์โรเบิร์ต คิง มหาเศรษฐีน้ำมันชาวอังกฤษและเพื่อนของเอ็มถูกวางระเบิดเอาไว้ทำให้คิงเสียชีวิต บอนด์ติดตามถึงที่มาของเงินจนเจอตัวเรนาร์ด สายลับเคจีบีที่หันมาเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งเคยจับอีเล็กตราลูกสาวของคิงไปเรียกค่าไถ่ บอนด์เชื่อว่าเธอตกเป็นเป้าหมายของมันอีก และมันยังมีแผนการเกี่ยวกับระเบิดนิวเคลียร์อีกด้วย

ทุนสร้าง: 135 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 361.7 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: บทก็พื้นๆ การแสดงก็อยู่ในระดับเดียวกัน ยังดีที่มีฉากแอ็กชั่นเด็ดๆ ให้เห็นอยู่หลายฉาก ซึ่งก็พอช่วยให้หนังรอดตายไปได้แบบหวุดหวิด

ทำไมต้องดู: เอาจริงๆ ถือเป็นหนึ่งในหนังบอนด์ที่ควรถูกลืม แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวร้ายของหนังมีความซับซ้อนที่น่าสนใจทีเดียว

 

Die Another Day

(2002)

ผู้กำกับ: ลี ทามาโฮริ

เรื่องราว: บอนด์ถูกเกาหลีเหนือจับตัว เมื่อเขาได้เข้าไปสืบเรื่องของผู้พันแทน-ซัน มูนของเกาหลีเหนือ ซึ่งพัวพันกับการแลกเพชรแอฟริกันเป็นเงิน ก่อนที่จะสังหารเขา หลังถูกคุมขังนานถึง 14 เดือน บอนด์ถูกแลกตัวกับเซา ผู้ช่วยของมูน และการตัดสินใจสืบความเป็นมาของเซาได้นำบอนด์ไปรับรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับมูน และแผนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากดาวเทียมอิคารัสของมหาเศรษฐีกุสตาฟ เกรฟส์

ทุนสร้าง: 142 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 431.9 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: แม้จะเป็นหนังบอนด์เรื่องแรกของศตวรรษใหม่ แต่ก็มีความน่าผิดหวังปรากฏให้เห็นเต็มไปหมด ไม่ว่าจะพล็อตที่บางเกินไป ฉากแอ็กชั่นที่แม้จะล้ำๆ แต่ก็ขาดความน่าสนใจ และอาจจะยืดยาวเกินไปจนดูน่าเบื่อ

ทำไมต้องดู: งานเรื่องสุดท้ายของเพียร์ซ บรอสแนน และการปรากฏตัวบนจอใหญ่อีกครั้งของมาดอนน่า

 

Casino Royale

(2006)

ผู้กำกับ: มาร์ติน แคมป์เบล

เรื่องราว: บอนด์แฝงตัวไปสืบเรื่องกองทุนของพวกก่อการร้าย และเจอแผนระดมทุนผ่านการแข่งขันโปกเกอร์ของเลอ ชิฟฟร์ ที่คาสิโน โรแยล ซึ่งชัยชนะของบอนด์ทำให้มิสเตอร์ไวต์ผู้อยู่เบื้องหลังของเลอ ชิฟฟร์ และลูกค้าที่เป็นผู้ก่อการร้ายอีกหลายรายต้องเปิดเผยตัว

ทุนสร้าง: 150 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 599 ล้านเหรียญสหรัฐ

คำวิจารณ์: การกลับมาของบอนด์ในแบบที่สามารถจัดการควบคุมอะไรที่งี่เง่า และเหล่าสารพัดของเล่นเลอะเทอะ แถมยังเป็นการดัดแปลงจากเนื้อเรื่องต้นฉบับอย่างซื่อสัตย์ ซึ่งมาพร้อมฉากตื่นเต้นหลายๆ ฉาก ถือเป็นการออกตัวที่ดีของแดเนียล เคร็ก

ทำไมต้องดู: นอกจากจะเป็นหนังบอนด์เรื่องแรกของแดเนียล เคร็กแล้ว ยังเป็นงานรีบู๊ตหนังเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่บอนด์จะได้รหัส 007 รวมทั้งเป็นงานที่มาพร้อมกับความสดใหม่ของโทนและสไตล์สำหรับหนังบอนด์

 

Quantum of Solace

(2008)

ผู้กำกับ: มาร์ก ฟอสเตอร์

เรื่องราว: มิสเตอร์ไวต์หนีจากการจับกุมมาได้ บอนด์ตามตัวเขาไปจนถึงเฮติ และได้พบความสัมพันธ์ของเขากับนักอนุรักษ์ธรรมชาติ โดมินิก กรีน ที่กำลังร่วมมือกับนายพลเมดราโน ที่ถูกเนรเทศออกจากโบลิเวีย เพื่อให้เมดราโนได้กลับไปยึดอำนาจ ส่วนกรีนก็จะได้ผูกขาดการดูแลเรื่องน้ำในประเทศทั้งหมด

ทุนสร้าง: 200 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 586 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: ดุเดือดในแบบที่อาจจะลืมหายใจ แต่ก็ยังมาพร้อมอารมณ์ความรู้สึกที่นุ่มนวล ซึ่งผสมผสานกับฉากแอ็กชั่นเข้มๆ ได้อย่างลงตัว แต่เรื่องราวที่เหมือนเป็นส่วนเติมเต็มให้ Casino Royale เพื่อนำไปสู่ Skyfall ทำให้เนื้อหาของหนังนั้นน่าผิดหวังอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ทำไมต้องดู: เพราะเป็นตัวเชื่อมระหว่าง Casino Royale กับ Skyfall 

 

Skyfall

 (2012)

ผู้กำกับ: แซม เมนเดส 

เรื่องราว: เอ็มไอซิกซ์ถูกโจมตี ขณะที่เอ็มถูกตั้งคำถามถึงความสามารถในการทำงาน บอนด์ต้องออกไปสืบหาความจริงและพบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือ ราอูล ซิลวา อดีตสายลับเอ็มไอซิกซ์ ที่เคยถูกสายลับจีนจับตัวไปและถูกทรมาน ซึ่งเขาโทษว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นความผิดพลาดของเอ็ม

ทุนสร้าง: 200 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 1.108 พันล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: นอกจากจะเป็นการกลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกครั้งแล้ว ยังให้ฉากแอ็กชั่นที่ดีที่สุดของหนังบอนด์กับผู้ชมตัวเรื่องก็ชาญฉลาด จนกลายเป็นหนึ่งในหนังบอนด์ที่ดีที่สุด มีความใกล้เคียงจิตวิญญาณของหนังบอนด์ดั้งเดิม และยังวางรากฐานให้กับอนาคตข้างหน้าของหนังได้สำเร็จ 

ทำไมต้องดู: นอกจากจะเป็นหนังบอนด์ตอนที่ดีที่สุด ยังเป็นการอำลาเอ็มที่รับบทโดยจูดี เดนช์ และเป็นการเปิดตัวคิว พร้อมกับมิสมันนีย์เพนนีคนใหม่ 

 

Spectre

 (2015)

ผู้กำกับ: แซม เมนเดส

เรื่องราว: เอ็มส่งข้อความหลังการเสียชีวิตให้กับบอนด์ ทำให้เขาไปขวางทางพวกผู้ก่อการร้ายในเม็กซิโก จนแกเร็ธ มัลลอรี ที่มาดูแลเอ็มไอซิกซ์ สั่งพักงานบอนด์ แต่เขายังคงสืบเรื่องต่อจนนำไปสู่องค์กรอาชญากรรมที่ชื่อสเป็กเตอร์ ซึ่งมีแผนควบคุมเครือข่ายสอดแนมที่ใช้ชื่อรหัสไนน์ อายส์

ทุนสร้าง: 250 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายได้: 880 ล้านเหรียญสหรัฐ 

คำวิจารณ์: เป็นการทำงานในแบบเคารพอดีตของแซม เมนเดส โดยยังพาหนังไปข้างหน้าได้ แม้ว่าหนังอาจจะดูด้อยกว่า Skyfall แต่ความโดดเด่นที่เยี่ยมยอดในหนังบอนด์ตามแบบฉบับของแดเนียล เคร็ก ก็ยังอยู่ครบ และเพิ่มเติมด้วยตัวร้ายสุดคลาสสิกที่ถูกปั้นขึ้นมาใหม่

ทำไมต้องดู: หลังปรากฏตัวอย่างจริงๆ จังๆ ครั้งสุดท้ายใน Diamonds Are Forever โบลเฟลด์ก็กลับมาขึ้นจอเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ทศวรรษ

 

No Time to Die

 (2020)

ผู้กำกับ: แครี โจจิ ฟูกุนากะ

เรื่องราว: บอนด์ต้องวางมือจากภารกิจประจำ เมื่อเฟลิกซ์ ไลเตอร์ ขอให้เขาช่วยตามหานักวิทยาศาสตร์ที่หายตัวไป ที่กลายเป็นการลักพาตัวในเวลาต่อมา 

ทุนสร้าง: 250 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทำไมต้องดู: นี่คืองานอำลาบทบอนด์ของแดเนียล เคร็ก และเป็นหนังบอนด์ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุด


สตีเฟน ฮอว์กิ้งกับคำถามสำคัญของเอกภพ


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

สตีเฟน ฮอว์กิ้งกับคำถามสำคัญของเอกภพ

Timothy Omundson on stroke recovery, ‘Psych’ film, \u0026 ‘This is Us’ role


Timothy Omundson has an inspiring conversation with Larry King about why he considers himself lucky after surviving a massive stroke and how he keeps a positive attitude. He also discusses his latest roles in ‘Psych’ and ‘This is Us.’
Learn More About Your Favorite Celebs on ‘If You Only Knew’:
https://www.youtube.com/playlist?list=PL_aM6zT_VC5YGGrVL6zGjxxD1SQsG3KkI
TimothyOmundson

Timothy Omundson on stroke recovery, ‘Psych’ film, \u0026 ‘This is Us’ role

สุดเจ๋ง!เด็กชายวัย 14 ปี ไอคิวสูงกว่า ‘ฮอว์คิง – ไอน์สไตน์’


1 ในพันล้าน! เด็กชายวัย 14 ปี จากอังกฤษไอคิวสูงกว่านักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกอย่าง‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์สตีเฟน ฮอว์คิง’
TNN24 ออกอากาศทางทีวีช่อง 16
ชมสดได้ที่ http://www.tnnthailand.com/player.php
เกาะติดข่าวเด่นประจำวันได้ที่
http://www.tnnthailand.com
http://www.fb.com/TNN24
http://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnnthailand/
สถานีข่าวโทรทัศน์ TNN24 เป็นสถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น ทันทุกความจริง รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ

สุดเจ๋ง!เด็กชายวัย 14 ปี ไอคิวสูงกว่า ‘ฮอว์คิง - ไอน์สไตน์’

The Theory of Everything คำคม สตีเฟน ฮอว์คิง


The Theory of Everything  คำคม สตีเฟน ฮอว์คิง

น้องฮอร์ส เส้นเลือดในสมองแตก แต่กลับมาได้แบบปาฏิหารย์ เพราะ พลังรักในฟุตบอล | ซูเปอร์เท็น | SUPER 10


รายการ Super 10
ทุกวัน เสาร์ เวลา 16.45 น.
ช่อง 23 เวิร์คพอยท์
ติดตามข่าวสารได้ที่http://www.facebook.com/workpoint
และเว็บไซต์ http://www.workpointtv.com

น้องฮอร์ส เส้นเลือดในสมองแตก แต่กลับมาได้แบบปาฏิหารย์ เพราะ พลังรักในฟุตบอล | ซูเปอร์เท็น | SUPER 10

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ทิโมธี ฮอว์คิง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *